ใส่บ่าแบกหาม / พรพิมล ลิ่มเจริญ / Once Upon a Time in Hollywood

ใส่บ่าแบกหาม/พรพิมล ลิ่มเจริญ

 

Once Upon a Time in Hollywood

 

เธอจ๊ะ

Brad Pitt ขวัญใจของพวกเรา อายุ 56 ปีแล้ว ผ่านร้อนผ่านหนาวมาก็มากมาย รู้จักพี่เขาตั้งแต่เรื่อง Thelma & Louise ที่ฉายเมื่อปี 1991 จากนั้นมาพี่เขาแสดงอะไรฉันก็ไปดู พี่เขาเพิ่มงานให้ตนเองในตำแหน่งโปรดิวเซอร์ เปิดบริษัท Plan B ผลิตหนังเรื่องไหนฉันก็ไปอุดหนุนเสมอมา

ดีใจที่ Once Upon a Time in Hollywood พาพี่เขาสู่แวดวงรางวัล ได้รางวัลสาขานักแสดงสนับสนุนชาย ทั้งจากรางวัลลูกโลกทองคำ และได้จากรางวัล Screen Actors Guild Awards เมื่อสองอาทิตย์ก่อน

ฉันหวังไว้สูงเลยว่า บทนี้จะพาพี่เขาสู่รางวัลออสการ์ที่จะประกาศในเดือนกุมภาพันธ์นี้

วันก่อนที่พี่เขาพูดตอนขึ้นเวทีไปรับรางวัล Screen Actors Guild Awards พี่เขาตลกมากและประทับใจมาก

“I gotta add this to my Tinder profile.” ผมต้องใส่เจ้านี่เข้าไปในโปรไฟล์ในทินเดอร์ (เจ้านี่คือรางวัล) ว่าแต่พี่แบรดใช้ทินเดอร์หาคู่จริงๆ เหรอะ ฉันว่าเป็นมุข แต่ก็ตลกมาก คนฮาทั้งงาน

พี่แบรดขอบคุณเพื่อนร่วมแสดงและเท้าของเขา พร้อมกระเซ้าพี่เควนตินผู้กำกับการแสดงว่า แยกผู้หญิงด้วยการดูรองเท้ามากกว่าที่ TSA ทำอีก

“I want to thank my co-stars: Leo, Margot Robbie, Margot Robbie’s feet. Margaret Qualley’s feet. Dakota Fanning’s feet. Seriously, Quentin has separated more women from their shoes than the TSA.”

TSA ย่อมาจาก Transportation Security Administration เป็นหน่วยงานที่เราจะพบเจอเวลาเราเดินทางทางอากาศ เราต้องถอดรองเท้า เพราะเขาต้องดูรองเท้าของเราใกล้ชิด เอาขวดน้ำเปล่าไปจากเรา ขนมขบเคี้ยวกรุบกรอบเขาก็ยังเอาไป เพราะถุงบางชนิดเอาไปเป็นเครื่องมือทำระเบิดเหมือนที่ของเหลวทำได้

พี่แบรดยังมีแซวตัวเอง

“Let’s be honest, it was a difficult part : A guy who gets high, takes his shirt off and doesn’t get on with his wife. It was a big stretch.” พูดกันตรงๆ บทนี้ยาก เป็นผู้ชายเมายา ถอดเสื้อออก และเขากับภรรยาไม่ได้ ไม่น่าเชื่อ

a big stretch หมายถึง ไม่น่าเชื่อ เกินกว่าจะเข้าใจได้

“I’ve been banging away at this thing for 30 years. I think the simple math is, some projects work and some don’t. There’s no reason to belabor either one. Just get on to the next and keep telling stories.” ผมอยู่วงการนี้มาก็ 30 ปีแล้ว เอาง่ายๆ คือ บางงานก็ไปได้ดี บางงานก็เปล่า อย่าไปว่าอย่างใดอย่างหนึ่ง เรามาทำงานและเล่าเรื่องต่างๆ ต่อไป

belabor หมายถึง อธิบายแบบให้รายละเอียดเกินจำเป็น

ขอให้พี่แบรดได้รางวัลออสการ์เถิด..

