มาดามหลูหลี / Namiya Zakkaten no Kiseki : ปาฏิหาริย์ร้านขายของชำนามิยะ

มาดามหลูหลี[email protected]

Namiya Zakkaten no Kiseki (23/10/2017) หรือ The Miracles of the Namiya General Store จากหนังสือนิยายขายดีที่มียอดขายกว่า 12 ล้านเล่ม โดยฮิงาชิโนะ เคโงะ นักเขียนอันดับ 1 ของญี่ปุ่น และได้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ทั้งในญี่ปุ่นและจีน

ซึ่งเวอร์ชั่นจีนนำแสดงโดยเฉินหลงและตี๋ลี่เร่อปา นิยายตีพิมพ์ครั้งแรกเมษายน 2011 ถึงธันวาคม 2011 ในนิตยสาร Shosetsu Yasei Jidai เป็นหนังสือนิยายที่อ่านแล้วให้ความอบอุ่นในหัวใจ

หนังญี่ปุ่นเริ่มฉากแรกปี 1969 หนังบอกเวลาด้วยข่าวในทีวีที่ยานอพอลโล่ 11 ไปลงดวงจันทร์

ณ ร้านนามิยะ มีคุณนามิยะ (โทชิยูกิ นิชิดะ) นั่งอยู่หน้าร้านและมีเด็กๆ วิ่งเล่น เด็กๆ ไปดูป้ายใช้ติดข้อความต่างๆ ที่ลูกค้าเขียนมาแปะไว้ เหมือนใช้ป้ายเป็นที่เขียนระบายความในใจ

ป้ายนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของตู้จดหมายหน้าร้านนามิยะ ซึ่งมีคนแอบส่งมาในตอนกลางคืน และมารับจดหมายตอบที่กล่องนมข้างร้านในตอนเช้า

 

อีก 33 ปีต่อมา ปี 2012 ในค่ำคืนที่ร้านนามิยะซึ่งเงียบเหงาไร้ชีวิตของคุณนามิยะและมีเพียงชั้นตู้เปล่าๆ กับฝุ่นหยากไย่ในร้าน มีเด็กหนุ่มวัยรุ่นสามคนที่ดูเหมือนไปทำความผิดมาและหาที่หลบซ่อนตัว จู่ๆ ตู้จดหมายในร้านมีคนส่งจดหมายมา

วัยรุ่นทั้งสาม มีอัทซึยะ (เรียวสุเกะ ยามาดะ สมาชิกเจป๊อปแบนด์วงดัง Hey! Say! JUMP) หัวโจกของกลุ่ม และเพื่อนอีกสองคนคือโชตะ (นิจิโร่ มูราคามิ) กับโคเฮย์ (กานิชิโร่) ต่างงุนงงที่เห็นจดหมายหล่นลงในกล่อง โคเฮย์เป็นคนแรกที่เปิดอ่านและคิดว่าควรจะตอบจดหมาย ขณะที่อัทซึยะมองว่าไร้สาระ

จดหมายฉบับแรกเป็นของนักดนตรีร้านปลา ผู้มีความฝันอยากเป็นนักดนตรี แต่ใช้เวลามาถึง 3 ปีแล้วก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ จนรู้สึกท้อ อีกทั้งพ่อที่ชราก็เริ่มสุขภาพไม่ดี หรือคิดว่าจะมารับช่วงกิจการร้านปลาต่อ

เมื่ออ่านจดหมาย หนุ่มทั้งสามจึงรู้ว่าเป็นจดหมายจากอดีตเมื่อปี 1980 พวกเขาจึงเริ่มสงสัยมากขึ้น แต่เมื่อเป็นเหตุการณ์ในอดีต สามหนุ่มที่อยู่ในปี 2012 ย่อมรู้ถึงเหตุการณ์ต่างๆ ช่วง 1980-2012 อัทซึยะขอเป็นผู้ตอบจดหมายเอง และบอกให้นักดนตรีร้านปลาก้าวเดินบนเส้นทางดนตรีต่อ เพราะเขาอาจมีชื่อเสียง

จากนั้นก็มีจดหมายมาอีก เป็นของผู้ใช้นามปากกาว่า “สุนัขผู้หลงทาง” ที่กำลังสับสนกับชีวิตว่าต้องดำเนินไปเช่นไร ขณะเผชิญกับความยากลำบาก อัทซึยะตอบจดหมายของสุนัขผู้หลงทางพร้อมคำแนะนำ

