ภาพยนตร์/นพมาส แววหงส์

HUSTLERS

‘นักล่ากับเหยื่อ’

 

กำกับการแสดง Lorene Scafaria

นำแสดง Constance Wu Jennifer Lopez Julia Stiles Mercedes Ruehl

 

นี่คือเรื่องราวของกลุ่มสาวบริการในคลับระบำเปลื้องผ้าในมหานครนิวยอร์กในยุครุ่งเรืองอู้ฟู่ที่สุดและตกต่ำเรี่ยดินที่สุดของสหัสวรรษใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้นมาเพียง 20 ปีนี้เอง

จำกัดวงลงอีกนิดคือ หนังเปิดเรื่องเมื่อ ค.ศ.2007 โดยติดตามตัวละครเอกคือ โดโรเลส (คอนสแตนซ์ วู หมวยสุดสวยจาก Crazy, Rich Asians) หรือมีชื่อในวงการสตริปเปอร์ว่า “เดสตินี่”

สตริปคลับ เป็นคลับที่มีนักเต้นนุ่งน้อยห่มน้อยและค่อยๆ เปลื้องไปทีละชิ้น ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า “สตริป” ซึ่งแปลว่าเปลื้องหรือถอดออก สมัยก่อนผู้เขียนเคยได้ยินผู้ใหญ่เรียกสถานที่แบบนี้ว่า “โรงระบำจ้ำบ๊ะ” ซึ่งมีอยู่แถวๆ เยาวราช แต่สมัยนี้คงหาได้แถวพัฒน์พงศ์ หรืออาร์ซีเอกระมัง

สาวๆ ในวงการนี้มีชื่อเก๋ๆ แปลกๆ ที่ไม่น่าจะมาจากพ่อ-แม่ตั้งให้ แต่เป็นชื่อที่อยากได้ยินคนอื่นเรียกตัวเอง เช่น ในหนังเรื่องนี้มีสาวบริการชื่อ โชคชะตา (Destiny) ยุติธรรม (Justice) เพชร (Diamond) แก้วผลึก (Crystal) นางฟ้า (Angel) ดาว (Star) อรุณรุ่ง (Dawn) เป็นต้น

อ้อ เรื่องนี้มีที่มาจากเหตุการณ์จริงนะคะ เพราะสร้างขึ้นจากบทความที่ลงในนิตยสารนิวยอร์ก ซึ่งเป็นคดีความที่โจษจันกันมากคดีหนึ่ง

 

หนังเดินเรื่องในลักษณะของการสัมภาษณ์จากคนหนึ่งที่มีส่วนอยู่ในการต้มตุ๋นครั้งใหญ่นี้ ระหว่างนักข่าวที่มาสัมภาษณ์ชื่อเอลิซาเบธ (จูเลีย สไตล์ส) กับเดสตินี่

เหตุการณ์เริ่มใน ค.ศ.2007 และเป็นวันแรกของการทำงานในคลับเปลื้องผ้าของสาวสวยชาวจีน ที่พ่อ-แม่อพยพเข้ามาอยู่ในอเมริกา พ่อทิ้งไปก่อน และแม่เอาลูกน้อยไปทิ้งไว้ให้ยายเลี้ยงดูโดยไม่ได้ส่งเสียหรือกลับมาดูดำดูดีอีกเลย

หนังพาเราเข้าไปรู้จักเบื้องหลังเวที เริ่มตั้งแต่ในห้องแต่งตัวของสาวสวยแต่งตัวชะเวิกชะวาก หลากหลายเผ่าพันธุ์ ต่างผิวต่างสีต่างเชื้อชาติ และมองผ่านสายตาของสาวน้อยเดสตินี่ที่เพิ่งเข้าทำงานในสถานเริงรมย์แห่งนี้ แบบมือใหม่หัดขับ โดยไม่มีใครสอนหรือให้คำแนะนำมาก่อน

เดสตินี่ไร้ประสบการณ์ ทำตัวเคอะเขิน เก้งก้าง ได้รับค่าตอบแทนซึ่งถูกหักหัวคิวยุบยับหลายทอด จนแทบไม่เหลือเศษเงินค่าแรงกลับบ้านสักเท่าไร

