ครูหนุ่ม ซุมบ้า : สุขเพิ่มขึ้นนิด แข็งแรงขึ้นอีกหน่อยจากใจถึงใจ ช่วงกักตัวหนีโควิด-19

ครูหนุ่ม ซุมบ้า หรือยอดชาย ยมะคุปต์นั้น เป็นคนในลำดับต้นๆ ที่ออกมาประกาศตั้งแต่ช่วงที่มีการรณรงค์ให้คนใช้เวลาอยู่บ้าน, เวิร์ก ฟรอม โฮม เพื่อหลีกเลี่ยงโอกาสติดเชื้อโควิด-19 ว่าเขาจะไลฟ์สดการเต้น ชวนให้คนออกกำลังกายตามแบบฟรีๆ

เหตุที่การนี้ไม่คิดเงิน ทั้งๆ ที่ในภาวะปกติคนจะเข้าคลาสเรียนเต้นกับครูซึ่งมีชื่อเสียงอย่างเขาจะต้องมีค่าใช้จ่ายในระดับที่ “พอสมควร” นั้น เจ้าตัวแจงสั้นๆ ว่า ก็เพื่อคืนกลับให้สังคม

บอกด้วยว่า ที่ผ่านมาเขาก็เคยไปเปิดคลาสให้คนเต้นแบบไม่คิดสตางค์ปีละครั้ง ในงาน Fit Fest เพียงแต่งานนั้นไม่มีไลฟ์ แถมพื้นที่ก็รองรับคนได้เพียงจำนวนหนึ่ง ซึ่งที่ผ่านมา “มีเสียงตอบรับเยอะมากเลย ว่าทำยังไงดี อยากจะเต้นกับหนุ่มบ้าง”

ดังนั้น พอมีการชวนๆ กัน ให้บรรดาครูสอนออกกำลังกายออกมาทำกิจกรรมในช่วงเวลานี้ จึงตอบรับโดยไม่ลังเล

“เพราะหนุ่มสามารถที่จะเอาการเต้นที่สนุก มาเอ็นเตอร์เทนเขา ให้เขาเต้นอยู่ในบ้าน อันนี้คือสิ่งสำคัญ อยากจะให้มองตรงนี้ว่า เราโฟกัสที่ออกกำลังกายอยู่บ้าน อย่าไปไหน เป็นจุดมุ่งหมายหลัก”

เรื่องสตุ้งสตางค์ ณ จุดนี้เขาไม่ได้คิดถึง บอกว่าแค่ทำให้คนบางคนที่เครียดกับการต้องอยู่บ้านนานๆ ได้ผ่อนคลาย ให้คนที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย สามารถดูแลตัวเองให้แข็งแรงขึ้นมาได้ ก็คุ้มละ

“หนุ่มเป็นครูสอนเต้น ที่เป็นครู ไม่ได้คิดแต่จะทำบิสซิเนสมาตั้งแต่สมัย 20 กว่าปีแล้ว”

“สมัยก่อนตอนเป็นครูสอนแอโรบิก แล้วมีการแข่งขันแอโรบิก ตัวหนุ่มเองก็ส่งทีม แต่พอไปถึงสถานที่แข่ง เห็นทีมอื่นๆ ทีมน้องๆ ที่ยังไม่ค่อยเก่งซ้อมเต้นกัน เรามีความรู้ก็บอกเขาดีกว่า น้องตรงนี้แก้ไขนิดนึง ทำอย่างนี้นะ แล้วน้องจะเต้นดีขึ้น”

“รู้สึกว่าความรู้ที่เรามี เราควรที่จะกระจายออกไป”

เช่นเดียวกับที่คิดว่า ถ้าทำอะไรให้ประเทศชาติได้ ก็ทำเถอะ

“เป็นครูสอนเต้น เราก็คงทำอะไรให้กับประเทศชาติได้ไม่เยอะหรอก” เขาบอกในสิ่งที่คิด

“แต่สิ่งที่เราทำได้ เราควรทำ อย่างน้อยทำให้คนอื่นมีความสุข จากความรู้ที่เราเรียนมาเยอะแยะ ก็น่าจะทำ”

“แล้วหนุ่มเชื่ออยู่เสมอว่าหนุ่มมีวันนี้ได้ เพราะหนุ่มให้คนอื่น”

