สนทนานัดหยุดโลก กับ “บัวขาว บัญชาเมฆ” (1) | กาแฟดำ

สุทธิชัย หยุ่น

ใครที่ติดตามชีวิตนักมวยที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่าง “บัวขาว บัญชาเมฆ” คงคาดไม่ถึงว่าวันนี้เขาจะฉีกแนวสำหรับนักกีฬาที่ประสบความสำเร็จมาทำสิ่งที่เขาทำอยู่วันนี้

ผมไปเจอเขาที่ “บัวขาววิลเลจ” ซึ่งเป็นรีสอร์ตและค่ายมวยท่ามกลางธรรมชาติบนเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ที่ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่

ผมเข้าไปก็เห็นรูปปั้นใหญ่โตของบัวขาวในท่าชกมวย…มองไปรอบๆ ก็เห็นภูเขาและนาข้าว

เดินเข้ามาอีกหน่อยจะเห็น “ค่ายมวยบัญชาเมฆ” ที่ใช้สำหรับฝึกซ้อมมวยและเปิดให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้ามาฝึกซ้อมได้ด้วย

ในส่วนของพื้นที่นาข้าว สวน ไร่ และโซนบริเวณสัตว์เลี้ยงของรีสอร์ต ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมสัมผัสวิถีธรรมชาติ การใช้ชีวิตแบบชนบท ศึกษาความเป็นอยู่แบบ “เศรษฐกิจพอเพียง” เช่น การทำไร่ทำสวน ปลูกผัก เก็บไข่ ตกปลา ได้หมด

ใครอยากจะนอนพักหรือเรียนวิทยายุทธ์มวยไทย ก็มีโซนที่พัก มีคอร์สทั้งแบบ 7 วัน, 15 วัน และ 30 วัน

วันที่ผมไปถึงมีชาวต่างชาติทั้งอเมริกันและเอเชียทยอยกันเข้ามาในบริเวณนั้น บางคนมานอนพัก บางคนมาเรียนมวยไทย บางคนมากินข้าว จิบกาแฟริมท้องนาแบบชิลล์ๆ

ผมไปเพื่อจะตั้งวงสนทนากับบัวขาว…เพื่อให้รู้ว่าชีวิตของนักมวยโด่งดังระดับโลกที่มีสีสันและทำอะไรนอกกรอบอยู่เสมอคนนี้คิดอย่างไรจึงมาปักหลักตรงนี้

นี่เป็นบางตอนของการสนทนาที่ผมเรียกว่า “นัดหยุดโลกกับบัวขาว”

ถาม : บัวขาวมาทำอะไรแถวนี้ครับ

ตอบ : ผมจะสร้างค่ายมวยใหญ่กลางทุ่งนาและภูเขา ซ้อมมวยและออกกำลังกายแบบสบายๆ ครับ

ถาม : บัวขาวรู้วิธีการทำน้ำและไฟฟ้ามาก่อนหรือ

ตอบ : ไม่เลยครับ ผมอาศัยมืออาชีพทั้งนั้น ชาวบ้านแถวนี้ก็มาช่วยดำนาด้วยครับ จ้างเขาบ้าง ให้เขามีส่วนร่วม เขาจะได้มีรายได้บ้าง

ถาม : ผมเห็นคนต่างชาติมาเหมือนกัน เขามาพักผ่อนหรือมาฝึกมวย

ตอบ : ส่วนมากเขาจะมาฝึกมวย พอฝึกไปฝึกมาเขาชอบ ตอนแรกมาหนึ่งอาทิตย์ ก็ต่อเป็นสองอาทิตย์ สามอาทิตย์ แล้วต่อเป็นเดือนสองเดือนสามเดือน อยู่ยาวเลย เขาชอบธรรมชาติและชอบสิ่งที่เราทำให้เขา แล้วพอเราแนะนำ เขาก็ทำเอง ทีนี้อยู่ยาวเลย

ถาม : ความฝันของบัวขาวคืออะไร จะทำให้ที่นี่เป็นอะไร จะให้เป็นหมู่บ้าน จะให้เป็นศูนย์กลางของมวยไทย หรืออะไรครับ

