ต่างประเทศ : ย้อนมอง “ไข้หวัดสเปน” ประวัติศาสตร์ที่ซ้ำรอย

ในช่วงเวลาที่โลกกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือที่เรียกกันว่า “โควิด-19” เชื้อไวรัสที่มีต้นตอการแพร่ระบาดจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน จนล่าสุดมีผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 90,000 คนทั่วโลก และจำนวนผู้เสียชีวิตทะลุ 3,000 คนไปแล้ว

ต้นตอการแพร่ระบาดส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปกปิดข่าวของรัฐบาลจีน ถึงขั้นดำเนินคดีกับนายแพทย์ผู้ที่พบเชื้อไวรัสที่กำลังระบาดในช่วงแรกอย่างนายแพทย์หลี่เหวินเหลียงในข้อหาสร้างความตื่นตระหนก นายแพทย์ที่ในเวลาต่อมาเสียชีวิตลงเพราะติดเชื้อโควิด-19 เสียเอง

การปกปิดข่าวและการดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดที่ล่าช้าส่งผลให้ประชากรชาวเมืองอู่ฮั่นกว่า 5 ล้านคน เดินทางออกจากเมืองในช่วงเทศกาลตรุษจีนอย่างอิสระ ส่งผลให้เชื้อแพร่ระบาดไปทั่วประเทศจีน

และล่าสุดระบาดไปทั่วโลกแล้ว

 

สถานการณ์ดังกล่าวทำให้นึกย้อนไปถึงเหตุการณ์แพร่ระบาดของ “ไข้หวัดสเปน” ที่แพร่ระบาดในปี ค.ศ.1918 เมื่อกว่า 100 ปีก่อน ซึ่งนับเป็นการแพร่ระบาดที่ต้องสูญเสียชีวิตคนทั่วโลกไปมากถึง 50 ล้านคน นับเป็นการสูญเสียจากโรคระบาดครั้งร้ายแรงที่สุดครั้งหนึ่งของมนุษยชาติ

แม้ในปัจจุบันโลกก็ยังไม่รู้แน่ชัดว่า “ไข้หวัดสเปน” มีต้นตอมาจากอะไร แต่มีรายงานการพบการแพร่ระบาดใน “แนวรบด้านตะวันตก” ในสงครามโลกครั้งที่ 1 หรือบริเวณประเทศเบลเยียม และพื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศฝรั่งเศส

ด้วยสภาพแวดล้อมที่แออัดของค่ายทหาร ทหารที่มีร่างกายอ่อนแอ การแพร่เชื้อจากละอองฝอยจากการไอ จาม ทำให้เชื้อกระจายไปในทวีปยุโรป สหรัฐอเมริกา และบางส่วนของเอเชียอย่างรวดเร็ว ก่อนจะระบาดไปทั่วโลกในเวลาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้น

ในช่วงแรกผู้ติดเชื้อมีอาการเพียงเล็กน้อยก่อนที่เชื้อจะกลายพันธุ์ในเวลาต่อมา โดยผู้ป่วยจะมีอาการน้ำท่วมปอด ส่งผลให้ขาดอากาศหายใจ ผิวมีสีคล้ำลง

และเสียชีวิตลงหลังมีอาการเพียงไม่กี่ชั่วโมงหรือไม่กี่วันเท่านั้น

 

ที่มาของชื่อ “ไข้หวัดสเปน” แม้สเปนจะไม่ใช่ประเทศที่เป็นต้นตอการแพร่ระบาด หรือเป็นประเทศที่มีการแพร่ระบาดรุนแรงที่สุด แต่เป็นผลจากช่วงเวลาสงคราม หลายประเทศจำเป็นต้องปิดข่าวเพื่อขวัญกำลังใจของกำลังพล และไม่เผยให้ศัตรูเห็นความอ่อนแอของประเทศตนเอง

แม้ว่าในเวลานั้นเชื้อจะแพร่ระบาดอย่างหนักในทั้งสองฝั่งคู่ปฏิปักษ์แล้วก็ตาม

สเปนเป็นชาติที่วางตัวเป็นกลางในช่วงสงคราม นั่นทำให้ไม่มีเหตุผลให้ทางการสเปนจะต้องปิดข่าวการแพร่ระบาด มีการรายงานข่าวการแพร่ระบาดและเผยแพร่ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ถึงขั้นมีรายงานด้วยว่าแม้แต่พระเจ้าอัลฟอนโซ่ที่ 13 แห่งสเปนก็ทรงติดเชื้อไข้หวัดชนิดใหม่นี้เข้าไปด้วย

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทั่วโลกคิดว่าเชื้อไข้หวัดดังกล่าวมีต้นตอและระบาดรุนแรงในประเทศสเปนนั่นเอง

