ใส่บ่าแบกหาม / พรพิมล ลิ่มเจริญ / 1917

ใส่บ่าแบกหาม/พรพิมล ลิ่มเจริญ

1917

 

เธอจ๊ะ

1917 อ่านว่า nineteen seventeen เป็นหนังสงครามชั้นเลิศ กำกับการแสดง เขียนบท และผลิตโดย Sam Mendes

เป็นเรื่องราวที่ Alfred Mendes ปู่ของพี่แซมเล่าให้ฟัง อันได้แก่ทหารสองนายที่ออกรบช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 แล้วได้รับคำสั่งให้เดินทางฝ่าสนามรบนำสารจากฐานหนึ่งไปสู่อีกฐานหนึ่ง

พี่แซมใช้นักแสดงไม่มีชื่อเสียง George MacKay และ Dean-Charles Chapman

พี่แซมให้สัมภาษณ์ว่า เริ่มกระบวนการทำหนังที่ทำบทก่อน แล้วก็ไปสถานที่ถ่ายทำที่เป็นทุ่งกว้างๆ วางแนวทางกล้อง ให้นักแสดงนำสองคนไปด้วยเลย

ไปดูว่าต้องแสดงและเดินไปทางไหน คำนวณระยะทาง ระยะกล้อง ระยะเวลาแต่ละช่วงให้ดี แล้วจึงค่อยสร้างฉากขึ้นมา

ทำให้หนังได้รับคำร่ำลือถึงเรื่อง “long shot” ที่ไม่ใช่แค่ “long” แต่เปี่ยมความหมาย เต็มไปด้วยเหตุผล มีที่มาที่ไป

เช่น เมื่อบทให้นักแสดงเดินจากจุดหนึ่งไปถึงจุดหนึ่ง แล้วใช้เวลา 5 นาที เราจะได้ชมฉากยาว 5 นาทีในหนัง เป็นต้น

สิ่งที่เราเห็นจะเกิดการฝึกฝนลองทำซ้ำย้ำทวนหลายต่อหลายครั้งให้แม่นยำในเวลาที่ถ่ายทำจริง

กระบวนการนี้ช่างน่าตื่นเต้น เมื่อทำสำเร็จ ก็สมให้ได้รับการชื่อเข้าชิงรางวัลต่างๆ

พี่แซมยังเก่งกาจสามารถนำนักแสดงใหญ่อย่าง Colin Firth และ Benedict Cumberbatch มาแสดงบทสมทบเล็กๆ เป็นบทสำคัญ แสดงเป็นนายทหารใหญ่แห่งกองรบเชียว แต่ออกมาคนละฉากเดียว!

สรุปคือ พี่แซมเก่ง มีฝีมือฉกาจทางกำกับการแสดง การถ่ายภาพ เพลงประกอบ การตัดต่อ ความสมจริงสมจัง และการผลิตงานให้ออกมาตามที่หวังตั้งใจ

 

เรื่องเกิดขึ้นในวันที่ 6 เมษายน ค.ศ.1917

กองรบอังกฤษกับกองรบเยอรมันประจันหน้ารบกันอยู่ เยอรมันหลอกล่อว่าจะถอนทัพ จริงๆ แล้วรอท่าแอบถล่มอยู่ อังกฤษจำต้องเตือนอีกฐานหนึ่งให้รู้ ไม่บุกไปติดกับ และเมื่อโทรศัพท์โดนตัดขาดหมดสิ้น เหมือนทางเดียวคือต้องส่งจดหมายให้ทหารเดินเท้าไปส่งถึงมือ

พลทหารสกอฟิลด์กับพลทหารเบลกเป็นคู่หูกัน ถูกเลือกให้เป็นคนเดินสาร

พลทหารสกอฟิลด์ดูเป็นคนขรึมๆ พลทหารเบลกสิตลกดี

Thought we might get

some decent grub out here.

It was the only reason

I decided against the priesthood.

นึกว่าออกมารบแล้วจะมีอาหารกิน

ก็เลยตัดสินใจไม่ไปบวชเป็นพระ

สภาพในกองทัพไม่น่าอภิรมย์หรอก ต้องอยู่แต่ในสนามเพลาะ คือเขาก็จะขุดหลุมลึกลงไปในดิน เจาะไปเรื่อยๆ ให้เป็นทางยาว ยาวมากเป็นกิโลๆ เดินสวนกันไป-มาได้ มีป้ายบอกเหมือนถนนบนดิน บางทีก็มีเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาได้ด้วย บางจุดก็มีขุดเข้าไปเป็นโพรง เป็นเหมือนห้องเล็กๆ ใช้ประชุมกัน ใช้นัดพบ ใช้พักผ่อน

grub เป็นคำใช้พูด หมายถึง food หรืออาหาร Let’s get some grub. เราพูดแบบนี้ได้ เวลาชวนเพื่อนไปหาอะไรกินกัน

จะสู้รบปรบมือกันทีก็ปีนขึ้นไปที่ผิวดิน ที่มีกองดินเป็นเกราะกำบัง แล้วก็จะยิงกันได้ บนพื้นดินเขาก็จะสร้างรั้วลวดหนามเป็นแนวยาวไว้ชะลอข้าศึก

พลทหารเบลกเก่งเรื่องแผนที่ ก็เลยได้รับเลือก เพื่อจะได้เดินทางไปถูกที่และรวดเร็ว

 

เรื่องก็มีว่า กองกำลังทางอากาศได้แจ้งมา

That if he can break their lines now,

he will turn the tide.

He is wrong.

