อนุสรณ์ ติปยานนท์ : ชีวิตของ “จามอน”

ปากะศิลป์ฉบับอ่านใหม่ (26)
เรื่องเล่าจากเหมืองเกลือบทที่สี่

เอสเตด้าตื่นขึ้นแต่เช้าตรู่ สามีของเธอไม่ได้อยู่ที่เตียงซึ่งเป็นเรื่องปกติ เขามักตื่นขึ้นก่อนเธอเสมอ ตรงไปที่คอกหมูของครอบครัว เธอนึกภาพของเขาในตอนนี้ได้แจ่มชัด เขากำลังหิ้วถังเหล็กสองถังที่เต็มไปด้วยอาหารหมูและออกเดินแจกจ่ายให้กับหมูตัวอ้วนเหล่านั้นที่กำลังวิ่งอยู่ในทุ่ง

อีกไม่นานจะถึงเดือนพฤศจิกายนแล้ว อีกไม่นานงานหนักกำลังจะมาถึง การฆ่าหมูจำนวนมากในเวลาเดียวกันไม่ใช่เรื่องสนุก แต่นั่นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้นเอง

การใส่เกลือกับขาหลังของหมู การนำหมูขึ้นตาก การหมั่นตรวจสอบมันล้วนเป็นงานที่ต้องใช้เวลาและความตั้งใจ

ในบางครั้งเอสเตด้าก็เห็นใจสามีของเธอ การแต่งงานกับสมาชิกของตระกูลที่ต้องแบกรับ “อาหารทางจิตวิญญาณ” ในแต่ละวัฒนธรรมไม่ใช่เรื่องง่าย

แต่หลายสิบปีที่ผ่านมาเธอคิดว่า เอนริเก้น่าจะคุ้นชินกับสิ่งนี้แล้ว

ไฟในเตาถูกจุด เอสเตด้าต้มข้าวเม็ดกลมกับเนย พร้อมกับอุ่นซุปเนื้อที่ค้างคืน

อากาศภายในครัวเย็นจนเธอต้องสวมเสื้อคลุมอีกตัวหนึ่งทับชุดนอน

เธอเหลือบมองดูเวลาจากนาฬิกาบนฝาผนัง อีกสิบนาทีได้เวลาที่เธอจะปลุก ดาเนียลล่า ลูกสาวคนเดียวของเธอ ในชนบทที่ห่างไกลเช่นนี้ การมีโรงเรียนที่ทำให้เด็กไม่ต้องวิ่งเล่นไปมาตามท้องทุ่งเป็นสิ่งที่เธอรู้สึกว่าเหมาะสม

มิเช่นนั้นแล้ว วันในแต่ละวันของเธอคงหมดไปกับการดูแลลูกสาวผู้นี้เป็นแน่

อาหารเช้าถูกตระเตรียมเรียบร้อยแล้ว ดาเนียลล่าเองก็เปลี่ยนชุดพร้อมสำหรับการไปโรงเรียน แต่เอนริเก้ยังไม่กลับมา

เอสเตด้าตั้งหม้อกาแฟบนเตา เธอคำนวณเวลาทุกอย่างอย่างละเอียดถี่ถ้วน

สิบกว่าปีของชีวิตคู่ทำให้เธอแทบจะทำอะไรทุกอย่างภายในบ้านโดยสัญชาตญาณ

เช่นเดียวกันกับเอนริเก้ เขาแทบจะไม่เคยผิดพลาดเรื่องเวลาเลย โดยเฉพาะเวลาของครอบครัว

เอสเตด้ายืนรออยู่ที่เตาชั่วครู่ ในขณะที่ดาเนียลล่าตักซุปและข้าวกินจนหมดชาม เสียงรถโรงเรียนบีบแตรหน้าบ้าน

ดาเนียลล่าลุกจากเก้าอี้มาหอมแก้มเธอ ก่อนที่จะวิ่งออกจากประตูไป

 

เอสเตด้ายืนนิ่งอยู่ชั่วครู่ก่อนที่เธอจะปิดเตา ไม่มีประโยชน์ที่จะต้มกาแฟในเวลานี้ บางทีเอนริเก้อาจประสบอุบัติเหตุ บางทีหมูอาจหลุดหายไปบางตัว และบางทีอาจมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน

ระยะทางจากบ้านของเธอไปจนฟาร์มกินเวลาราวสิบนาที เมื่อเธอไปถึงที่นั่น หมูพันธุ์ไอบีเรียนที่แลเห็นต่างพากันส่งเสียงร้องด้วยความหิว ไม่มีเอนริเก้ในบริเวณนั้น ไม่มีแม้แต่เงาของเขา

