อิหยังวะ

ถ้าเป็นยุคก่อนที่พี่ๆ ยังมีอำนาจในกองทัพบก

“บิ๊กแดง” พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ คงถูกสั่งซ่อมเช้า-เย็นไปแล้ว

เพราะการเปิดประเด็นเรื่องการคืนบ้านพักของนายทหารที่เกษียณแล้วได้สร้างความเดือดร้อนกับพี่ๆ “บูรพาพยัคฆ์”

เพราะแต่ละคนยึดครองบ้านพักในค่ายทหารมายาวนาน

“บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอดตัวไปเพราะย้ายบ้านออกมานานแล้ว แต่ยังรักษา “บ้านเก่า” ไว้เป็นมูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัดฯ

เป็นมูลนิธิที่นักการเมืองคุ้นเคยมากตอนที่ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ

ส่วน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา หนักหน่อย เพราะยึดครองบ้านพักประจำตำแหน่งสมัยเป็นผู้บัญชาการทหารบกมาตั้งแต่เกษียณอายุปี 2553

ถึงวันนี้ก็ 10 ปีพอดี

เช่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ยังอยู่บ้านเก่าหลังเดิมในค่ายทหาร

“บิ๊กตู่” เกษียณอายุปี 2557

ถึงวันนี้ 6 ปีแล้วที่ยังไม่ยอมย้ายไปอยู่บ้านตัวเอง

ประโยคหนึ่งของ พล.อ.อภิรัชต์ที่เสียดแทงใจดำ “นายทหารรุ่นพี่”

“ทหารมีบ้านพักให้อยู่ฟรี รับราชการ 20-30 ปีไม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน เพื่อให้มีเวลาเก็บเงินไปซื้อบ้านหลังเกษียณอายุ”

เมื่อเปิดดูบัญชีทรัพย์สินของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.อนุพงษ์แล้วยิ่งตกใจ

พล.อ.ประยุทธ์และภรรยามีเงินสดและทรัพย์สิน 128 ล้านบาท

ส่วน พล.อ.อนุพงษ์และภรรยา 37 ล้านบาท

คนทำงานเงินเดือน 20,000-30,000 บาท ก็ยังดิ้นรนซื้อบ้านของตัวเองแล้ว

ผ่อนเท่าไรก็ยอมจ่าย

แต่ พล.อ.ประยุทธ์มีเงิน 128 ล้านบาท

พล.อ.อนุพงษ์ 37 ล้านบาท

กลับอยู่บ้านหลวงฟรี

…อิหยังวะ

เหตุผลที่ทั้งคู่ยังไม่ยอมย้ายออกจากค่ายทหารทั้งที่เกษียณอายุแล้วก็เสียดแทงหัวใจชาวบ้านที่หาเช้ากินค่ำอย่างยิ่ง

“บิ๊กป๊อก” บอกว่าอยู่เพราะสะดวก

“ตอนทำงานเดินทางไม่ไหวเพราะไกล”

คนนั่งรถเมล์มาทำงานฟังแล้วน้ำตาไหล

สงสารท่านรัฐมนตรีที่นั่งรถเบนซ์ส่วนตัวแถมมีรถตำรวจนำ แต่บอกว่าเดินทางเหนื่อย

ส่วน “บิ๊กตู่” อ้างว่าเป็นนายกรัฐมนตรี มีปัญหาเรื่องการรักษาความปลอดภัย

ดังนั้น ต้องอยู่ในค่ายทหาร

นึกถึง “นายกรัฐมนตรีพลเรือน” ในอดีตทั้งหลาย

“ชวน หลีกภัย” ก็อยู่บ้านเช่าเล็กๆ ที่ซอยหมอเหล็ง

“อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ก็อยู่บ้านส่วนตัว

ขนาดนายกฯ ที่เป็นสุภาพสตรีอย่าง “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ก็ยังอยู่บ้านส่วนตัว

แต่นายกรัฐมนตรีที่เป็นชายชาติทหารกลับต้องอยู่ในค่ายทหาร

เพราะกลัวเรื่อง “ความปลอดภัย”

เป็นตรรกะที่ “มะล่องก่องแก่ง” จริงๆ