เธออยู่กับยาย (ไว ชิง โฮ) ผู้อุ้มชูเลี้ยงดูเธอมาตามลำพังจวบจนเติบใหญ่ และคุณธรรมความกตัญญูของคนจีนปรากฏชัดให้เห็นในตัวสาวน้อยผู้ต้องตีนถีบปากกัดต่อสู้ชีวิตอันยากลำบากต่อไปเมื่อยายชราภาพจนทำงานหาเงินไม่ได้อีกต่อไป

วันต่อมา เธอได้เห็นสาวใหญ่ผู้เจนโลก ชื่อ ราโมนา (เจนนิเฟอร์ โลเปซ) เต้นระบำบนเวทีอยู่กับเสาเพียงต้นเดียว ด้วยลีลาเย้ายวนและยั่วยุปลุกใจเสือป่า ท่ามกลางธนบัตรที่ปลิวว่อนโปรยปรายให้จากลูกค้าข้างเวที บ้างก็เหน็บแบงก์ซุกไว้กับกางเกงในจีสตริงของเธอ

ซูเปอร์สตาร์ “เจ.โล.” ควักเอากลเม็ดเด็ดพรายในอาชีพการเต้นของเธอมาใช้หมดไส้หมดพุงสำหรับบทนี้เลยทีเดียว ส่งผลให้ในชีวิตจริง เธอได้รับการกล่าวขวัญถึงและรางวัลมากมายพอดูจากบทบาทนี้

ตกดึกในคืนเดียวกันนั้นเอง เดสตินี่ขึ้นไปสูบบุหรี่บนดาดฟ้าตึก และพบราโมนานั่งพักสมองสูบบุหรี่อยู่คนเดียว ราโมนาเวทนาเด็กหน้าใหม่ในชุดนุ่งน้อยห่มน้อยผู้มองเธออย่างชื่นชมบูชา จึงชวนเธอเข้าไปหาความอบอุ่นจากเสื้อโค้ตขนสัตว์ตัวโคร่งของเธอ

และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ฉันพี่น้องในครอบครัวเดียวกันซึ่งจะยืนยาวต่อมาอีกหลายปี

 

จะว่าไป ราโมนาทำตัวเป็นแม่ไก่ที่อ้าปีกปกป้องลูกน้อยมากกว่าจะเป็นพี่สาวคนโต เธอรับเดสตินี่เข้ามาอยู่ใต้ปีกของเธอ สอนลีลาการเต้นและกลเม็ดทุกอย่างในการดูดเงินจากลูกค้าผู้ชายหื่นกามที่เข้ามาหาความบันเทิงในคลับเปลื้องผ้าในมหานครใหญ่

ลูกค้าส่วนใหญ่หรือทั้งหมดเป็นหนุ่มที่ทำงานในย่านการเงินชื่อดัง หรือตลาดหุ้นวอลล์สตรีตของนิวยอร์ก คนพวกนี้ทำเงินมหาศาลให้แก่ตัวเองในยามกลางวัน ตกกลางคืนก็ถึงเวลาใช้เงินที่ได้มาอย่างบ้าคลั่งด้วยความบ้าคลั่งพอๆ กัน

ลูกค้ารายใหญ่ๆ เป็นซีอีโอของบริษัทการเงินซึ่งรวยไม่รู้เรื่อง และใช้เงินโปรยปรายเป็นฟ่อนในคืนหนึ่งๆ ลูกค้าพวกนี้มีห้องส่วนตัว ซึ่งเรียกว่า “ห้องแชมเปญ” และสาวบริการจะได้เงินเป็นกอบเป็นกำจากคนพวกนี้

ราโมนาทำงานจับคู่กับเดสตินี่ และสอนเดสตินี่ให้รู้ทุกอย่างในวงการนี้

แม้แต่การกวาดตามองครั้งเดียวก็จะรู้ว่านี่คือเหยื่อที่จะใช้เงินมากมายกับพวกเธอหรือไม่

ก่อนอื่นเธอบอกให้ดูรองเท้าของเขา แล้วจึงดูแหวนแต่งงาน ผู้ชายที่แต่งงานแล้วจะมาหาความบันเทิงและใช้จ่ายกับสาวบริการมากเป็นพิเศษ

เดสตินี่ให้สัมภาษณ์ว่า ในช่วงเวลาสูงสุดที่เธอหาเงินได้นั้น เธอหาเงินได้มากกว่าศัลยแพทย์ในอเมริกาเสียอีก…แน่นอนว่าหมอผ่าตัดอยู่ในกลุ่มอาชีพที่มีรายได้สูงสุดกลุ่มหนึ่ง