ถ้าเขาฝ่าแนวข้าศึกไปได้

ก็จะกลับลำสถานการณ์ได้

แต่เขาคิดผิดไป

to turn the tide เป็นสำนวน หมายถึง กลับลำสถานการณ์

นายกรัฐมนตรีอังกฤษเพิ่งจะใช้สำนวนนี้ไปเมื่อกลางเดือนมีนาคมเรื่องสถานการณ์

โคโรนาไวรัส “This is going to be finite – we will turn the tide around and see how to do it, within the next 12 weeks” ดังนั้น ก็ต้องรอถึงกลางเดือนมิถุนายนก็จะสรุปได้ว่า ที่ “turn the tide” นั้นคือท่านได้ทำอะไรบ้าง

กองรบภาคพื้นดินไม่เห็นแนวข้าศึก ก็จะตกหลุมพรางเอาง่ายๆ ต้องรีบไปบอกนายพลแม็กเคนซี่ที่อยู่อีกกองรบหนึ่งให้จงเร็วพลันภายในเช้าวันพรุ่ง ก่อนเขาบุกตะลุย

If you don’t, it will be a massacre.

We will lose two battalions…

1,600 men, your brother among them.

ถ้าทำไม่สำเร็จ จะเกิดการสังหารหมู่

เราสูญเสียสองกองพัน

ทหาร 1,600 นาย พี่ชายนายก็อยู่ในนั้น

พลทหารเบลกจึงไม่มีเหตุผลให้ต้องรั้งรอ รีบร้อนออกเดินทาง เพื่อเตือนให้หยุดคิดก่อน ก็ไม่หยุดแล้ว

พลทหารสกอฟิลด์เป็นทหารได้รับเหรียญตรา แต่ก็ไม่ได้สนใจไยดีต่อลาภยศสรรเสริญ

Look, it’s just a bit of bloody tin.

It doesn’t make you special.

Doesn’t make any difference to anyone.

มันก็แค่ดีบุก

ไม่ได้ทำให้เราพิเศษ

ไม่ได้ต่างอะไรจากคนอื่น

พลทหารเบลกเป็นคนตลก บอกว่าไม่เห็นด้วย มันต้องต่างสิ

It’s got a ribbon on it.

มันมีโบติดอยู่ด้วย

ทั้งเรื่องก็มีอยู่สองฉากนี้แหละที่ให้ได้ยิ้มๆ ที่เหลือตื่นเต้นตกใจล้วนๆ

พลทหารสกอฟิลด์บอกเพื่อนว่าไม่อยากกลับบ้าน อยากอยู่รบไปเรื่อยๆ

I hated it.

When I knew I couldn’t stay,

when I knew I had to leave

and they might never see…

ฉันเกลียดการกลับบ้าน

เมื่อรู้ว่าจะไม่ได้อยู่บ้านต่อไป

เมื่อรู้ว่าต้องจากมาแล้วอาจไม่ได้เจอ…

การเดินทางฝ่าเข้าไปในแนวรบของข้าศึกน่ากลัวมาก

ได้เจอข้าศึกโดยบังเอิญ, ได้รับความช่วยเหลือจากชาวบ้านที่ยังหลงเหลือ, ได้ประจันหน้ากับฝ่ายตรงข้าม, ได้รับความหวังดีจากฝ่ายเดียวกัน

If you do manage to get to Colonel Mackenzie,

make sure there are witnesses.

ถ้าได้ไปเจอนายพันแม็กเคนซี่จริงๆ

หาพยานด้วยนะ

หมายถึงอย่าไปเจอเขาตัวต่อตัว ให้เจอท่านพร้อมคนอื่นๆ เพราะ “คนบางคนก็แค่อยากสู้รบ”

 

แล้วพลทหารสกอฟิลด์ต้องสูญเสียเพื่อนรักร่วมเดินทาง แต่ต้องทำภารกิจให้สำเร็จ ไม่ใช่แค่หน้าที่แต่เพื่อนเพื่อเพื่อนรัก เพื่อพี่ชายของเพื่อนรักที่ตกอยู่ในอันตราย

แล้วสงครามจะหยุดลงที่ตรงไหน? ประวัติศาสตร์ผ่านมา เราเจอแม้กระทั่งเหตุผลว่า เรามารบกันเพื่อหยุดสงคราม เรื่องนี้มีความเห็นว่า

There is only one way this ends.

Last man standing,

ทางเดียวจะหยุดได้

คือตอนที่คนสุดท้ายเหลือรอด

“last man standing” เป็นสำนวน หมายถึงคนสุดท้ายที่เหลือรอด ในขณะที่คนอื่นๆ ตายหมดแล้ว

ในอนาคต ทหารที่ได้ไปรบคงจะมีเรื่องราวอยู่แต่ในหนังแบบนี้ใช่ไหม เพราะเราได้เรียนรู้ร่วมกันในวันนี้ เราไม่รบกันเองอีกแล้ว โลกต้องร่วมรบกับเชื้อโรค คนไปรบเปลี่ยนมือแล้ว กลายเป็นแพทย์ พยาบาล บุคลากรสาธารณสุข และที่สำคัญ นักวิทยาศาสตร์ อุปกรณ์การรบก็จะกลายเป็นเครื่องมือแพทย์ ยารักษาโรค เทคโนโลยีชีวภาพ อะไรเทือกๆ นั้น พวกเราทุกคนจะต้องได้ออกรบพร้อมกันแบบวันนี้ และจะไม่มีใครหรืองานไหนๆ ที่ไม่สำคัญ

ฉันเอง