เผยแพร่ |
---|
ถามว่าเป้าหมายของการยุบพรรคอนาคตใหม่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาคืออะไร
คือ คำสั่ง”ประหาร”ชีวิต พรรคอนาคตใหม่
ผลอันเคยเกิดมาแล้วไม่ว่าจะกรณีพรรคไทยรักไทย ไม่ว่าจะกรณี พรรคพลังประชาชน
๑ คือ การตัดสิทธิ์หัวขบวนของพรรค
๑ คือ การก่อภาวะระส่ำระสายอย่างที่”สื่อพลังประชารัฐ”ใช้คำว่า “ผึ้งแตกรัง”
เหมือนกรณีพรรคเพื่อแผ่นดิน เหมือนกรณีพรรคภูมิใจไทย
นั่นคือเส้นทางที่การยุบพรรคไทยรักไทย การยุบพรรคพลังประชารัฐก่อให้เกิดขึ้น
แล้วกรณีการยุบพรรคอนาคตใหม่เป็นอย่างไร
หากนับจากจำนวน 81 ส.ส.อันพรรคอนาคตใหม่ได้มาจากการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 การดำรงคงอยู่ 54 ส.ส.ถือว่าลดลงอย่างเด่นชัด
แต่การลดลงจำนวนหนึ่งมาจากบรรดากรรมการบริหารที่เป็นส.ส.ถูกตัดสิทธิโดยปริยาย
ที่แยกตัวออกไปอยู่กับรัฐบาลมีจำนวนไม่มากนัก
การที่คนของพรรคอนาคตใหม่เดินพาเหรดไปอยู่พรรคก้าวไกลจำ นวนมากถึง 54 ถือว่าเป็นกลุ่มเป็นก้อน
ขณะเดียวกัน เป้าหมายที่ต้องการลิดรอนมือตีนของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล น.ส.พรรณิการ์ วานิช ก็อาจจะไม่ประสบผลสำเร็จ
อย่างน้อยในตอนเย็นวันนี้พวกเขาก็ประกาศการเคลื่อนตัวของกลุ่มที่เรียกว่า”คณะก้าวหน้า”อย่างแข็งขัน
หัวขบวนที่เคยมีบทบาทอยู่ในพรรคอนาคตใหม่อาจต้องหลุดพ้นไปจากเวทีรัฐสภา
แต่ถามว่าหมด”บทบาท” อย่างสิ้นเชิงหรือไม่
หากตรวจสอบจากจำนวนคนที่ติดตามไลฟ์สดของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในสารอันเกี่ยวกับ ไวรัส โควิด-19 ก็เห็นเด่นชัดว่ายังคึกคักและอุ่นหนาฝาคั่ง
ตราบใดที่ยังสามารถยึดกุมพื้นที่ทาง”ออนไลน์”ได้ นั่นหมายถึงยังแนบแน่นอยู่กับ”มวลชน”อย่างใกล้ชิด
จากอนาคตใหม่ก็พัฒนาเป็น”ก้าวหน้า”และ”ก้าวไกล”สู่อนาคต