ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 3 - 9 เมษายน 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | หน้า8 |
เผยแพร่ |
สงครามไวรัสครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะจบยาก
กลายเป็นสงครามยืดเยื้อที่ไม่รู้จุดจบ
ทำนายไม่ได้ว่าจะต้องใช้เวลากี่เดือน
หรือกี่ปี
แต่ที่แน่ๆ ก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาศัย พ.ร.ก.ฉุกเฉิน นำกองทัพ “ข้าราชการ” ยึดอำนาจจากพรรคประชาธิปัตย์และภูมิใจไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แม้จะเป็นกรรมการในคณะกรรมการชุดใหญ่
แต่เป็นกรรมการที่ไร้อำนาจ
เพราะอำนาจแท้จริงอยู่ที่ปลัดกระทรวงพาณิชย์และสาธารณสุข
หมุนเข็มเวลากลับไปช่วง คสช.
เป็นการลงดาบแบบไม่ไว้หน้า 2 รัฐมนตรี
ทั้งที่ทั้ง 2 คนมีหมวกอีกใบหนึ่งทางการเมือง
นั่นคือ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย
ต้องยอมรับว่าช่วงที่ผ่านมา ทั้ง “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” และ “อนุทิน ชาญวีรกูล” เสียฟอร์มอย่างยิ่งในสงครามไวรัส
โดยเฉพาะเรื่อง “หน้ากากอนามัย”
ทำงานก็พลาด
ให้สัมภาษณ์ก็ไม่เข้าหูประชาชน
ดังนั้น เมื่อ “ลุงตู่” ยึดอำนาจให้ “ปลัด” เป็นใหญ่เหนือ “รัฐมนตรี”
ด้วยเหตุผลว่าเพื่อกระชับอำนาจ ไม่ต่างคนต่างทำ
ทุกปลัดกระทรวงรายงานตรงกับนายกฯ เลย
คนกลับส่งเสียงเชียร์
แต่มีคนตั้งข้อสังเกตว่าไม่ใช่ทุกกระทรวง
แต่เป็นเฉพาะ 2 กระทรวงเจ้าปัญหาเท่านั้น
เพราะอยู่ดีๆ คณะรัฐมนตรีก็ตั้งคณะกรรมการสำรวจการกักตุนโภคภัณฑ์ขึ้น
คนที่เป็นประธานรับผิดชอบกลับกลายเป็น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
ไม่ใช่ “ปลัดกระทรวง”
ในทางการเมือง ทั้ง 2 หัวหน้าพรรคเสียหายมาก
เพราะถือว่าไม่ไว้หน้ากันเลย
อย่าถามว่า “อนุทิน-จุรินทร์” รู้สึกอย่างไร
เพราะคงไม่ได้คำตอบที่แท้จริง
“คำตอบ” จาก “คำพูด” คงเป็นอย่างหนึ่ง
แต่ “คำตอบ” ที่เป็น “ความรู้สึก” ที่แท้จริงคงจะชัดเจนขึ้นหลังสงครามไวรัสจบสิ้น
และการเมืองในสภาเริ่มขับเคลื่อน