กรองกระแส / ปรากฏการณ์ จุดเทียน การตื่น ทางการเมือง พลังบริสุทธิ์ ปะทะกับรัฐบาล คสช.

กรองกระแส

 

ปรากฏการณ์ จุดเทียน

การตื่น ทางการเมือง พลังบริสุทธิ์

ปะทะกับรัฐบาล คสช.

 

ปรากฏการณ์จุดเทียน เปิดไฟสมาร์ตโฟน ตะโกนขับประยุทธ์ สร้างความตื่นตะลึงเป็นอย่างสูงในทางการเมือง ไม่ว่าจะมองจากมุมที่เห็นด้วย ไม่ว่าจะมองจากมุมที่ไม่เห็นด้วย

ไม่เห็นด้วยเพราะว่าปลายหอกพุ่งเข้าใส่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ขณะเดียวกัน เห็นด้วยเพราะว่านี่เป็นครั้งแรกที่ “พลังนักศึกษา” ก่อรูปขึ้นอย่างเป็นจริงหลังจากสถานการณ์รัฐประหารเมื่อเดือนตุลาคม 2519 เป็นต้นมา

เห็นด้วยเพราะประจักษ์ในสภาวะตื่นรู้ทางการเมืองของ “คนรุ่นใหม่”

จากปรากฏการณ์นี้จึงนำไปสู่การคาดหมายทางการเมืองหลากหลายสายความคิด บ้างประเมินว่าอาจจะนำไปสู่เหตุการณ์เหมือนเมื่อเดือนตุลาคม 2516 บ้างประเมินว่าอาจจะนำไปสู่เหตุการณ์เหมือนเมื่อเดือนตุลาคม 2516 และเหมือนเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535

เป็นการประเมินจากความรับรู้ของตนเอง เป็นการประเมินจากความจัดเจนในทางประวัติศาสตร์ แต่สิ่งที่ควรทำความเข้าใจเป็นเบื้องต้นก็คือ อะไรคือสาเหตุก่อให้เกิดปรากฏการณ์ทางการเมืองเช่นนี้ขึ้น

มีความจำเป็นต้องเริ่มจาก “ความเป็นจริง” จำเป็นต้องหา “สัจจะ” จากความเป็นจริง

 

ความเป็นจริง รัฐบาล

รากฐาน รัฐประหาร

 

ความไม่พอใจอาจมีชนวนมาจากการยุบพรรคอนาคตใหม่ ความไม่พอใจอาจมีชนวนมาจากกระบวนการบดขยี้และทำลายล้างพรรคอนาคตใหม่

เป็นความรู้สึกว่ามองไม่เห็นหัว 6.2 ล้านกว่าเสียง

ความรู้สึกว่าเป็นการกลั่นแกล้งและจงใจทำต่อพรรคอนาคตใหม่ บนพื้นฐานแห่งสองมาตรฐานในทางการเมือง คนอื่น พรรคอื่นทำอย่างเดียวกันไม่ผิด แต่พรรคอนาคตใหม่ทำผิด

จากจุดนี้เมื่อโยงเข้ากับสภาพความเป็นจริงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีอำนาจขึ้นมาจากการรัฐประหารและสร้างกฎกติกาผ่านรัฐธรรมนูญ ผ่านองค์กรอิสระเพื่อการสืบทอดอำนาจ ทำให้ความไม่พอใจก่อรูปขึ้นอย่างเป็นระบบ

จึงนำไปสู่การชุมนุม จึงนำไปสู่การเรียกร้องอย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ว่าจะเรื่องการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ ไม่ว่าจะเรื่องการจัดการกับผลพวงแห่งประกาศ คำสั่งของคณะรัฐประหาร

รัฐประหารนั่นเองคือมูลฐานแห่งปัญหาและสำแดงผ่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 

ความเป็นจริง แฟลชม็อบ

นักเรียน นิสิตและนักศึกษา

 

รูปการประท้วงครั้งนี้เป็นความต่อเนื่องจากแฟลชม็อบเมื่อเดือนธันวาคม 2562 ณ ลานสกายวอล์ก แยกปทุมวันอย่างเด่นชัด

เพียงแต่ไม่ออกนอกสถานศึกษา เพียงแต่เป็นการชุมนุมภายใน

เริ่มจากความหงุดหงิดต่อการยุบพรรคอนาคตใหม่ ที่ลานปรีดี พนมยงค์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แพร่ไปยังหน้าหอประชุม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตามมาด้วยหน้าหอประชุม มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และลานกิจกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา

จากมหาวิทยาลัยส่วนกลางไปยังมหาวิทยาลัยในส่วนภูมิภาค จากนิสิตนักศึกษากระจายไปยังนักเรียนทั้งส่วนกลางและต่างจังหวัด

เป็นการชุมนุมไม่ยืดเยื้อ เป็นการชุมนุมโดยใช้สื่อออนไลน์เป็นตัวเชื่อม

แตกต่างไปจากการชุมนุมเมื่อเดือนตุลาคม 2516 แตกต่างไปจากการชุมนุมเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 แตกต่างไปจากการชุมนุมก่อนรัฐประหารปี 2549 และรัฐประหารปี 2557

เป็นการเริ่มต้นด้วยกลุ่มนักเรียน นิสิต นักศึกษา และเป็นการชุมนุมภายใต้เวลาที่แน่นอน เด่นชัด

 

ก้าวแรกการชุมนุม

เป้าหมายไล่รัฐบาล

 

การชุมนุมที่เริ่มในปลายเดือนกุมภาพันธ์ ต่อเนื่องมายังต้นเดือนมีนาคม ยังไม่มีใครคาดหมายได้ว่าจะจบสิ้นลงอย่างไร และจะพัฒนาไปอย่างไร

ไม่ว่าจะจากรัฐบาล ไม่ว่าจะจากนักเรียน นิสิต นักศึกษา

แม้จะมีการสรุปลงไปว่าอาจมีบางพรรคการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่สังคมยังมองว่าเป็นกิจกรรมอันมีนักเรียน นิสิต นักศึกษา เป็นจุดเริ่มต้น

ถือได้ว่าเป็น “พลังบริสุทธิ์”

เพียงแต่เป็นพลังบริสุทธิ์อันสะท้อนออกอย่างเด่นชัดว่าไม่พอใจต่อรัฐบาล ไม่พอใจต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่พอใจต่อกระบวนการรัฐประหาร

            เด่นชัดเป็นความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับพลังของนักเรียน นิสิต นักศึกษา