ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 10 - 16 เมษายน 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | รายงานพิเศษ |
เผยแพร่ |
รายงานพิเศษ/โชคชัย บุณยะกลัมพ
https://www.facebook.com/ChokCyberAIEntertainment/
ผู้ช่วย AI วิเคราะห์ ‘โควิด-19’
CT Quantification ภายในไม่กี่วินาที
จากกรณีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เรากำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ใน 100 ปีจะมีสักครั้งหนึ่ง
การเกิดขึ้นของไวรัสนี้เริ่มต้นจากประเทศจีน แล้วแพร่กระจายไปยังประเทศเกาหลี แพร่กระจายไปยังทวีปยุโรป แพร่กระจายไปยังอิหร่าน และแน่นอนที่สุดก็เข้ามาถึงประเทศไทย
การแก้ไขปัญหาและการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัส นี่เป็นความท้าทายที่ไม่ใช่แค่ของรัฐบาลไทย แต่เป็นความท้าทายของผู้คนในสังคมทุกคนทั่วโลก
มาตรการหลีกเลี่ยงการพบปะผู้คนในสังคม อย่างแรกที่สุดเริ่มต้นที่ตัวเราเอง ไม่เดินทางออกจากบ้านโดยไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงเข้าร่วมประชุม ไม่เข้าร่วมกิจกรรมทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน งานศพ หรืองานรื่นเริง สังสรรค์ ทางสังคม
แม้แต่เวลารับประทานอาหารต้องเว้นระยะห่างกัน
ไม่ยืนพูดคุยกันอย่างใกล้ชิดจนเกินไป
ล้างมือให้บ่อย ทำความสะอาดภาชนะที่ใช้ดื่มใช้กินเป็นประจำ
ไม่เดินทางออกนอกถิ่นฐานข้ามจังหวัดหรือแม้กระทั่งชุมชน
ในการรับมือกับการระบาดของโรคไวรัส “โควิด-19” (COVID-19) ด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI ผู้ช่วยวิเคราะห์รูปภาพวินิจฉัยประมวลผลในประเทศจีน โดยสำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (National Health Commission – NHC) ระบุในรายงานอย่างเป็นทางการของสำนักงาน เกี่ยวกับวิธีวินิจฉัยและการรักษาโรค ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมาว่าการตรวจวินิจฉัยทางเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) เป็นหนึ่งในวิธีมาตรฐานในการตรวจวินิจฉัยโรคโควิด-19 ที่มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน ซึ่งหนึ่งในวิธีการที่ช่วยตัดสินในการวินิจฉัยและรักษาโรคโควิด-19
ซึ่งผลการตรวจด้วย CT สามารถวินิจฉัยและประมวลผลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
แต่เนื่องจากรอยโรคในปอดมีจำนวนมากและสามารถเกิดความเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว จึงต้องตรวจซ้ำและอ่านภาพซ้ำหลายครั้งภายในเวลาสั้นๆ ซึ่งเป็นการเพิ่มงานเป็นอย่างมากให้กับรังสีแพทย์
สิ่งที่แย่ไปกว่านั้นคือจำนวนรังสีแพทย์ที่สามารถวิเคราะห์และวินิจฉัยโรคโควิด-19 ได้อย่างแม่นยำนั้นมีจำนวนไม่เพียงพอ ประสิทธิภาพของการวินิจฉัยจึงไม่สามารถยกระดับไปได้มากเท่าใดนัก
มหาวิทยาลัย Huazhong University of Science & Technology และบริษัท Lanwon Technology ร่วมมือกับ HUAWEI CLOUD พัฒนาและเปิดตัวบริการผู้ช่วย AI วิเคราะห์รูปภาพทางการแพทย์เชิงปริมาณสำหรับโรคโควิด-19 ด้วยเทคโนโลยี AI ชั้นนำของ HUAWEI CLOUD อย่างคอมพิวเตอร์วิทัศน์ (computer vision) และการวิเคราะห์รูปภาพทางการแพทย์ บริการดังกล่าวจะสามารถรายงานผลการตรวจ (CT quantification) ให้แก่รังสีแพทย์และอายุรแพทย์ได้โดยอัตโนมัติ รวดเร็วและถูกต้อง
ช่วยแก้ไขสถานการณ์การขาดแคลนรังสีแพทย์ที่สามารถวินิจฉัยโรคโควิด-19 อย่างแม่นยำ
รวมทั้งช่วยลดความกดดันในงานด้านการกักตัวผู้ป่วย และช่วยลดภาระงานของแพทย์ได้เป็นอย่างมาก
บริการดังกล่าวยังใช้ประโยชน์จากความสามารถด้านการคำนวณอันทรงพลังของชิพ AI ในซีรี่ส์ Ascend ของหัวเว่ยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและลดขั้นตอน (quantization) ของเคสหนึ่งภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาที
ทั้งนี้ ระบบการใช้ “AI + การวินิจฉัยของแพทย์” จะรวดเร็วกว่าการวิเคราะห์ภาพเชิงปริมาณด้วยมนุษย์เพียงอย่างเดียวหลายสิบเท่า ซึ่งทำให้เพิ่มประสิทธิภาพในการวินิจฉัยโรคขึ้นอย่างมาก
HUAWEI CLOUD ใช้คอมพิวเตอร์วิทัศน์และการวิเคราะห์รูปภาพทางการแพทย์เพื่อแยกแยะระหว่างจุดขาวพร่าในปอด (ground glass opacities – GGOs) จำนวนมากกับการรวมตัวกันของเนื้อปอด (consolidation) แล้ววิเคราะห์ผลเชิงปริมาณจากผลการตรวจ CT ปอดผู้ป่วย กระบวนการดังกล่าวเป็นการรวมข้อมูลทางอายุรกรรมและผลแล็บเพื่อช่วยให้แพทย์ระบุได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นว่าโรคโควิด-19 อยู่ในระยะเริ่มต้น ระยะลุกลาม หรือระยะรุนแรง
ทั้งยังช่วยคัดกรองและป้องกันควบคุมโรคได้ในเบื้องต้น สำหรับเคสผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันแล้วในโรงพยาบาล บริการผู้ช่วย AI จะสามารถขึ้นทะเบียนและวิเคราะห์เชิงปริมาณต่อข้อมูลประมวลผล 4 มิติ (4D dynamic data) ที่ได้จากการตรวจสอบซ้ำจำนวนหลายครั้งได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ ช่วยให้แพทย์ประเมินอาการของผู้ป่วยและผลกระทบจากการใช้ยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ด้วยชิพซีรี่ส์ Ascend AI ของหัวเว่ย บริการดังกล่าวสามารถบอกผล CT Quantification ได้ภายในไม่กี่วินาที เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีเดิมที่แพทย์ต้องวาดบริเวณที่สนใจ (ROI) เองเพื่อวิเคราะห์ผลเชิงปริมาณ
บริการนี้จึงสามารถยกระดับประสิทธิภาพการตรวจหาเชื้อโรคได้อย่างมีนัยสำคัญ
จากความสำเร็จในการวินิจฉัยโรคของเทคโนโลยี AI วิเคราะห์รูปภาพทางการแพทย์เชิงปริมาณสำหรับรายงานผลตรวจภาพเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) โควิด-19 กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมประสานความร่วมมือกับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ประเทศไทย (จำกัด) ได้นำ CD เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ส่งมอบโซลูชั่นผู้ช่วย AI ให้แก่โรงพยาบาลรามาธิบดี
เพื่อใช้วิเคราะห์รูปภาพทางการแพทย์เชิงปริมาณจากการตรวจวินิจฉัยทางเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) ปอดของผู้ป่วย เพื่อวิเคราะห์ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (Novel coronavirus, SARS หรือ COV) และผู้ป่วยโควิด-19 (COVID-19)
โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและโซลูชั่นปัญญาประดิษฐ์ Artificial Intelligence (AI) แพลตฟอร์มที่ได้รับการเทรนจากข้อมูลของผู้ป่วยจริงในประเทศจีน โดยมีประมาณ 20,000 เคส
โดยจำนวนนี้มีผู้ป่วยที่ยืนยันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 (COVID-19) มากกว่า 4,000 เคส
ซึ่งเป็นการประมวลผลและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างแม่นยำ รวดเร็ว และสามารถวิเคราะห์ผลได้ภายในเวลาเพียง 25 วินาทีต่อ 1 เคส
โดยมีความแม่นยำในการวินิจฉัยสูงถึง 96% นับว่ามีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง
นวัตกรรมนี้จะช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์ได้รับความปลอดภัย ลดปริมาณการตรวจสารคัดหลั่ง ลดจำนวนชุดตรวจโควิด ช่วยลดการใช้ PPE และแบ่งเบาภาระให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และช่วยให้บุคลากรหลายๆ ท่านสามารถกระจายตัวไปดูแลเคสผู้ป่วยได้อย่างทั่วถึงมากขึ้น
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรับมือสถานการณ์ระบาดในขณะนี้ได้ดียิ่งขึ้น
ที่มา : https://www.huaweicloud.com/intl/en-us/product/eihealth.html