หนุ่มเมืองจันท์ | บริหารชีวิต

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

เมื่อรัฐบาลประกาศให้เราช่วยชาติด้วยการอยู่บ้าน

อย่าออกไปไหน

คนที่ทำงานประจำอยู่ ถ้าสามารถทำได้ก็ให้ทำงานที่บ้าน

work from home

แต่ถ้าทำงานฟรีแลนซ์ ซึ่งตอนนี้ไม่ค่อยมีงานอยู่แล้ว

ก็ให้นอนพักอยู่กับบ้าน

เรื่องนี้ฟังดูง่ายมากเลยครับ แต่ภาคปฏิบัติกลับยากมาก

นักสังคมวิทยาบอกว่า “มนุษย์” เป็น “สัตว์สังคม”

ต้องอยู่รวมๆ กัน

การขอร้องให้ทุกคนแยกขังเดี่ยวจึงเป็นเรื่องยากมาก

ดังนั้น จึงต้องมีมาตรการเข้มข้นให้ทุกคนสร้าง “ระยะห่าง” กับผู้คน

ให้พบเจอกันน้อยที่สุด

นั่นคือ ที่มาของมาตรการ “ปิดห้าง”

ปิดร้านอาหาร ปิดทุกสถานที่ที่คนจะมาชุมนุมกัน

จำกัดเวลาอยู่นอกบ้าน สร้างอุปสรรคทุกอย่างเพื่อให้คนอยู่บ้าน

ทันทีที่ผู้ว่าฯ กทม. ประกาศ “ปิดห้าง”

ไวรัสตื่นตระหนกก็ทำงานทันที

คนแห่ไปซื้อของกักตุนกันแน่นซูเปอร์มาร์เก็ต

เหมือนกับที่เราเห็นในประเทศต่างๆ

คล้ายๆ กับตอนที่น้ำท่วมใหญ่ปี 2554

แม้จะมีคนเตือนว่าสถานการณ์วันนี้แตกต่างจากตอนน้ำท่วมใหญ่

ระบบขนส่งสินค้าทั้งหลายไม่มีปัญหา

การเดินทางมาซื้อของก็ไม่ยุ่งยากอะไร

แต่คนก็ยังตุน

มีคนถามคุณหมอท่านหนึ่งตอนแถลงข่าวที่กระทรวงสาธารณสุขเรื่อง

การกักตุนสินค้า

คุณหมอตอบดีมากครับ

เขาบอกว่า ไม่อยากใช้คำว่ากักตุน แต่เป็นเรื่องการบริหารการใช้ชีวิต

แทนที่จะออกมาซื้อของหรืออาหารทุกวัน

แบบนี้เสี่ยงต่อการติดไวรัส

ก็เปลี่ยนเป็นการออกมาซื้อของสัปดาห์ละครั้ง

พลิกคำพูด พลิกวิธีคิดนิดเดียว

เรื่องเดียวกันก็ทำให้เรารู้สึกเปลี่ยนไปทันที

หลังจากฟังคุณหมอพูดจบ

ผมก็เริ่มบริหารการใช้ชีวิตใหม่

รอให้คนหายตื่นตระหนกสัก 3-4 วันค่อยไปซูเปอร์มาร์เก็ต

ซื้อน้ำมันพืช-น้ำปลา-ซอส ฯลฯ อย่างละ 1-2 ขวด

อุปกรณ์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน อย่างทิชชู-ยาสีฟัน-แชมพู-สบู่ ฯลฯ

ตุนไว้แค่ใช้ประมาณ 1 เดือน

อาหารสำเร็จรูปนิดหน่อย

รวมทั้งหมดยังไม่เต็มรถเข็นเลยครับ

เรื่องอาหารผมไม่กังวล เพราะคิดว่าร้านอาหารแถวบ้านเยอะแยะ

แม้จะเปิดให้นั่งกิน แต่ก็สามารถโทร.สั่งได้

เคยใช้บริการสั่งอาหารทางไลน์แมน แกร็บ และเก็ท มาได้พักหนึ่งแล้ว

เลือกร้านใกล้ๆ ค่าส่งไม่แพง

น่าจะใช้ชีวิตได้สบายๆ

พร้อม work from home มาก

ผ่านไปแค่ 2 วัน

ผมเข้าแอพพ์ไลน์แมน กะสั่งก๋วยเตี๋ยวแถวบ้านมากิน

เข้าไปตกใจเลยครับ

“ไลน์แมนไม่สะดวกรับออเดอร์สั่งซื้ออาหารเพิ่มในขณะนี้…”

ขึ้นหัวตัวใหญ่ๆ

“เราจะรีบกลับมาให้บริการคุณ”

ครับ คนสั่งอาหารผ่านแอพพ์เยอะมาก

จนไลน์แมนล่ม

ผมต้องเปลี่ยนไปสั่งแอพพ์อื่นๆ แทน

แต่ปรากฏการณ์นี้บอกให้รู้ว่า การสั่งซื้ออาหารแบบเดลิเวอรี่ที่คิดจะพึ่งพาเริ่มมีปัญหา

