“บิ๊กตู่”ยัน เป็นนักปชต.ไม่เคยรังแกใคร เปรียบไทยเป็นอัลไซเมอร์-ใช้สมองไม่ครบโทษทุกรบ.

“บิ๊กตู่” ระบุตัวเองเป็นนักปชต. แต่ต้องอยู่ในกรอบถูกต้องไม่บิดเบือน ย้ำไม่ลดสิทธิประโยชน์ปชช. อะไรที่ขัดแย้งสูงรัฐบาลจะไม่ทำ แฉมีผญ.แอบอ้างยกหูโทรศัพท์สายตรงนายกฯ ขออย่าหลงเชื่อ ยันไม่ได้ทำลายประชาธิปไตยแต่ต้องช่วยกันต่อเติม บอกไทยเหมือนอัลไซเมอร์ใช้สมองไม่ครบ

(17 มี.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. กล่าวปาฐกถา เรื่อง “การขับเคลื่อน Thailand 4.0 ด้านเกษตร อาหาร และเทคโนโลยีชีวภาพ” ตอนหนึ่งว่า วันนี้แม้จะเป็นนายกรัฐมนตรีแต่ก็ต้องพูดและคิดแบบชาวบ้าน และนำปลายทางของประชาชนว่าต้องการอะไรมาเป็นโจทย์ของรัฐบาล ซึ่งประเทศไทยมีเกษตรกรรมเป็นพื้นฐานแต่ยังมีปัญหารายได้ไม่เพียงพอ ยืนยันรัฐบาลจะดูแลให้มากที่สุดในกรอบที่รัฐบาลสามารถทำได้ โดยเป้าหมายหลักของรัฐบาลคือนำประเทศพ้นกับดักประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ที่เป็นหลุมพรางให้เราตกร่องมาตลอดทาง เราจึงต้องหาวิธีเดินให้ปลอดภัยก้าวพ้นกับดักเดิมๆ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า จากผลของการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศโลก ทำให้ประเทศไทยประสบกับสภาวะฝนแล้งและฝนตกมากเกินไป รวมถึงกำลังเข้าสู่พายุฤดูร้อนที่หลายจังหวัดจะได้รับผลกระทบ จึงได้สั่งการให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เตรียมความพร้อมเพื่อดูแลประชาชนแล้ว นอกจากนี้ในเดือนเม.ย. รัฐบาลจะเปิดลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อยรอบที่ 2 คาดว่าจะมีประชาชนมาลงทะเบียนประมาณ 14 ล้านคน ซึ่งคนเหล่านี้ไม่ใช่คนจนแต่รัฐบาลต้องการจัดระบบเพื่อดูแลในด้านสวัสดิการ ดังนั้นรัฐบาลไม่เคยคิดจะล้มอะไรทั้งสิ้น มีแต่จะทำให้ดีขึ้นหากมีเงินพอ จึงอย่ากล่าวหาว่ารัฐบาลจะไปลดสิทธิประโยชน์ของประชาชน เหมือนที่ตนพูดเรื่องภาษีแต่กลับนำบิดเบือน ยืนยันอะไรที่ขัดแย้งสูงรัฐบาลจะไม่ทำ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้ยังมีหลายคนอยากกลับไปเป็นแบบเดิมโดยอ้างประชาธิปไตย ซึ่งยืนยันว่าไม่เคยต่อต้านและตนเป็นนักประชาธิปไตย แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในกรอบที่ถูกต้อง ไม่ถูกบิดเบือนและไม่ขัดแย้ง ต้องมีการจัดระเบียบไม่ใช่ละเมิดสิทธิมนุษยชนและยืนยันว่าไม่ได้รังแกใครและทำเพื่อใครคนใดคนหนึ่ง แต่ทำเพื่อคน 70 ล้านคน จึงขอให้ทุกคนช่วยกันลดความขัดแย้ง ช่วยกันปรองดอง อย่าไปร่วมขัดแย้งกับใคร

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยืนยันว่าไม่ได้เข้ามาเพื่อผลประโยชน์หรือตักตวงใดๆทั้งสิ้น หากคิดเช่นนั้นไม่สงสารประเทศตัวเองหรืออย่างไร เพราะแผ่นดินที่พวกตนรักษาอยู่ทุกวันนี้มีคนตายทับถมกันเท่าไหร่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเองคิดถึงมายืนตรงนี้ ไม่ได้คิดจะทวงบุญคุณใครทั้งสิ้น ทหารตายตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาเพราะต้องไปรบอย่างน้อยก็รถคว่ำ ขณะเดียวกันก็มีคนบอกว่าประเทศไทยไม่ได้มีปัญหาคอร์รัปชั่นมากนัก แต่เป็นปัญหาที่ทหารยกมาอ้างเพื่อปฏิวัติ ตนฟังแล้วหมดแรง ปวดหัว และยืนยันว่าตนและรัฐบาลทุกคนพยายามแก้ปัญหาเหล่านี้ ดังนั้นหากพบว่าใครมีความผิดก็นำข้อมูลมาให้ดูได้ อย่างไรก็ตามวันนี้มีหลายคนเอาตสไปอ้าง ตนไม่เคยรู้จักหรือพบใคร อาจจะมีคนรู้จักห้อมล้อม ซึ่งมีทั้งคนดีและไม่ดี

“ผมจะเล่าให้ฟัง วันสองวันนี้ ได้ข้อมูลมาว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งไปกินข้าวที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ตอนกำลังรับประทานอยู่ก็บอกว่าวันนี้สั่งแต่อาหารที่นายกฯชอบทั้งนั้น ผมยังไม่รู้ผมชอบอะไรเลย ยังพูดอีกว่านึกถึงนายกฯ เขานะ เดี๋ยวโทรหานายกฯ ดีกว่า แล้วทำว่าโทรศัพท์ ฮัลโหลว่าไงคะ โทรจริงหรือเปล่าไม่รู้ แล้วบอกเดี๋ยวสั่งใส่กล่องให้นายกฯ ด้วย คนแบบนี้เยอะ อ้างจนเละไปหมด ผมไม่เข้าใจเป็นอะไร อ้างคนนู้นคนนี้ทำไมเห็นแก่ตัวแบบนี้ ผมเข้ามาเพื่อเหตุผลและความจำเป็นจะแก้เรื่องเหล่านี้ จึงไม่ทำแบบนี้เด็ดขาด มีทั้งรัฐมนตรี รองนายกฯ โดนหมดทุกคน สนิทกับทุกคน บอกเป็นสายคนนั้นคนนี้ ขับรถผ่านหน้าบ้านก็บอกว่ารู้จักกัน ผมไม่อยากว่ามากนัก แต่คนที่ไปเชื่อมันอันตราย อย่าเชื่อโดยไม่มีเหตุผล ผมไม่ใช่คนใจไม้ไส้ระกำ แต่เป็นคนมีเหตุผล และวันนี้ผมมีเพื่อนไม่กี่คน ที่เป็นรัฐมนตรี นอกนั้นทิ้งผมไปหมดแล้ว”พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันยังมีคนวิจารณ์ว่าเหตุใดถึงส่งผู้แทนไปชี้แจงในการประชุมคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติกันมากมาย ซึ่งไม่รู้หรืออย่างไรว่าเขาไล่ขนาดไหน ซึ่งยืนยันว่าเราชี้แจงทุกเรื่อง รวมถึงการใช้อำนาจมาตรา 44 หากมีอะไรไม่ดีเราก็ต้องแก้ไข นอกจากนี้ ย้ำว่ารัฐธรรมนูญเขียนเพื่อปวงชนชาวไทยทุกคน รวมถึงคนที่ออกมาประท้วงด้วย ซึ่งวันนี้ต้องสงบให้ได้ หลายเรื่องเอาความคิดเดิมไปต่อต้าน ก็ไปไม่ได้จะเจ๊งเหมือนเดิม ทำไปไร้ค่า ไร้ประโยชน์ ตนไม่เก่งเรื่องวิชาการ แต่เก่งเรื่องการทำให้เป็นรูปธรรม ตามนิสัยของทหาร จึงต้องทำงานที่ได้รับให้แล้วเสร็จ ขณะเดียวกันทุกโครงการของทุกกระทรวงหากของบประมาณมาแล้วทำไมไ่ด้ก็จะเอาเงินคืนทั้งหมด

“ที่ผ่านมาเราหลงทางกันเอง ไม่มองจุดสุดท้าย มองลิ๊บๆ ตอนนี้ข้าราชการที่บอกให้เป็นสะพาน หลังแอ่นกันหมดแล้ว อะไรก็ไปไม่ได้ ทั้งเรือแป๊ะ เรือป้อม ล่มไปไม่ได้หมด มันช่างไปเขียนกันจริงๆ พูดกันอยู่ได้ เรือป้อม เรือพ่วง ทั้งนี้ประชาธิปไตยต้องปรับเปลี่ยนต่อเติม ผมไม่ได้ทำลาย คนเราต้องช่วยกัน เอาน้ำ ปูน ทราย มาก่อ คสช. หรือผมทำคนเดียวไม่ได้ และขณะนี้มองว่าประเทศไทยเหมือนอัลไซเมอร์ใช้สมองไม่ครบเพราะเขาไม่รู้ ต้องโทษทุกรัฐบาล รัฐบาลนี้ด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ ระบุ