และนางระบำเปลื้องผ้าเหล่านี้ไม่ต้องร่ำเรียนคร่ำเคร่งเหน็ดเหนื่อยหลับพับไปกับตำราแพทย์เพื่อที่จะได้มีรายได้สูงลิ่วขนาดนั้น

 

เดสตินี่แชร์ความตื่นเต้นในประสบการณ์การทำงานในคลับของเธออีกเรื่องว่า มีซูเปอร์สตาร์นักร้องเข้ามาที่คลับ ซึ่งทำให้กรี๊ดกันลั่นและดีเจเปิดเพลงของเขาสนั่น คือนักร้อง “อัชเชอร์” (Usher Raymond) ซึ่งมาปรากฏตัวเล่นด้วยตัวจริงเสียงจริงเลย

เมื่อหาเงินได้มาก การใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่ายก็มากขึ้นเป็นเงาตามตัว กระเป๋า-รองเท้าแบรนด์เนมเป็นความฟุ่มเฟือยที่สามารถหามาได้

ที่น่าขันคือ สาวพวกนี้จ่ายค่าสินค้าสูงลิ่วด้วยธนบัตรใบละหนึ่งดอลลาร์ปึกใหญ่ที่พวกเธอได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรง พนักงานขายของตามร้านงงไปเลยเมื่อรับเงินมาเป็นปึกใหญ่และต้องรับเงินที่ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายมือเป็นระวิง

และแล้ว ค.ศ.2008 ก็มาถึงพร้อมกับวิกฤตการณ์การเงินครั้งใหญ่ที่ผกผันชีวิตของผู้คนในอเมริกา

ตลาดหุ้นตกต่ำ คนทำงานที่วอลล์สตรีตตกงาน บริษัทการเงินล้มละลาย

ซึ่งก็หมายถึงว่าคลับเหล่านี้ขาดลูกค้าเข้ามาอุดหนุนหรือใช้บริการอีกต่อไป

นั่นเป็นช่วงของการปรับตัวครั้งใหญ่ และเดสตินี่หันไปใช้ชีวิตครอบครัว เลี้ยงดูลูกน้อย โดยมีคนหาเลี้ยง

แต่เมื่อต้องตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเลี้ยงลูกตามลำพัง และไม่สามารถหางานอื่นที่ต้องอาศัยประสบการณ์ทำงานได้ เธอก็เผอิญได้เจอราโมนาอีกครั้ง

และนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของแผนการใหญ่ของแก๊งสาวนักต้มตุ๋นที่มีราโมนาเป็นหัวหน้าแก๊ง เหยื่อของพวกเธอคือผู้ชายกระเป๋าหนักทั้งหลายที่หาเศษหาเลยกับสาวบริการ

 

นักล่าตกเป็นเหยื่อ และผู้ที่เคยเป็นเหยื่อกลายเป็นนักล่าบ้าง

ประเด็นก็คือ เหยื่อของการต้มตุ๋นเหล่านี้ไม่ค่อยได้รับความเห็นใจจากใครที่ไหนนัก เนื่องเพราะอาชีพของนักการเงินที่วอลล์สตรีตก็ถูกมองว่าเป็นนักต้มตุ๋นแบบหนึ่ง ซึ่งปั่นหุ้นปั่นเงินหาเหยื่อจากเงินสะสมทั้งชีวิตของคนที่ทำงานสุจริตหาเช้ากินค่ำ และทำให้คนพวกนั้นล้มละลายในพริบตา

มีฉากหนึ่งที่ผู้ชายที่ถูกรูดบัตรจนเกลี้ยงวงเงินในบัตร โทร.ไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ บอกว่าเขาโดนหลอกในสถานเริงรมย์ แล้วตำรวจวางหูไปทันทีโดยไม่ให้ความสนใจเลย

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ก็เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายและถูกดำเนินคดีความ ซึ่งแต่ละนางก็มีชะตากรรมของตัวเอง

ไม่หนักหนาสาหัสนักหรอกค่ะ…ตามตัวหนังสือท้ายเรื่องที่ขึ้นจอ

และ “เดสตินี่” เองก็เป็นคนกำหนดชะตาชีวิตของตัวเองในการเลือกทางเดินในชีวิตด้วย