เพราะคนใช้บริการเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว

ไม่สะดวกเหมือนเดิม

ผมตัดสินใจเปลี่ยนแผนใหม่ทันที

วันรุ่งขึ้น ผมนั่งรถตระเวนไปตามร้านอาหารประจำ

แน่นอน ต้องเป็นถิ่นเก่าแถวประชาชื่น

ร้านอาหารแถวมติชน

แทนที่จะตุนอาหารสำเร็จรูปเป็นซองๆ หรือของสด

ผมเลือกเก็บกับข้าวจากร้านอร่อยๆ

ด้วยความมั่นใจว่าอร่อยกว่าทำเอง

ตู้เย็นสมัยนี้ดีมากครับ

เย็นจัดทั่วถึง เก็บกับข้าวได้นาน

วางแผนดีๆ อะไรที่จะเก็บไว้กินตอนหลังๆ ก็เข้าช่องฟรีซเลย

ผมเริ่มต้นที่ร้านเบียร์หิมะ สั่งแกงเหลืองท้องปลากะพงยอดมะพร้าว

แกงเหลืองถุงเดียว กับไข่เจียวร้อนๆ

เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม

ความเผ็ดของแกงเหลืองเบียร์หิมะ

แค่ถุงเดียว รับรองว่ากินได้ไม่ต่ำกว่า 4 มื้อ 555

สั่งกับข้าวเพิ่มอีก 2 อย่าง

จากนั้นก็ไปเก็บแต้ม “ไก่ย่างบางตาล” ที่หมู่บ้านชลนิเวศน์

ไก่ย่างร้านนี้ กระเทียมพริกไทยเข้มข้น คล้ายที่เมืองจันท์

กวาดไป 3 กล่อง

ยูเทิร์นกลับมาที่ร้านอ้วนบะกุ๊ดเต๋ และร้านข้าวหน้าไก่เหรียญทองชามเปล ตรงข้ามตลาดบองมาเช่

บะกุ๊ดเต๋ขนาด 3 คน

แบ่งกินได้หลายมื้อ

ส่วนร้านข้าวหน้าไก่ ผมชอบกะเพาะปลา กับแกงกะหรี่

…ตุน

จอดแวะที่ตลาดบองมาเช่

สั่งหมูทอดและกับข้าวที่ร้านเสน่ห์จันท์

ปลาสลิดทอดกรอบ

ไส้กรอกเวียนนาที่ “พี่โต้ง” ฐากูร บุนปาน แนะนำ

ผลไม้ที่นี่ดีมาก แม้ราคาจะสูงกว่าที่อื่นบ้าง

เข้าร้านเบทาโกร เก็บทั้งเนื้อหมูปกติ และปรุงรส

เผื่อทำเองบ้างบางมื้อ

เจอเกี๊ยวน้ำ “มยุรี” ที่ “พี่เหน่ง” ดร.รัชนีพร อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีปทุม เคยส่งมาให้ชิม

อร่อยมาก

…ตุน

แต่ภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น

ก่อนถึงบ้าน ผมแวะร้านหมูทอดเจ๊จง สาขาวัชรพล

ตอนทำบ้าน ผมสั่งข้าวกล่องไปเลี้ยงคนงานประจำ

เพิ่งรู้ว่านอกจาก “หมูทอด” แล้ว กับข้าวหลายอย่างอร่อยมาก

โดยเฉพาะแกงเขียวหวานไก่-ไข่พะโล้

“เจ๊จง” เป็นร้านที่ฉีกข้อจำกัดเก่าๆ ที่เชื่อว่าของถูกต้องไม่อร่อย

ของอร่อยต้องแพง

เพราะที่นี่ทั้งถูกและอร่อย

ผมสั่งหมูทอด 1 โล หั่นชิ้นใหญ่ๆ และกับข้าวอีก 3-4 อย่าง

ดูจากประมาณกับข้าวแล้ว ทำเสริมอีกนิดหน่อย

10 วัน 30 มื้อ สบายๆ

ถูกกว่าสั่งไลน์แมนอีก

จากนั้นก็เข้าซูเปอร์มาร์เก็ตเป็นเป้าหมายสุดท้าย

ระหว่างทาง ดูข่าวทางเฟซบุ๊ก พล.อ.ประยุทธ์. จันทร์โอชา จะแถลงข่าวตอนบ่ายสอง

คาดว่าจะเป็นเรื่องการประกาศภาวะฉุกเฉิน

ตามประสานักข่าวเก่า ทำนายได้เลยว่าคนจะต้องแห่มากักตุนสินค้าแน่นอน

ไปถึงซูเปอร์ฯ ประมาณบ่ายสามครึ่ง

คนยังไม่มี

ซื้อแค่ของที่ขาดอยู่ไม่กี่อย่าง หยิบเครื่องดื่ม กับขนมขบเคี้ยวติดรถเข็นมาด้วย

มองรอบๆ

4 โมงเย็นแล้ว ทำไมคนยังน้อย คนน่าจะแตกตื่นมาถึงซูเปอร์ฯ แล้วนะ

ผิดวิสัยคนไทยมากๆ

พลิกมือถือดูไลน์กลุ่ม และในเฟซบุ๊ก

ไม่น่าเชื่อว่าทุกคนบ่นการแถลงข่าวของนายกฯ เหมือนกันหมด

ผมเข้าใจแล้วทำไมคนแห่มาถึงซูเปอร์ฯ ช้า

เขาฟังคำแถลงไม่รู้เรื่องครับ

กว่าจะตีความปริศนาธรรมเรื่องภาวะฉุกเฉินของท่านนายกฯ ออก

ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง