ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 31 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์ 2563 |
---|---|
ผู้เขียน | เสถียร จันทิมาธร |
เผยแพร่ |
วิถีแห่งกลยุทธ์ เหมยฉางซู/เสถียร จันทิมาธร
โปรดดื่มเหล้านี้ ให้หมดจอก (30)
เมื่อมีบทสรุปที่แน่ชัดว่ารากฐานแห่งปัญหามาจากที่ใด เหมยฉางซูยังมองโลกในแง่ดีมีความหวัง เหตุการณ์เลวร้ายที่สุดคำนวณจากเวลา บางทีอาจยังสามารถคลี่คลายได้
คนแรกที่นึกถึงเป็นจิ้งหวัง
“ขอให้ท่านรีบเข้าวังสอบถามโดยด่วน หากจวิ้นจู่ไปที่ตำหนักเยว่กุ้ยเฟยท่านต้องรีบรุดไปทันที ทั้งต้องหานางให้พบ ไม่ว่าต้องแลกกับอะไรก็ตาม”
เป็นคำบัญชา มิใช่คำขอร้อง
เซียวจิ่งเหยียนแม้เปี่ยมด้วยความมึนงง แต่เห็นอากัปกิริยา สีหน้าอีกฝ่ายจริงจังจนถึงระดับเกรี้ยวกราด พลันเชื่อว่าเป็นจริง โดยเฉพาะประโยคที่ว่า
“หนีหวงจวิ้นจู่ตกอยู่ในอันตราย”
ไม่เพียงแต่จะมอบหมายให้เซียวจิ่งเหยียน หากเหมยฉางซูยังหันไปหาองค์หญิงจิ่งหนิง “รบกวนท่านรีบไปที่ตำหนักไท่หวงไท่โฮ่วนำเสด็จพระองค์ไปที่ตำหนักเจาเหริน นี่สามารถช่วยจวิ้นจู่ได้อีกทาง ท่านต้องไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
เซียวจิ่งหนิงถอยหลังไป 2 ก้าว งุนงงจนทำอะไรไม่ถูก แต่เมื่อได้ยินคำว่า “พี่หนีหวง” ในใจพลันสั่นสะท้าน
ไม่ทันได้คิดอะไรก็รีบวิ่งไปดำเนินการทันที
แม้จะสั่งการเซียวจิ่งเหยียน แม้จะขอความช่วยเหลือจากเซียวจิ่งหนิง ซึ่งล้วนแต่เป็นราชนิกุล มีความหมาย มีความสำคัญเป็นอย่างสูง
แต่เหมยฉางซูยังหันไปยังเหมิงจื้อในฐานะที่คุมกำลังองครักษ์
“รบกวนท่านจัดกำลังคนปิดล้อมด้านนอกตำหนักเจาเหรินทุกด้าน ถ้าเห็นคุณชายซือหม่าเหลยออกมาให้จับตัวไว้โทษฐาน ‘รุกล้ำเขตพระราชฐาน’ ท่านทำได้หรือไม่”
“วางใจได้” เป็นสำนองจากเหมิงจื้อ
ท้องพระโรงใหญ่จึงเหลือเพียงคุณชายสูงศักดิ์ 2 คน เป็นเหยียนอวี้จิน เป็นเซียวจิงรุ่ย ล้วนยืนงงกับเหตุการณ์ ณ เบื้องหน้า
“พี่ซู เกิดเรื่องอะไรกันแน่”
“ไห่เยี่ยน” บรรยายความตามสำนวนแปล “ลีหลินลี่” ออกมาว่า เหมยฉางซูปิดหนังตาลง สีหน้าเหนื่อยล้าถึงขีดสุด
เสียงทอดถอนใจหนักอึ้งลอดออกจากริมฝีปากบางก่อนพึมพำ