เอสเตด้าออกเดินไปรอบทุ่ง ไม่สนใจเสียงร้องของหมู ไร้วี่แวว หลังการค้นหานานนับชั่วโมง ไร้วี่แววของเอนริเก้

เอสเตด้ากลับมาที่บ้าน เธอตรงไปยังโรงเก็บหมูเค็มหรือโบเดาส์ที่สร้างเป็นอาคารอีกหลังแยกออกไป ไม่มีเอนริเก้ที่นั่นอีกเช่นกัน

เขาผู้เป็นสามีของเธอได้หายสาบสูญไปแล้ว

 

สาวน้อยผู้นั้นเล่าเรื่องราวของเธอให้เขาฟังอย่างต่อเนื่อง เขาดื่มน้ำแร่จนหมดขวด แต่คร้านที่จะไปสั่งมันเพิ่มใหม่ น่าแปลกที่นักท่องเที่ยวอีกกลุ่มยังไม่กลับมาจากเหมืองเกลือ ไม่ไกลนักเขาแลเห็นไกด์นำทางนั่งกระวนกระวายอยู่ที่โต๊ะอีกตัว ไกด์มองเวลาในนาฬิกาข้อมือรอบแล้วรอบเล่า แต่ไม่มีใครปรากฏตัวขึ้น

“ฉันเขียนฉากบันทึกเหตุการณ์วันนั้นไว้ในหัวครั้งแล้วครั้งเล่า แต่คุณเป็นบุคคลที่สองที่ฉันเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง”

“คงไม่แปลกใช่ไหมที่ผมจะถามว่าใครเป็นคนแรก?”

“คนรักเก่าของฉัน” สาวน้อยผู้นั้นตอบ “ฉันเล่าให้เขาฟังเมื่อเราเริ่มต้นรู้จักกันใหม่ๆ เขาถามฉันว่าถ้าหากครอบครัวของฉันทำจามอนมาแต่ในอดีต เพราะสิ่งใดถึงเลิกราไป”

“จามอนของตระกูลคุณคงมีชื่อเสียงมาก”

“ไม่มากและไม่น้อย เราเป็นไม่กี่ตระกูลในละแวกนั้นที่ทำจามอน และคนรักเก่าของฉันมาจากบริเวณเดียวกัน สเปนมีหลายสิ่งที่เป็นของซึ่งถูกนับว่าเป็นสมบัติของชาติและน่าแปลกที่หลายสิ่งนั้นเป็นอาหาร น้ำมันมะกอกจากอันดาลูเซียก็เป็นสิ่งหนึ่ง ขาหมูเค็มหรือจามอนจากคาบสมุทรไอบีเรียก็เป็นอีกสิ่ง การมีวัตถุดิบที่ดีเช่นนี้ไม่น่าแปลกใจที่เราจะผลิตเชฟผู้สามารถจำนวนมาก เฟอราน อาเดรีย อังเจล ลีออน ฮวน โยก้า และอีกหลายคน อาหาร ดนตรี งานศิลปะ เป็นสิ่งที่เราชาวสเปนเพลิดเพลินกับมันมาก”

“ฟุตบอลก็ด้วย รีล แมดริด บาร์เซโลน่า” เขาเสริม

“ใช่” สาวน้อยหัวเราะ “แต่นั่นไม่ได้เป็นสิ่งที่ฉันนึกถึงเท่าไหร่นัก”

“คุณพ่อของคุณไม่ได้กลับมาอีกเลยนับจากนั้น”

“ไม่ พ่อหายสาบสูญไป ไม่มีใครพบเจอท่านอีก ในตอนแรกเราคิดว่าท่านอาจหลบหนีอะไรบางอย่าง ครั้นแล้วเราก็นึกถึงปัญหาเรื่องชู้สาว แต่เมื่อหลายเดือนผ่านไปเราก็นึกถึงสิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นอย่างการฆาตกรรม มีการค้นหาแบบปูพรมอีกครั้ง แต่ไม่มีหลักฐานใดๆ ราวกับพ่อลุกขึ้นจากเตียงกลางดึก เปิดหน้าต่างแล้วบินหายไปในอากาศที่เวิ้งว้าง”

“ผมเสียใจด้วย” เขาเอ่ย

“มันเป็นเรื่องที่นานมากทีเดียว แต่ก็ขอบคุณสำหรับความเห็นใจ”

 

“ครอบครัวคุณทำอะไรต่อจากนั้น หลังจากการต้องยุติการทำจามอน”