 

Once Upon a Time in Hollywood เขียนบทและกำกับการแสดงโดยพี่เควนติน เทอแรนทิโน่

พี่เควนตินก็น่าจะได้รางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิม

พี่แบรดและพี่ลีโอนาร์โดให้สัมภาษณ์ในหลายๆ โอกาสก็มักจะบอกเสมอว่า หนังเรื่องนี้เป็น “จดหมายรักที่พี่เควนตินมีต่อโลกภาพยนตร์”

พี่เควนตินแกก็เก่ง เก่งเล่าเรื่อง แกรู้ดีเรื่องวงการภาพยนตร์ วงการโทรทัศน์ แกอ่านหนังสือ เลยเอาเรื่องต่างๆ มาซ้อนมาซับกัน เอาตัวละครสมัยปี 1969 มาเรียงมาร้อยเป็นเรื่องราว ทำให้เราเข้าใจ แถมเอาเรื่องราวของ Charles Manson มาใช้งานการเขียนอีก

ชาร์ลส์ แมนสัน ฆาตกร เจ้าลัทธิ ใช้สาวกไปฆ่าคน ต้องเรียกว่าสังหารโหด และสะเทือนขวัญจนถูกเอามาสร้างเป็นหนังเป็นสารคดีไม่รู้กี่เรื่องต่อกี่เรื่อง โดนจับแล้วแกทำตัวดัง มีความสามารถในการสร้างสถานการณ์ต่างๆ ประหนึ่งเป็น “เซเลบ” ให้สื่อได้ทำข่าวไม่ขาดสาย พี่เควนตินบอกว่าเรื่องของชาร์ลส์ แมนสัน มันสร้างความสนใจให้ชาวอเมริกันมานาน เพราะการที่เราไม่เข้าใจได้ทั้งหมดในความโหดนั้นมันน่าสนใจ

พี่ลีโอนาร์โดแสดงเป็น Rick Dalton ดารานักแสดงซีรี่ส์แนวเคาบอยฉายทางโทรทัศน์ ที่กำลังจะร่วงหล่นจากฟากฟ้าการแสดง เวลาไปไหนมาไหนจะมีผู้ช่วยคือ Cliff Booth แสดงโดยพี่แบรด พิตต์

Rick got his driver’s license taken away

for too many drunk-driving tickets.

Cliff drives him everywhere now.

ริกโดนยึดใบขับขี่

ได้ใบสั่งเมาแล้วขับหลายใบ

คลิฟฟ์ต้องขับรถให้เวลาไปไหนมาไหน

พี่คลิฟฟ์ก็ไม่ได้คิดมากอะไร เป็นนักแสดงแทน ที่ฝรั่งเรียก stunt double แสดงบทบู๊แทนพี่ริก ดังนั้น สองคนก็สนิทสนมกันดี

พี่ริกก็ได้แสดงซีรี่ส์หลายเรื่อง รู้เรื่องราวหลายอย่างเกี่ยวกับฮอลลีวู้ด

Most important thing

in this town is,

when you’re making money,

you buy a house in town.

You don’t rent.

ข้อสำคัญที่สุดในเมืองนี้คือ

เมื่อทำเงินได้

จงซื้อบ้าน อย่าเช่า

พี่ริกบอกพี่คลิฟฟ์ว่าต้องซื้อบ้าน เพื่อคนอื่นจะได้เห็นว่าเราจริงจังจะทำงานที่เมืองนี้ ไม่ใช่แค่มาเยี่ยมมาเยือน ไม่ใช่แค่ผ่านๆ มา

พี่ริกกลุ้มใจในอนาคตจะมีใครจ้างแสดงอีกไหมหนอ นักแสดงใหม่ๆ ก็เข้ามาเพิ่มมากขึ้นทุกวันๆ…

มีคนแนะนำให้ไปแสดงหนังเคาบอยที่ประเทศอิตาลี ที่นั่นนิยมสร้างหนังแนวนี้เหมือนกัน

I’ve seen enough, all right?

