ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 20 - 26 มีนาคม 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | ยานยนต์ |
ผู้เขียน | สันติ จิรพรพนิต |
เผยแพร่ |
ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]
เปิดสเป๊ก ‘มาสด้า ซีเอ็กซ์-30’
จัดเต็มความไฮเทค-ปลอดภัย
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาค่าย “มาสด้า” ประสบความสำเร็จด้านยอดขายอย่างสูง โดยเฉพาะหลังการมาถึงของเทคโนโลยี “สกายแอคทีฟ” และการออกแบบ” โคโดะ ดีไซน์”
เรียกว่าทั้งทรงพลังและออกแบบได้สวยหยาดเยิ้มจนครองใจคนทั่วโลก
แม้ช่วงแรกการมาถึงของสกายแอคทีฟจะประสบความสำเร็จในตลาดเก๋ง แต่ในระยะหลังๆ ตลาดรถ “เอสยูวี” หรือรถตรวจการณ์อเนกประสงค์ เป็นเทรนด์ที่มาแรงทั้งระดับโลกและเมืองไทย
สังเกตได้ว่าค่ายรถในไทยจำนวนมากเทน้ำหนักให้กับรถเอสยูวี หรือครอสโอเวอร์อย่างมาก
มาสด้าก็เช่นกัน เห็นได้จากการมาของมาสด้าตระกูล “ซีเอ็กซ์” ตั้งแต่ซีเอ็กซ์-3, ซีเอ็กซ์-5 และซีเอ็กซ์-8
โดยปีที่ผ่านมาเอสยูวีมียอดขายสะสมรวมทั้งสิ้นกว่า 146,560 คัน (รวม PPV-ปิกอัพดัดแปลง) หากแยกเฉพาะเอสยูวี มียอดขายรวมทั้งสิ้นประมาณ 86,000 คัน มาสด้ามียอดขายรวม 5,736 คัน
ในปี 2563 นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด คาดการณ์ว่าตลาดในเซ็กเมนต์นี้จะเพิ่มสูงขึ้นถึง 1.5 แสนคัน (รวม PPV)
มาสด้าตั้งเป้าไว้ 18,000 คัน หรือเพิ่มขึ้น 200% จากปี 2562
พร้อมประเดิมรุ่นใหม่ล่าสุดในตลาดเอสยูวีด้วย “มาสด้า ซีเอ็กซ์-30” ที่ตั้งใจมาเติมเต็มเซ็กเมนต์โดยเป็นรุ่นอยู่ระหว่างซีเอ็กซ์-3 และซีเอ็กซ์-5
วันเปิดตัวนั้นต้องถือว่าแจ๊กพ็อตพอสมควร เพราะเป็นช่วงที่ไวรัส “โควิด-19” เริ่มระบาดรุนแรงในไทย ทำให้มาสด้าต้องยกเลิกงานเปิดตัว “มาสด้า ซีเอ็กซ์-30” กับสื่อมวลชน
แต่กระนั้นยังจัดงานในวงจำกัด ก่อนส่งข้อมูลต่างๆ ให้สื่อมวลชน เพราะไม่ต้องการเลื่อนแผนวางจำหน่ายออกไป
มาพร้อมแพลตฟอร์มใหม่ SKYACTIV-VEHICLE ARCHITECTURE พัฒนาจากท่วงท่าของมนุษย์ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติและมีสมดุล
รูปร่างหน้าตาภายนอกใกล้เคียงกับครอสโอเวอร์รุ่นพี่ กระจังหน้าขนาดใหญ่ มองผาดๆ คล้าย “ซีเอ็กซ์-5” ตัดขอบล่างด้วยสีเงิน
ไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์เลนส์ LED พร้อมระบบ ALH (Adaptive LED Headlamps)
โคมไฟหน้าและโคมไฟท้ายออกแบบโฉบเฉี่ยว รูปทรงกระบอกอันประณีตของแสงรูปวงแหวนจะเห็นเด่นชัดในตอนกลางคืน
ชายล่างใช้สีดำเชื่อมไปถึงด้านข้าง ซุ้มล้อและด้านหลัง
ซุ้มล้อด้านหลังยื่นเด่นออกมาจากห้องโดยสาร รวมกับรูปทรงโค้งของประตูท้าย ด้วยความเหมือนรถสปอร์ตที่ดูกว้างและการเคลื่อนไหว ที่แสดงออกถึงความดึงดูดทางอารมณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของ KODO
ประตูท้ายเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า
ล้ออะลูมิเนียมอัลลอย ขนาด 18 นิ้ว และ 16 นิ้ว
มิติตัวถัง (กว้าง x ยาว x สูง) 1,795 x 4,395 x 1,540 ม.ม.