ตอบ : เบื้องต้นคือเป็นที่พักผ่อนของตัวเองเฉยๆ ครับ

(หัวเราะ) ที่อาจารย์พูดมาถูกหมดเลยครับ แต่นั่นเป็นเรื่องของวันข้างหน้า

ถาม : พักผ่อนเองอย่างไรจึงมีที่ตั้งกว่าร้อยไร่

ตอบ : ก็หวังว่าในวันข้างหน้าจะมีคนมาร่วมพักผ่อนกับผมครับ

ถาม : เรื่องสำคัญคือบัวขาวต้องการส่งเสริมมวยไทยใช่ไหม ให้คนทั้งโลกรู้จักศิลปะมวยไทยเพราะสิ่งนี้ทำให้บัวขาวเกิด ใช่ไหมครับ

ตอบ : ใช่ครับ ผมเราทำสิ่งต่างๆ ให้มีสิ่งแวดล้อมที่ดี เขาก็อาจจะมาร่วม เขาจะไม่ได้มาแค่ซ้อมมวย แต่จะได้มาพักผ่อนไปด้วย

ถาม : ที่นี่ไม่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่นัก

ตอบ : ก็ห่างจากตัวเมืองประมาณหนึ่งชั่วโมง วิ่งแป๊บเดียวครับ อากาศดีครับ เย็นด้วยครับ

ถาม : นี่ขนาดเย็น แต่ไม่ยอมใส่เสื้อผ้า

ตอบ : เพิ่งซ้อมมวยเสร็จ ยังร้อนอยู่ครับ (หัวเราะ)

ถาม : บัวขาวเป็นคนสุรินทร์ แต่มาปักหลักที่เชียงใหม่ เพราะอะไรครับ

ตอบ : หลายคนก็ถามครับ ความจริงก็ไปทำอะไรที่บ้านเกิดเหมือนกันครับ ทำอยู่ ทำอีกระบบหนึ่ง สร้างสิ่งที่ให้เยาวชนได้ซ้อมมวยไทย เขาจะได้มีอาชีพของเขา ก็พยายามจะปั้นพวกเขาขึ้นมา ทำครับ ทำอยู่ที่บ้านเกิด แต่สิ่งที่เราทำที่นี่เป็นเรื่องความสะดวกและรสนิยม, อากาศและสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างออกไป…ไม่รู้ดวงจะมาทางนี้หรือเปล่า (หัวเราะ)

ถาม : พูดถึงดวง มาเจอที่นี่ได้อย่างไร

ตอบ : ความจริงก็ไม่ได้ตั้งใจเสาะหาครับ เพื่อนของเพื่อนแนะนำมา เริ่มต้นจากที่สอบถามเพื่อนๆ ว่ามีที่ไหม อยากจะทำอะไรที่มีคนชอบมา คนไทยและคนต่างประเทศชอบ ความจริงก็มีหลายจังหวัดให้เลือกอยู่ ตอนนั้นก็ไม่ได้มีงบอะไรมากมาย สองปีกว่าแล้วครับ คิดว่าแถวเชียงใหม่คงจะยังมีที่ที่ธรรมชาติเหลืออยู่สักแห่ง ก็จึงให้เพื่อนๆ ช่วยดูให้

ถาม : เดิมตรงนี้เป็นอะไรครับ

ตอบ : เชื่อไหมว่าที่นี่ตอนที่ผมมาเห็นใหม่ๆ เป็นป่าหมดเลยครับ ผมเห็นเข้าก็ปวดหัวเลย ทีแรกไปไม่ถูกเลย ยืนงงอยู่ตรงนั้น มีต้นมะม่วง อะไรต่อมิอะไรคลุมอยู่หมดเลย มองไม่เห็นดินเท่าไหร่ คิดไม่ออกเลยว่าจะทำยังไง มีต้นไม้คลุมไปหมด ผมก็เดินลุยป่าเข้ามา ผมถามตัวเองว่าจะทำยังไงนี่

ถาม : แต่ตอนนั้นบอกตัวเองว่าชอบแล้วใช่ไหม

ตอบ : ใช่ครับ ตอนนั้นชอบแล้ว พอมองเห็นเชิงเขา ผมก็เริ่มคิดว่าถ้ามีภูเขา เราก็จะทำตรงนี้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ได้