“เป็นความผิดข้าเอง ข้าคำนวณผิดพลาดไปเรื่องหนึ่ง ตอนนี้ได้แต่หวังว่าเหตุที่นำมาซึ่งผลลัพธ์ร้ายแรงที่สุดยังไม่เกิดขึ้น”
สถานการณ์ทางด้านตำหนักเจาเหรินดำเนินไปอย่างไร
ขณะที่เมรัยใสบริสุทธิ์ถ้วยนั้นส่งถึงเบื้องหน้าหนีหวงจวิ้นจู่ นางยื่นมือรับไว้โดยมิได้ลังเลแม้แต่น้อย ก่อนเงยหน้าแย้มยิ้มให้ผู้เชิญชวน
ปลายนิ้วเรียวเล็กขาวสะอาดซึ่งถูกตัดแต่งอย่างดีของเยว่กุ้ยเฟย
ที่กำลังวาดวงกลมเล็กๆ กลางอากาศหดกลับเข้าหาตัว กระโปรงยาวสีกลีบบัวพลิ้วไหวไปตามกิริยางามชดช้อยขณะถอยกายไปด้านหลัง กำไลหยกกระทบกันเสียงดังติงตังสดใส
นางก็เป็นชาวอวิ๋นหนานจากบ้านเกิดมาอยู่ในวังได้ 30 ปีเศษ ไม่เคยกลับไปแม้แต่ครั้งเดียว
เมื่อนางสอบถามถึงทัศนียภาพของบ้านเกิด หนังตาพลันกะพริบ วิบไหว ประหนึ่งได้ย้อนกลับไปเมื่อครั้งเป็นสาวน้อยอายุ 18
เพราะดวงตาเปี่ยมแววครุ่นคะนึงถึงความหลัง
ทำให้หนีหวงจวิ้นจู่ผ่อนคลายอาการตึงเครียดขณะที่อยู่ในตำหนักของหวงโฮ่วเมื่อครู่นี้ลงอย่างมาก
ในที่สุดก็เข้าประเด็น
“คุณชายซือหม่าเหลยซึ่งชนะเข้ารอบการเลือกคู่ในครั้งนี้เป็นคนที่รัชทายาทสรรหามาด้วยตัวเองโดยคัดกรองจากคนทั้งเมืองหลวง เพียบพร้อมด้วยเชิงยุทธ์และเชิงอักษร เปี่ยมด้วยคุณธรรมและหน้าตา แม้วิชาฝีมือด้อยกว่าจวิ้นจู่ขั้นหนึ่งแต่ท่านเองก็ฝีมือสูงส่งออกปานนั้นยังต้องหาสามีที่มีพลังฝีมือเก่งกาจไปทำไม
เรารับรองได้ว่า คุณชายซือหม่าท่านนี้คู่ควรกับจวิ้นจู่อย่างยิ่ง
หนำซ้ำเราท่านยังเป็นคนบ้านเกิดเดียวกัน รัชทายาทเองก็ให้ความยกย่องเทิดทูนท่านไม่น้อย ดังนั้น เวลานี้จวิ้นจู่สมควรสนับสนุนรัชทายาทให้มากจึงจะถูก”
หนีหวงจวิ้นจู่เงียบงันแล้วก็ปฏิเสธออกไป เยว่กุ้ยเฟยเพียงเลิกคิ้วเล็กน้อยพลางหัวเราะ
ความจริงรู้แต่แรกแล้วว่าจะได้รับคำตอบเช่นนี้ แต่ก็ยังอยากถามต่อหน้าดูสักครั้ง ก็ดี จวิ้นจู่เปิดเผยตรงไปตรงมา ข้าก็ไม่คิดแข็งขืน
คารวะจอกหนึ่งเป็นการขออภัยก็แล้วกัน
จวิ้นจู่หากไม่ถือสาที่เมื่อครู่เสียมารยาทโปรดดื่มเหล้านี้ให้หมดจอก วันหน้าเราสองได้พบเจอเพียงพูดคุยเรื่องบ้านเกิด ไม่ขอเอ่ยถึงเรื่องวุ่นวายในราชสำนักอีก