“เหมือนเวลาเราจะพูดอะไรให้ใครฟัง เราต้องคิดก่อน เพื่อมั่นใจว่าสิ่งที่เราจะพูดมันถูกต้อง เหมือนเราต้องขัดเกลาก่อนส่งต่อ ดังนั้น เรายิ่งให้ก็เท่ากับเรายิ่งขัดเกลาให้แหลมคม”

ขณะเดียวกันยังตระหนักมาตลอดว่าสังคมให้อะไรเขามาเยอะ

“หนุ่มเคยเป็นคนที่ไม่ได้มีสตางค์มาก่อน คือไม่ถึงกับยากจน แต่สังคมให้โอกาสได้ลืมตาอ้าปากได้ ได้มีบ้าน มีชีวิตที่ดีขึ้น ทำไมเราไม่คืนให้เขา”

“ช่วง 3-4 ปีที่แล้วซุมบ้าดังมาก แล้วคนก็จะมาเต้นกับหนุ่ม ดารา ศิลปิน มากันเต็มไปหมด หลายๆ คนเขารู้สึกสนุก เขาก็แชร์ในเฟซบุ๊ก แชร์อะไรออกไป ซึ่งนี่แหละเป็นสิ่งที่หนุ่มรู้สึกว่าได้รับจากสังคมจริงๆ แทนที่เราจะต้องเสียเงินไปโปรโมตตัวเอง แต่สังคมช่วยกันแชร์สิ่งที่หนุ่มเป็นอยู่ ทำให้คนเข้ามา หนุ่มก็ได้รับสิ่งดีๆ จากตรงนั้น ทำให้ผ่อนบ้านได้ มีอะไรได้มาจนถึงทุกวันนี้”

“และเมื่อเราได้เยอะขนาดนี้ ถ้าไม่คืนกลับสู่สังคมบ้าง มันก็จะเป็นการเอาเปรียบคนอื่นจัง”

การไลฟ์สดของเขานั้น เจ้าตัวบอกว่าในช่วงนี้พยายามจะทำให้ได้ในทุกวันที่มีเวลาว่าง โดยผู้สนใจสามารถติดตามได้ทางเฟซบุ๊ก Num Zumba Thailand ทั้งนี้ ก่อนที่จะทำเขาไม่ได้คิดเลยว่าจะมีคนมาร่วมเต้นมากขนาดไหน ด้วยเหตุนี้พอรู้ว่าในบางวันมีคนดูไลฟ์แล้วเต้นไปพร้อมๆ กันถึง 15,000 คน ก็รู้สึกชื่นใจ

ครูสอนเต้นคนดังที่ปัจจุบันอายุได้ 47 ปี และมีประสบการณ์การสอนมาแล้ว 20 ปีบอกด้วยว่า ความที่คนร่วมเต้นครั้งนี้มาจากหลากหลายกลุ่มประเภท พื้นฐานที่มีก็ไม่เท่ากัน ดังนั้น เขาจึงพยายามเลือกท่าที่ไม่ยากเกินไป เพื่อให้ทุกคนเต้นตามได้อย่างไม่มีปัญหา

แต่เดี๋ยวก่อนนะ อย่าได้คิดเชียวว่ามันจะเป็นการเต้นพื้นๆ ที่น่าเบื่อ สุดหน่าย เพราะ “เต็มที่แหละ” เขาบอก

“สอนในคลาสยังไง ก็ไลฟ์แบบนั้น”

บางวันจึงจะมาในธีมเจน ฟอนด้า ชวนให้ทุกคนแต่งกายเลียนแบบ ด้วยสีเหลืองและน้ำเงิน ขณะที่บางวันก็นำเพลงชากีร่า หรือรีฮานน่า มาใช้ในการเต้น ซึ่งทั้งหมด ในทุกๆ วันนั้นเป็นการคิดใหม่ ทำใหม่

ซึ่ง “มันก็เหนื่อยมากที่จะคิด”

“แต่ก็ต้องทำ เพราะไม่งั้นเดี๋ยวเขาก็บอกว่าก็เหมือนของเก่า ไม่เห็นมีอะไรตื่นเต้น ไม่แปลกใหม่”

แล้วเมื่อตั้งใจจะทำทั้งที เขาก็บอกว่าต้องทำให้เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนผ่านช่วงเวลาของการกักตัวหนีโควิด-19 นี้ไปแบบมีความสุข และแข็งแรงเพิ่มขึ้น นิดหนึ่งก็ยังดี