ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 21 - 27 กุมภาพันธ์ 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | ต่างประเทศอินโดจีน |
เผยแพร่ |
เมืองซึ่งครั้งหนึ่งเอ่ยชื่อขึ้นมา หลายคนส่ายหน้าไม่รู้จัก กลับกลายเป็นหนึ่งในเมืองที่ขึ้นหน้าขึ้นตา มีชื่อเสียงเลื่องลือไปไกลมากที่สุดแห่งหนึ่งของกัมพูชา
ที่เป็นเช่นนั้น เป็นเพราะ “สีหนุวิลล์” กลายเป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดและชัดเจนที่สุดสำหรับการหยิบยกเป็นอุทาหรณ์ให้เห็นว่า อิทธิพลและบารมีของจีนที่มีต่อชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นั้น เพิ่มพูนขึ้นอย่างไร มากเพียงใด
จีนไม่เพียงปรากฏตัวให้เห็นมากขึ้นในภูมิภาคนี้เท่านั้น แต่ยังพอกพูนความผูกพันที่สลับซับซ้อนเพิ่มมากขึ้นทั้งในทางเศรษฐกิจ การเมือง และความสัมพันธ์ระหว่างคนต่อคน ประชาชนต่อประชาชนด้วยกัน
จากที่เดิมเคยถูกยึดถือเป็น “เมืองท่า” และ “ศูนย์กลางอุตสาหกรรม” สำคัญแห่งหนึ่งประจำภูมิภาคนี้ตาม “ความคิดริเริ่ม หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง”
สีหนุวิลล์ กลายเป็นชุมทางสำหรับชุมนุมประชากรจีนที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดแห่งหนึ่งนอกประเทศ
เมื่อครั้งที่ธุรกิจกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของทั้งเมืองมีคนจีนเป็นเจ้าของนั้น ว่ากันว่าประชากรจีนที่มาใช้ชีวิตอยู่ในสีหนุวิลล์ตกราว 80,000 คนโดยประมาณ
พอๆ กันกับประชากรกัมพูชาในเมืองนี้ทั้งเมืองเลยทีเดียว
น่าสนใจเช่นกันที่แรงผลักดันสำคัญไม่ได้เกี่ยวเนื่องใดๆ กับ “หนึ่งแถบ หนึ่งเส้นทาง” ทั้งสิ้น แต่เกิดขึ้นจากการที่นักลงทุนชาวจีนหอบเงินมาลงทุนเพื่อพัฒนาเมืองนี้ให้เป็นศูนย์กลางการพนันออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคให้ได้
ปัญหาของสีหนุวิลล์ก็คือ ลูกค้ารายใหญ่ทั้งหลายของกาสิโนออนไลน์เหล่านี้ก็คือคนจีน ซึ่งอยู่ในประเทศจีน ที่การพนันยังเป็นสิ่งผิดกฎหมาย ยกเว้นเฉพาะในเขตเศรษฐกิจพิเศษมาเก๊าที่เดียวเท่านั้น
เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา ทางการจีนไม่ยอมอดกลั้นกับปัญหาการพนันออนไลน์อีกต่อไป กดดันจนในที่สุดทางการกัมพูชาต้องออกประกาศให้การพนันออนไลน์เป็นการกระทำผิดกฎหมายตามไปด้วย
ส่งผลให้ชาวจีนที่มาปักหลักเปิดกาสิโนออนไลน์ ตั้งโต๊ะติดต่อกับลูกค้าผ่านทางอินเตอร์เน็ตในสีหนุวิลล์ต้องม้วนเสื่อกันไปเป็นแถวๆ
คนจีนที่เคยมาปักหลักทำมาหากินผ่านการพนันออนไลน์อย่างสุขสบายที่นี่เริ่มทยอยกันอพยพกลับ กาสิโนที่ซบเซาลงเพราะรายได้หลักหายไป ถ้าไม่เลิกกิจการไปทั้งหมด ก็ลดการจ้างงานชาวกัมพูชาลงตามไปด้วย
ว่ากันว่าชาวกัมพูชาในสีหนุวิลล์ที่ต้องว่างงานอันเนื่องจากการห้ามการพนันออนไลน์ของรัฐบาลกัมพูชานั้นมีไม่น้อยกว่า 7,000 คน
กาสิโนทุนหนาส่วนหนึ่งยังคงเปิดดำเนินการต่อไป แต่ได้แต่ตั้งตารอคอยการกลับมาของนักท่องเที่ยวชาวจีน นักพนันมือหนักและเล่นเดิมพันได้หามรุ่งหามค่ำ
รอแล้วรออีก นักท่องเที่ยวชาวจีนก็ยังไม่ยอมกลับมา คราวนี้ไม่ใช่เพราะสีหนุวิลล์ขาดเสน่ห์ที่เคยมีไปแต่อย่างใด
แต่เป็นเพราะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ทางการจีนทั้งแนะนำ ทั้งบังคับไม่ให้ชาวจีนเดินทางออกนอกประเทศ
สีหนุวิลล์เองก็เผชิญกับปัญหาด้วยตัวเอง เพราะไม่เพียงพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นรายแรกแล้ว ยังถูกเลือกให้เป็นสถานที่จอดเทียบท่า และปล่อยให้ผู้โดยสารของเรือสำราญเอ็มเอส เวสเตอร์ดัม ขึ้นบกที่นี่
ก่อนที่จะพบในภายหลังว่า 1 ในจำนวนนั้นติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ผวากันทั่วโลก
สําหรับธุรกิจถูกต้องตามกฎหมายที่นี่ การห้ามการพนันออนไลน์น่าจะเป็นสิ่งดีสำหรับเมืองนี้ในระยะยาว เพราะการคาดหวังรายได้จากภาษีที่เรียกเก็บจากสิ่งผิดกฎหมายนั้นไม่มีทางยั่งยืน
เจิ้งหลงหมิง นักธุรกิจจีนที่ปักหลักอยู่ที่นี่มานานกว่า 12 ปี เชื่อว่าอีกไม่ช้าสีหนุวิลล์จะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เมื่อนักท่องเที่ยวจีนเริ่มกลับมา ถึงจะช้าไปบ้างก็เถอะ
แต่สำหรับกวาน สมเฮย คนขับตุ๊กตุ๊กในท้องถิ่น อยากให้สภาพเดิมกลับมาโดยเร็ว รายได้จากการรับนักท่องเที่ยววันละ 80 ดอลลาร์ (ราว 2,495 บาท) จะได้กลับมา
ก่อนที่จะตกอยู่ในภาวะวิกฤตทั้งตัวเองและครอบครัวนั่นเอง