“แม่ขายกิจการ อันที่จริงแล้วมันคือการขายสูตรลับในการทำจามอนมากกว่า ทุกตระกูลล้วนมีคามลับเกี่ยวกับอาหารที่ตนเองทำ ปริมาณเกลือ ประเภทของเกลือ อายุของหมู ประเภทของหมู การตัดแต่งเนื้อหมูก่อนใส่เกลือ รายละเอียดเหล่านี้คือการสั่งสมของภูมิปัญญา ครอบครัวเราขายภูมิปัญญาเหล่านี้ให้กับบริษัทขนาดกลางแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นแม่พาฉันมาอยู่ในเมือง ชีวิตของฉันเปลี่ยนไปและไม่เหมือนเดิมอีกนับจากนั้น”

“คุณเลยมาที่นี่เพื่อบนบานหรือวิงวอนหรือสวดอ้อนวอนให้นักบุญคิงกาช่วยให้ได้พบกับคุณพ่อของคุณอีก”

“ไม่ใช่เลย” สาวน้อยสั่นศีรษะ “ไม่ว่าอย่างไร ฉันคิดว่าพ่อคงไม่มีชีวิตอยู่อีกแล้วหรือไม่ก็แม้นว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่ เขาคงไม่อยากพบพวกเราอีกต่อไป สิ่งที่นำพาฉันมาที่นี่คือการสวดอ้อนวอนให้แม่ได้สัมผัสเกลืออีกเช่นบุคคลทั่วไป”

 

บทสนทนาถูกขัดจังหวะ ในที่สุดกลุ่มนักท่องเที่ยวสูงอายุกลุ่มนั้นก็กลับขึ้นมาจากเหมืองเกลือ พวกเขาแลดูเหนื่อยอ่อน ทุกคนคว้าขวดน้ำที่เตรียมไว้ให้โดยไกด์นำทาง หลายคนสั่งเครื่องดื่มเพิ่ม

ชายหนุ่มลุกขึ้นจากโต๊ะ เขาตรงไปที่บาร์ สั่งกาแฟสองแก้ว แต่เมื่อเขากลับมาที่โต๊ะ ก็ไม่มีสาวน้อยที่นั่นแล้ว เขามองไปข้างนอก เธอยืนสูบบุหรี่ พ่นควันออกมาอย่างต่อเนื่อง

เขาฉวยสิ่งของทั้งหมดของเธอรวมถึงผ้าพันคอสีเทาที่เธอให้เขาหยิบยืมก่อนจะเดินออกจากร้าน เขายื่นแก้วกาแฟให้เธอ เธอใช้มือข้างที่เหลืออยู่รับแก้วกาแฟ จิบมัน ก่อนจะหันมาสูบบุหรี่ในมือ

เสียงรถโดยสารสตาร์ตเครื่อง นักท่องเที่ยวต่างทยอยกันขึ้นไปบนรถ

ทั้งเขาและเธอขึ้นรถเป็นคู่สุดท้าย

ตลอดทาง หญิงสาวไม่ได้พูดอะไรอีกเลย เธอไม่ได้ต่อบทสนทนา ส่วนเขาก็หวนคิดถึงความสัมพันธ์ของตนเองกับเกลือ

เขาชิมเกลือครั้งแรกจากน้ำทะเลในช่วงฤดูร้อนปีนั้นไหม หรือก่อนหน้านั้นจากขวดเพราะความเข้าใจผิดว่ามันเป็นน้ำตาล รายละเอียดแน่ชัดนั้นเขาจำมันไม่ได้

อย่างไรก็ตาม เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่เขารู้สึกปลอดโปร่งใจ เขาไม่รู้สึกเศร้าหรือผิดหวังดังแต่ก่อน คล้ายกับว่ามีบางสิ่งเปิดของเสียในจิตใจของเขาและระบายมันออกมา

รถโดยสารตระเวนส่งนักท่องเที่ยว เมื่อถึงโรงแรมของเขา ชายหนุ่มลุกออกจากที่นั่ง เขาตั้งใจจะขอบคุณสาวน้อยผู้นั้นอีกครั้งต่อการให้หยิบยืมผ้าพันคอของเธอ

ทว่าเมื่อเขาลงจากรถ หันหลังเตรียมขอบคุณเธอ สาวน้อยผู้นั้นก็เดินตามเขาลงมา เขาแน่ใจว่าเธอไม่ได้พักอยู่ที่โรงแรมเดียวกับเขา เพราะเช้าวันนั้นมีเขาเพียงคนเดียวที่ขึ้นรถโดยสาร แต่แทนคำถาม สาวน้อยผู้นั้นเอ่ยถ้อยความที่ทำให้เขาได้รับคำตอบในคราเดียว

“ฉันจะสนทนาต่อกับคุณ เรายังไม่ได้พูดถึงเกลือจากมหาสมุทรแอตแลนติกและชีวิตที่ปราศจากเกลือของแม่ฉันเลย”