Nobody likes Spaghetti Westerns.

รู้หรอกน่า

ไม่มีใครชอบหนังเคาบอยอิตาเลียน

น่ารักดีหนา เรียกหนังเคาบอยอิตาเลียนว่า Spaghetti Westerns

หนังเคาบอยอิตาเลียนมีชื่อเสียงเรื่องต้นทุนต่ำ แต่ก็สามารถจ้างนักแสดงอเมริกันได้

ข้างฝ่ายพี่คลิฟฟ์แกก็ออกจะดูเจียมเนื้อเจียมตัว แต่บทจะต้องแสดงความ “แน่” แกก็แน่ได้ใจ

And I don’t dig the vibe he brings on a set.

The dude killed his wife.

ผมไม่ปลื้มบรรยากาศเวลาเขามาเซ็ต

หมอนั่นฆ่าเมียตัวเอง

จริงหรือเปล่าก็ไม่รู้? พี่ริกก็ได้แต่ฟังไว้ แต่ก็ยังให้พี่คลิฟฟ์มาส่ง แล้วค่อยกลับมารับตอนเย็นๆ อยู่ดี

 

มีฉากพี่คลิฟฟ์ต้องต่อปากต่อคำกับบรูซ ลี แล้วก็ลงมือสู้กัน แปลกใจตรงบรูซ ลี พูดแปลกๆ ฟังแปลกๆ ด้วย เคยดูพี่บรูซ ลี ให้สัมภาษณ์ในคลิปยูทูบ พี่เขาก็ไม่ได้พูดประหลาดแบบนี้ ฉันไม่เข้าใจพี่เควนตินที่ใช้มุขนี้ พี่เควนตินบอกว่า มันเป็น “a touch of parody” หรือทำให้มีกลิ่นแห่งการล้อเลียนเล็กน้อย แต่ผลลัพธ์คือพี่บรูซ ลี ในหนังดูตลกเกินไป ฉันก็ไม่ชอบดอกหนาที่นำเสนอพี่บรูซ ลี แบบนี้ในฉากนี้

ชอบฉากที่ให้พี่ริก ดาลตัน คุยกับนักแสดงเด็กอายุ 8 ขวบ นักแสดงเด็กพูดจาแก่เกินอายุ แต่นักแสดงเด็กนี่นะ จะมาพูดจาเอ๊าะแอ๊ะมันไม่ใช่ลักษณ์นักแสดงเด็ก มันต้องแบบนี้ พูดจาเกินวัยถึงจะดูมีอะไร

It’s the actor’s job to strive

for 100 percent effectiveness.

Naturally, we never succeed,

but it’s the pursuit…

that’s meaningful.

หน้าที่นักแสดงคือ

พยายามทำให้ผลออกมา 100%

ปกติมันจะไม่ได้หรอก

แต่การพยายามทำให้ได้นั้น

มีความหมาย

 

มันช่างลึกซึ้ง ศิลปะการแสดงเป็นศาสตร์อันลึกซึ้งและมีคุณค่าเหนือคำบรรยาย ให้เราได้อาศัยได้ความรู้และความบันเทิง

สมแล้วแหละที่หนังเรื่องนี้เป็น “จดหมายรัก” ของพี่เควนติน

ดูแล้วรู้เลยว่าแกรักภาพยนตร์และทุกอย่างที่เกี่ยวพันกับมัน

นักแสดงก็ควรต้องรักโอกาสที่ได้มีงานทำต่อเนื่อง

ผู้กำกับฯ ก็ควรต้องรักเรื่องราวและผลผลิตของตนเอง

อุตสาหกรรมบันเทิงจึงเป็นหนึ่งเดียวกัน

ฉันเอง