แม้การเชื่อมโยงโลกจะไม่สะดวกสบายเหมือนในยุคนี้ แต่การส่งทหารเข้าร่วมรบจากหลายประเทศทั่วโลก ส่งผลให้เหล่าทหารที่ติดเชื้อเป็นพาหะแพร่ระบาด “ไข้หวัดสเปน” ไปได้อย่างกว้างขวาง ไม่ว่าจะเป็นหมู่เกาะห่างไกล หรือพื้นที่แถบขั้วโลกเหนือ

รวมไปถึงมีรายงานว่าประธานาธิบดีวูดโรว์ วิลสัน ของสหรัฐอเมริกาเองก็ติดไข้หวัดสเปนมาด้วยระหว่างการเจรจา “สนธิสัญญาแวร์ซายส์” สนธิสัญญาที่เป็นจุดสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 ลง

 

การแพร่ระบาดส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั่วโลกจำนวนมากถึง 20-50 ล้านคน มากกว่าความสูญเสียจากสงครามโลกถึง 3 เท่า หรือบางแหล่งข้อมูลประมาณการไว้ว่าอาจมีผู้เสียชีวิตมากถึง 100 ล้านคน หรือนับเป็น 3 เปอร์เซ็นต์ของประชากรโลก

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตที่แน่นอนนั้นไม่ชัดเจนเนื่องจากในยุคนั้นยังขาดการทำประวัติหรือเก็บสถิติทางการแพทย์ในหลายๆ พื้นที่

ในสหรัฐอเมริกามีผู้เสียชีวิตจำนวนกว่า 670,000 ราย เกิดความหวาดกลัวไปทั่ว หลายเมืองมีสภาพร้างผู้คน เนื่องจากประชาชนไม่กล้าออกจากบ้าน ทางการสั่งปิดโรงเรียน โบสถ์และโรงละคร ขณะที่โรงพยาบาล คนไข้ผู้ติดเชื้อไข้หวัดสเปนล้นโรงพยาบาล ถึงขั้นเกิดการจ่ายสินบนเพื่อให้ได้เข้ารับการรักษา แพทย์และพยาบาลขาดแคลน โรงเรียน บ้านพักส่วนตัว ถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นโรงพยาบาลชั่วคราวเพื่อรักษาผู้ป่วยที่มีจำนวนมาก

การแพร่ระบาดในสหรัฐอเมริกาส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก บางครอบครัวเสียชีวิตทั้งหมด บางครอบครัวเหลือไว้เพียงแม่ม่ายและเด็กกำพร้า นั่นน่าจะทำให้จินตนาการได้ว่าประเทศที่วิทยาการไม่ได้ก้าวหน้าอย่างสหรัฐอเมริกาในเวลานั้นสถานการณ์จะเลวร้ายมากกว่านี้แค่ไหน

ฤดูร้อนปี 1919 การแพร่ระบาดของไข้หวัดสเปนทั่วโลกยุติลง โดยผู้ติดเชื้อถ้าไม่เสียชีวิตลงก็พัฒนาระบบภูมิคุ้นกันมาสู้กับโรคได้

 

90 ปีต่อมาในปี 2008 นักวิจัยเพิ่งจะค้นพบสาเหตุที่ไข้หวัดสเปนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากนั้น เป็นผลมาจากการที่ยีน 3 ชนิดที่ทำให้ไวรัสมีฤทธิ์ทำให้หลอดลมและปอดของผู้ติดเชื้ออ่อนแอลง เปิดทางให้แบคทีเรียจู่โจมทำให้เกิดภาวะปอดอักเสบตามมา

หลังการแพร่ระบาดของไข้หวัดสเปน เกิดการแพร่ระบาดของไข้หวัดครั้งใหญ่อีกหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีครั้งไหนที่มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากเท่ากับไข้หวัดสเปนอีกแล้ว

ความหวาดกลัวที่สะท้อนในประวัติศาสตร์จากการแพร่ระบาดของไข้หวัดสเปน เริ่มก่อตัวขึ้นอีกครั้งในการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในปี 2020 นี้ ด้วยจุดเริ่มต้นจากการปกปิดข่าวสารที่แหล่งกำเนิดการแพร่ระบาด ซึ่งก็ได้แต่หวังว่าวิวัฒนาการการรักษาและมาตรการกักกันโรคที่พัฒนามากขึ้นในยุคปัจจุบัน จะไม่ทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงเช่นครั้งก่อน

และนับเป็นบทเรียนให้เห็นว่าข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องแม่นยำนั้นเป็นสิ่งสำคัญเพียงใด