ถาม : มีภูเขาแล้ว สิ่งที่เราต้องคิดต่อทันทีคือต้องมีน้ำใช่ไหม

ตอบ : ใช่ครับ พอเดินต่อมาอีกหน่อยก็เห็นน้ำตรงนั้น ก็เลยมีกำลังใจ บอกตัวเองว่าได้ใช้แน่นอน ก็เริ่มปลูกกล้วย แล้วก็ทำทาง ความจริงทางก็ไม่ได้ตั้งใจทำ มันมาของมันเอง

ถาม : ไม่ถามตัวเองหรือว่า ที่กว้างใหญ่อย่างนี้ทำคนเดียวจะไหวหรือ เคยแต่ชกมวยไม่ใช่หรือ

ตอบ : มันอยู่ที่ใจครับ แล้วเราก็มีทีมงานที่แข็ง บอกตัวเองว่า “เฮ้ย มาแล้วต้องทำให้ได้เว้ย” อะไรอย่างนั้นครับ

ภาพจากเฟซบุ๊ก Buakaw Village บัวขาว วิลเลจ

ถาม : ทีมงานเสนอว่าให้ทำอย่างไร

ตอบ : ก็ปรึกษากันครับ ตกลงกันว่าต้องมาอยู่ เชื่อไหมครับว่าตอนนั้นไม่ได้คิดอะไรไกลเลย คิดง่ายๆ ว่าทำค่ายมวยเล็กๆ ก่อน ทำมาซ้อมมวยก่อน ที่เห็นมุงหลังคาจากนั่นแหละ ถ้าเราดีจริง คนก็มาหาเราเองแหละ คิดอย่างนั้น

ถาม : พูดง่ายๆ คือคิดแบบนักมวยก่อน เราเป็นนักมวยนี่ เราก็อยากมีค่ายมวย

ตอบ : ใช่ มีกระสอบทรายสักสองกระสอบก็ชกได้แล้ว คิดแค่นั้นแหละ ที่เหลือค่อยว่ากันไป จากนั้นก็ค่อยๆ ทำครับ เก็บหอมรอมริบ สร้างโน่นสร้างนี่ ได้รายได้จากเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าต่างๆ ก็เอามาสร้างเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ

ถาม : ตอนชกมวยกับตอนเป็นพรีเซ็นเตอร์ ตอนหลังนี้รายได้น่าจะดีกว่าใช่ไหม

ตอบ : ใช่ครับ ตอนหลังได้ดีพอสมควร สปอนเซอร์ก็ช่วยบ้างครับ

ถาม : ตอนที่เราเริ่มทำ เราวางงบประมาณไว้ใช่ไหม เรามีงบฯ เท่าไหร่ จะทำอะไรบ้าง ทำเมื่อไหร่

ตอบ : ใช่ครับ ค่อยๆ ทำ วางงบฯ เอาไว้สำหรับแต่ละจุดที่ทำ จะไม่ทำอะไรเกินตัว จะไม่ให้เงินไปจมอยู่ที่ไหนที่หนึ่งมากเกินไป ผมบอกกับทีมงานว่าค่อยๆ ทำ ไม่รีบ เพราะเราเพิ่งมาได้ปีเดียว

ถาม : ค่าที่ดินต้องจ่ายก่อน

ตอบ : ครับ บูรณะเรียบร้อยครับ

ถาม : ทีมงานมีกี่คนครับ

ตอบ : สิบคนครับ

ถาม : มีใครมีประสบการณ์ด้านธุรกิจไหม

ตอบ : ประสบการณ์ด้านธุรกิจโดยตรงไม่มีครับ ไม่มีใครมี พอมีอะไรเราก็มาจับเข่าคุยกัน เอาไหม มันหนักไหม ถ้าหนักก็ผ่อนมา อะไรแบบนี้ครับ เรารู้ว่าถ้าเราจะดิ้นรนเต็มพื้นที่ก็ไม่ไหว อายุเรายังน้อย ยังต้องไปอีกไกล

ถาม : ปีนี้บัวขาว 37 ใช่ไหม

ตอบ : 37 ย่างเข้า 38 ครับ

(สัปดาห์หน้า : บัวขาวเป็นแชมป์โลกเพราะชกด้วยสมอง!)

ภาพจากเฟซบุ๊ก Buakaw Village บัวขาว วิลเลจ
ภาพจากเฟซบุ๊ก Buakaw Village บัวขาว วิลเลจ
ภาพจากเฟซบุ๊ก Buakaw Village บัวขาว วิลเลจ