ภาพยนตร์/ นพมาส แววหงส์ / BOMBSHELL ‘หมู’

นพมาส แววหงส์

ภาพยนตร์/นพมาส แววหงส์

BOMBSHELL

‘หมู’

 

กำกับการแสดง Jay Roach

นำแสดง Charlize Theron Nicole Kidman Margot Robbie John Lithgow

Kate McKinnon

 

เนื้อหาของหนังเรื่องนี้ดูเหมือนเพิ่งจะตกเป็นข่าวฉาวโฉ่กระฉ่อนอเมริกายังไม่ทันไร-พูดอีกอย่างคือควันยังไม่ทันจางหาย ถึงไฟจะดับไปแล้ว–เรื่องราวเบื้องหลังเบื้องลึกกรณีการฟ้องร้องแฉโพยกรณีการคุกคามทางเพศอย่างครึกโครม ก็กลายเป็นหนังฟอร์มใหญ่ให้เราดูอย่างทันการทันใจ

แถมยังปรากฏอยู่ในรายชื่อเข้าชิงรางวัลสาขาหลักทางด้านการแสดงของการมอบรางวัลเกียรติยศของวงการภาพยนตร์ที่เพิ่งจัดงานประจำปีไปเมื่อต้นสัปดาห์นี้เอง

ชาร์ลีซ เธอรอน และมาร์โกต์ ร็อบบี้ ได้เข้าชิงในสาขานักแสดงหญิงหลักและสมทบ ตามลำดับ

แม้ว่านักแสดงสาวสวยทั้งสองคนจะไม่ได้ก้าวขึ้นเวทีไปรับรางวัลและกล่าวขอบคุณในฐานะผู้ชนะก็ตาม แต่การเป็นหนึ่งในห้าชื่อที่ได้รับการเสนอเข้าชิงก็ถือเป็นเกียรติประวัติที่คุยได้ไม่จบแล้วละ

 

เรื่องราวกลายเป็นข่าวขึ้นมาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว (ค.ศ.2016) นี้เอง

หนังเริ่มเล่าเรื่องจากมุมมองของตัวละครสำคัญคนหนึ่งในเรื่อง คือ เมกิน เคลลี (ชาร์ลีซ เธอรอน) โดยแนะนำให้คนดูรู้จักการทำงานในองค์กรทีวีเน็ตเวิร์กขวาตกขอบของอเมริกาที่มีมหาเศรษฐีรูเพิร์ต เมอร์ด็อก เป็นเจ้าของ แต่มอบบังเหียนการบริหารงานทั้งหมดไว้ในมือของโรเจอร์ เอลส์ (จอห์น ลิธกาว) ผู้คร่ำหวอดอยู่ในวงการสื่อมวลชน

หลายคนอาจจะทราบแล้วว่าฟอกซ์นิวส์เป็นช่องทีวีขวาจัดที่ชูพรรครีพับลิกัน ถึงขั้นที่มีผู้ขนานนามว่า “เครื่องมือโฆษณาชวนเชื่อขวาสุดโต่ง” ถึงขนาดที่บุคคลสำคัญในพรรคเดโมแครตหลายคนบอกว่าจะไม่ยอมให้สัมภาษณ์หรือรับเชิญไปออกรายการของฟอกซ์นิวส์อีก เนื่องจากโดนบิดเบือน สร้างข่าว หรือพลิกขาวให้เป็นดำตลอด

ในช่วงเวลาที่เหตุการณ์ในเรื่องกำลังจะปะทุขึ้น ผู้สมัครคนสำคัญของพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังจะออกรายการอภิปรายเพื่อชิงตำแหน่งผู้ที่จะได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงชัยสำหรับประธานาธิบดี โดยมีผู้สัมภาษณ์คือพิธีกรสาวชื่อดังของฟอกซ์นิวส์ เมกิน เคลลี

เมกินเชื่อว่าตัวเองถูกวางยาจากกาแฟถ้วยที่รับมาจากคนขับรถที่เธอไม่รู้จัก จนต้องอาเจียนจนหมดไส้หมดพุงและแทบไม่มีแรงไปดำเนินรายการสัมภาษณ์

ในระหว่างการอภิปราย เธอตั้งคำถามให้ทรัมป์ตอบเกี่ยวกับทัศนะการดูหมิ่นเพศหญิง ซึ่งเป็นเหตุให้คืนนั้นทั้งคืน ทรัมป์ส่งข้อความทวิตเตอร์ด่าเมกินสิบกว่าครั้ง

แม้จะไม่ได้พูดออกมาโต้งๆ คนวงในหลายคนก็เชื่อว่าทรัมป์อยู่เบื้องหลังการวางยาเมกินครั้งนี้ แต่ก็พูดออกมาว่า ทรัมป์ไม่เคยดูข่าวช่องอื่นเลยนอกจากฟอกซ์นิวส์ที่เชียร์รีพับลิกันแบบหัวทิ่มหัวตำ

ชาร์ลีซ เธอรอน แปลงโฉมและจับแคแร็กเตอร์ของเมกิน เคลลี ได้อย่างยอดเยี่ยม และสร้างความน่าเห็นใจให้แก่ตัวละครตัวนี้ แบบที่จะทำให้ผู้คนที่เกลียดน้ำหน้าเมกิน เคลลี จะพาลไม่ชอบหนังเรื่องนี้ไปเลย

 