ภายในยังเป็นจุดเด่นของมาสด้ารุ่นหลังๆ ที่เน้นความเรียบง่าย
จุดเด่นด้านความหรูหราภายในห้องโดยสาร ด้วยการเลือกใช้วัสดุเกรดพรีเมียมคุณภาพสูง ผ่านการออกแบบอย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ภายในห้องโดยสารถูกพัฒนาตามหลักปรัชญา HUMAN CENTRIC PHILOSOPHY
ไม่ว่าจะเป็นเบาะนั่งที่ออกแบบให้โอบกระชับรองรับกับสรีระ ช่วยให้กระดูกเชิงกรานตั้งตรง แนวกระดูกสันหลังคงรูปตัว S เหมือนขณะกำลังเดิน พวงมาลัยและคันเร่งได้รับการจัดวางอย่างลงตัว มอบความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างคนกับรถ
ใช้ทูโทนน้ำตาล-ดำ พวงมาลัยระบบมัลติฟังก์ชั่น เรือนไมล์แบบ 3 วงกลมขนาดใหญ่ พร้อมจอ TFT LCD ขนาด 7 นิ้ว อยู่ตรงกลางของแผงหน้าปัด แสดงข้อมูลได้หลากหลายรูปแบบและชัดเจน
หน้าจอแสดงผลการขับขี่ (Active Driving Display) เพื่อให้ผู้ขับขี่มองเห็นได้ง่ายเพียงแค่ยกหรือลดระดับสายตา
หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบสีบนกระจกหน้า ช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องละสายตาจากถนน
การแสดงผล Center Display แบบ Widescreen ขนาด 8.8 นิ้ว คุมข้อมูลที่จอ แสดงผล Center Display ทำได้โดยใช้ปุ่มควบคุมอัจฉริยะ (Center Commander) และระบบแสดงตัวอย่างเมนูที่ใช้งานง่าย
เชื่อมต่อ “Mazda Connect” รุ่นเดียวกับมาสด้า 3 ใหม่ ผ่านสมาร์ตโฟน อินเตอร์เน็ต และการเชื่อมต่อการสื่อสาร
ระบบเสียง “Mazda Harmonic Acoustics” พัฒนาขึ้นเพื่อให้ตรงกับลักษณะการได้ยินของมนุษย์ ลำโพง 12 ตัว พัฒนาร่วมกับ “Bose Corporation”
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Dual Zone พร้อมช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง เพิ่มความอเนกประสงค์ด้วยเบาะหลังแบบพับได้ 60:40 แยกอิสระจากกัน
คอนโซลกลางที่กว้างทำให้สามารถจัดวางตำแหน่งคันเกียร์ ที่วางแก้ว และปุ่มควบคุมอัจฉริยะ ให้ค่อนไปด้านหน้าใกล้กับผู้ขับขี่เพื่อการใช้งานที่สะดวก
เบาะนั่งด้านคนขับปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบบันทึกตำแหน่งเบาะนั่งของผู้ขับขี่ได้ 2 ตำแหน่ง
เครื่องยนต์ SKYACTIV-G 2.0 ความจุ 1,998 ซีซี กำลังสูงสุด 165 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 213 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที ระบบเกียร์ SKYACTIV-Drive 6 สปีด พร้อมแมนวลโหมด รองรับน้ำมันได้สูงสุดถึง E85
ช่วงล่างด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังกึ่งอิสระทอร์ชั่นบีม ดิสก์เบรก 4 ล้อ
ระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูง หรือ G-Vectoring Control Plus (GVC Plus) ช่วยปรับแรงบิดของเครื่องยนต์ตามการหักเลี้ยวพวงมาลัยของผู้ขับขี่ ควบคู่ไปกับการเบรกที่เหมาะสม เพื่อให้รถขับเคลื่อนไปอย่างนุ่มนวล มีเสถียรภาพ เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนของล้อทั้งสี่ให้ดียิ่งขึ้น
ปลอดภัยสูงสุดด้วยเทคโนโลยี i-ACTIVSENSE อาทิ ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง, ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน, ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง
ระบบควบคุมความเร็วรถอัตโนมัติ, ระบบควบคุมความเร็วและพวงมาลัยตามรถคันหน้า, ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติแบบ Advance, ระบบช่วยเบรกและหยุดรถอัตโนมัติขณะถอยหลัง SBS-R, ระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง SBS-RC
ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน, ระบบเตือนเมื่อรถเบี่ยงออกนอกเลน ระบบช่วยเตือนเมื่อเหนื่อยล้าขณะขับขี่
ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้าง ม่านถุงลมนิรภัย และถุงลมบริเวณหัวเข่าด้านคนขับ รวม 7 ตำแหน่ง
มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย ราคาเริ่มต้น 989,000-1,199,000 บาท
หากใครไม่สะดวกไปดูของจริงที่โชว์รูม สามารถจองในระบบออนไลน์ผ่าน https://skybooking.mazda.co.th/
ที่น่าสนใจที่สุดมีโปรโมชั่นมาให้แบบจัดเต็ม ลองสอบถามกันดู