ช่วงเวลาที่สามหนุ่มตอบจดหมายในอดีต เรื่องราวปี 1980 ของคนเหล่านั้นก็ดำเนินไป ซึ่งไปๆ มาๆ ผู้คนทั้งหมดเหล่านี้ต่างมีส่วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์กันผ่านบ้านเลี้ยงเด็กกำพร้า “มารุโคเอ็น”

ชายหนุ่มทั้งสามก็เคยอยู่บ้านมารุโคเอ็น รวมทั้ง “สุนัขหลงทาง” หรือฮารุมิ ทามูระ (มาชิโกะ โอโนะ) กลายเป็นนักธุรกิจสาวที่ประสบความสำเร็จก็โตมาจากบ้านมารุโคเอ็น และยังยื่นมือคอยให้ความช่วยเหลือบ้านมารุโคเอ็นเสมอ

คัทสุโระ หรือ “นักดนตรีร้านปลา” ได้มาร้องเพลงในวันคริสต์มาสให้เด็กๆ กำพร้าบ้านมารุโคเอ็น ได้พบกับเซริ (มูกิ คาโดวากิ) และได้ช่วยชีวิตน้องชายของเซริ

หนังเล่าย้อนถึงคุณนามิยะก่อนเสียชีวิต และเคยตอบจดหมายของ “Green River” หญิงสาวท้องไม่มีพ่อมาขอคำปรึกษาชีวิต และประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ลูกสาวจึงกลายเป็นเด็กกำพร้ามาอยู่ที่บ้านมารุโคเอ็น

รวมทั้งคุณนามิยะก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับบ้านมารุโคเอ็นเช่นกัน

 

ร้านนามิยะ ร้านขายของชำที่จะคลายความกังวลของคุณ ก่อนเสียชีวิตคุณนามิยะได้เขียนพินัยกรรมให้ลูกชายว่า ร้านนามิยะจะเปิดตู้รับจดหมายอีกครั้งในวันครบรอบวันตายปีที่ 33 ของคุณนามิยะ มันจึงเป็นเหตุให้สามหนุ่มได้มารับจดหมายจากอดีตแทนคุณนามิยะ

และคุณนามิยะได้ตอบจดหมายเปล่าอย่างตั้งใจเป็นฉบับสุดท้าย เป็นกระดาษเปล่าที่คุณนามิยะได้รับจากอัทซึยะซึ่งทดลองส่งว่ากระดาษจะหล่นในกล่องที่รับหรือไม่ และอัทซึยะจะได้รับจดหมายตอบหรือไม่

จดหมายจากอดีตและจดหมายจากอนาคต เชื่อมโยงกันด้วยเส้นด้ายที่มองไม่เห็น

 

Namiya Zakkaten no Kiseki โดยผู้กำกับฯ เรียวอิชิ ฮิโรกิ เขียนบทโดยเคอิโกะ ฮิกาชิโนะ นักเขียนเจ้าของต้นฉบับ ร่วมกับฮิโรชิ ไซโต สร้างหนังจากตัวหนังสือให้เห็นภาพชัดเจนอย่างดีงามอบอุ่น ไม่ต่างจากการอ่านนวนิยาย โดยใช้เมืองชนบทน่ารักของเมืองบุงโกะทาคาดะ จังหวัดโออิตะ (kiji.life/bungotakada-oita ชมเมืองผ่านเว็บ) แทนเมืองโทกิโดเอะ จังหวัดชิสุโอกะ

จากป้ายติดหน้าร้านนามิยะ จนเป็นตู้รับจดหมายและตอบจดหมายกลับในกล่องนม ที่เขียนบอกเล่าจากผู้คนซึ่งมีความทุกข์ในใจ จึงต้องการคนช่วยรับฟังหรือให้คำปรึกษา เพราะการเป็นคนนอกอาจมองภาพของปัญหาได้ชัดเจนกว้างไกลกว่า

หรือว่าที่จริงแล้วแค่มีใครสักคนรับฟัง ส่วนคำตอบนั้นคงมีในใจอยู่แล้ว แค่เพียงมีคนสนับสนุนความคิดนั้นเหมือนมีคนให้กำลังใจในยามที่รู้สึกโดดเดี่ยวอ้างว้าง…