ระหว่างนั้น สาวสวยผมบลอนด์อีกคนซึ่งเป็นพนักงานบริษัทที่มีความทะเยอทะยาน ก็ได้รับการส่งตัวเข้าไปคุยในห้องสองต่อสองกับโรเจอร์ เอลส์

เคย์ลา (มาร์โกต์ ร็อบบี้) เป็นตัวละครที่ไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง แต่ว่ากันว่าสร้างขึ้นจากปากคำของผู้หญิงหลายคนที่ให้การว่าผ่านประสบการณ์แบบนี้มา

ฉากนี้เป็นเนื้อเป็นหนังที่ทำให้มาร์โกต์ ร็อบบี้ สร้างบทบาทของตัวละครที่โดนใจคนดูอย่างยิ่ง และแสดงให้เห็นความอึดอัดของผู้หญิงที่มีความทะเยอทะยานในอาชีพการงาน แต่ต้องถูกบังคับให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ระหว่างนั้น บุคคลที่เป็นต้นเรื่องของการฟ้องร้องกรณีการคุกคามทางเพศคือเกรชเช่น คาร์ลสัน (นิโคล คิดแมน) พิธีกรร่วมของรายการ Fox and Friends ที่เพิ่งโดนปลดจากรายการเนื่องจากแสดงความคิดเห็นที่ไม่สอดคล้องกับจุดยืนของรีพับลิกันเรื่องการใช้อาวุธ

เกรชเช่นยื่นฟ้องผู้บริหารสูงสุดของฟอกซ์นิวส์ข้อหาคุกคามทางเพศ โรเจอร์ เอลส์ ผู้ยิ่งใหญ่อยู่ในวงการ ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะไม่มีใครกล้าแตะต้องเขาได้

จากนั้นก็มีผู้หญิงกว่ายี่สิบคนให้การว่าเคยประสบเหตุการณ์โดนลวนลามหรือคุกคามทางเพศจากประธานบริหารผู้ทรงอำนาจสูงสุดในองค์กร

ระหว่างนั้น เมกินเงียบกริบโดยไม่แสดงท่าทีแต่อย่างใด ไม่ทั้งปกป้องหรือประณามเจ้านายโดยตรงของเธอ แต่ความเงียบของเธอกลับกลายเป็นเสียงดังลั่นที่ใครๆ ก็สังเกตเห็น

และจนในที่สุด เมื่อเธอตัดสินใจให้การปรักปรำเขา เธอก็พบว่าเธอเป็นพยานที่ถูกเรียกว่า “Witness W” ซึ่งเธอใช้การอนุมานว่านั่นหมายความว่ามีพยานก่อนหน้าเธอมาแล้ว 22 คน ตามลำดับตัวอักษร

 

คําให้การของเมกิน เคลลี คือตะปูตัวสุดท้ายที่ตอกฝาโลงของโรเจอร์ เอลส์ ทำให้เขาต้องหลุดจากตำแหน่งอันทรงเกียรติที่สร้างและครอบครองอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ของฟอกซ์นิวส์มาโดยตลอด

ในที่สุด ฟอกซ์นิวส์ก็ตกลงยอมความและชดใช้ค่าเสียหายให้แก่โจทก์ผู้ฟ้องร้อง โดยให้เซ็นเอกสารยินยอมจะไม่เปิดเผยเรื่องราวนี้แก่สาธารณชน

ซึ่งเกรชเช่นก็ยอมเซ็นให้ พร้อมทั้งพูดเป็นคำสั้นๆ แบบแบ่งรับแบ่งสู้ว่า “Maybe.” ซึ่งน่าจะหมายความว่าเธอยังมีแผนการแฉเรื่องนี้ต่อไปอีกในอนาคต

โรเจอร์ เอลส์ ถูกขอให้ลาออกจากตำแหน่งด้วยเงินชดเชยก้อนโต

 

ตัวหนังสือที่ขึ้นมาในตอนจบ สร้างความรู้สึกในความอยุติธรรมขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเขียนว่า “ฟอกซ์นิวส์จ่ายเงินชดเชยสำหรับพวกผู้หญิงที่ฟ้องร้องเป็นเงิน 50 ล้านดอลลาร์ และจ่ายเงินชดเชยให้พวกผู้ชายที่ต้องออกจากงานเป็นเงิน 60 ล้านดอลลาร์”

แปลว่าคนทำผิดได้รับการชดเชยมากกว่าคนถูกกระทำเสียอีก

และอย่างไรก็ตาม หนังก็ส่งสารเกี่ยวกับความเป็นไปในฟอกซ์นิวส์ต่อจากนั้นอีกเมื่อรูเพิร์ต เมอร์ด็อก เข้ามาบริหารงานแทนชั่วคราวว่าเรื่องก็จะยังกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกนั่นแหละ

Bombshell เป็นหนังที่เล่าเรื่องความยากลำบากในการเป็นผู้หญิงเก่งที่ต้องต่อสู้กับอคติของผู้ชายที่ใช้อำนาจเอาเปรียบผู้หญิงในอาชีพการงาน

เผื่อว่าจะงงกับการจั่วหัวเรื่องข้างบนว่าทำไมเรื่องนี้ถึงเป็น “หมู” ก็ขอตอบว่า pig เป็นคำสแลงที่ใช้เรียกผู้ชายที่เหยียดหยามเพศหญิง หรือ chauvinistic/sexist male