ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 31 มกราคม - 6 กุมภาพันธ์ 2563 |
---|---|
คอลัมน์ | กรองกระแส |
เผยแพร่ |
กรองกระแส
สถานการณ์ อู่ฮั่น
พิสูจน์ ประยุทธ์ พลังประชารัฐ
6 ปีหลังรัฐประหาร
ไม่ว่าสถานการณ์อันเกี่ยวกับภัยแล้ง ไม่ว่าสถานการณ์อันเกี่ยวกับพีเอ็ม 2.5 ไม่ว่าสถานการณ์อันเกี่ยวกับไข้หวัดโคโรนา อู่ฮั่น กำลังพิสูจน์สถานะและความเป็นจริงของรัฐบาล
1 ความเป็นจริงในเชิงการบริหาร
1 ความเป็นจริงที่ยืนยันอย่างเป็นรูปธรรมอีกคำรบหนึ่งว่าเหตุใดตลอด 5 ปีหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 จึงล้มเหลว
ไม่เพียงล้มเหลวจากปัจจัยภายนอก หากแต่ยังล้มเหลวจากปัจจัยภายใน
เพราะว่ากรณีภัยแล้งเป็นวิกฤต เพราะว่ากรณีพีเอ็ม 2.5 เป็นวิกฤต ขณะเดียวกัน แม้ไข้หวัดโคโรนา อู่ฮั่น มิได้เป็นวิกฤตของประเทศไทย แต่เมื่อวิกฤตนี้ส่งจากประเทศจีนมายังประเทศไทยก็กลายเป็นวิกฤตไปโดยอัตโนมัติ
ทั้งหมดนี้ยืนยันฝีมือและความสามารถของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเชิงบริหาร
กรณี 20 ทหารเรือ
กับ 64 พลเรือน
ขณะที่ทางหนึ่งมีเสียงโอดครวญจากนักเรียน นักศึกษาและคนทำงานในนครอู่ฮั่นจำนวน 64 คนต้องการกลับประเทศ ทางหนึ่ง ไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ว่านายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันยังต้องขออนุญาตจากทางการจีน
ขณะเดียวกัน ในห้วงแห่งการรอคอยนั้นเองปรากฏข่าวการเดินทางกลับประเทศของทหารเรือ 20 คน จากเมืองอู่ฮั่น
นี่คือภาพ 2 ภาพที่สร้างความสะเทือนใจเป็นอย่างสูง
ก่อให้เกิดคำถามตามมามากมายในลักษณะที่ว่า ทำไมสามารถนำเอาทหารเรือ 20 นายออกจากอู่ฮั่นมาได้ แต่ทำไมไม่สามารถนำเอาพลเรือน 64 คนออกจากอู่ฮั่น
ที่นายกรัฐมนตรีบอกว่า เตรียมการเรื่องนี้มาแล้ว 1 เดือนมีความจริงอย่างไร
สภาพที่นายทหารเรือ 20 นายได้กลับ สภาพที่นักเรียน นักศึกษาและคนทำงาน 64 คนยังติดค้างอยู่ในอู่ฮั่นด้วยความระทึกในจิตใจ
นี่คือเงาสะท้อนแห่งการเลือกปฏิบัติ ที่เรียกว่าดับเบิล สแตนดาร์ด สองมาตรฐาน
สถานการณ์ไวรัส
อนาธิปไตยการข่าว
ไม่ว่าจะมองจากทางด้านของรัฐบาลจีน ไม่ว่าจะมองจากทางด้านของรัฐบาลไทย ล้วนปรารถนาตีกรอบและควบคุมข่าวสารอย่างเบ็ดเสร็จ
เห็นได้จากการประกาศปิดเมือง เห็นได้จากการส่งทหารเข้าคุม
เห็นได้จากการที่กระทรวงสาธารณสุขเรียกร้องให้ติดตามและรับฟังข้อมูลข่าวสารจากทางด้านของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเป็นด้านหลัก
ในเบื้องต้น ไม่ว่าที่จีน ไม่ว่าในไทยอาจดำเนินไปเช่นนั้น
แต่เพียง 2-3 วันผ่านไป ลักษณะของข่าวสารเริ่มกระจัดกระจาย ไม่เพียงแต่จะออกมาจากสำนักข่าวอย่างเป็นทางการ ตรงกันข้าม ที่เป็นสำนักข่าวอิสระ ที่ออกมาจากปัจเจกบุคคลหรือแม้กระทั่งคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์ก็เริ่มออกมา
นั่นก็เพราะช่องทางในทางอินเตอร์เน็ต ช่องทางในทางโซเชียลมีเดีย เริ่มจากทำคลิปกระทั่งไลฟ์สดๆ ให้ได้เห็น
มาถึงขั้นนี้ก็ไม่มีใครสามารถควบคุมข่าวสารได้อีกต่อไปแล้ว
นี่ความเป็นจริงของยุคสมัย ที่เทคโนโลยีได้ทำให้วิถีแห่งข่าวสารดำเนินไปในแบบอนาธิปไตย กระจัดกระจาย
ที่บอกว่า “ไวรัส” น่ากลัวอยู่แล้ว “ไวรัล” น่ากลัวมากกว่า
จากรัฐประหาร 2557
ถึงโคโรนา อู่ฮั่น 2563
คนคนหนึ่ง รัฐบาลๆ หนึ่งสามารถพิสูจน์ได้เมื่อประสบเข้ากับวิกฤต ไม่ว่าวิกฤตภัยแล้ง ไม่ว่าวิกฤตพีเอ็ม 2.5 ไม่ว่าวิกฤตไข้หวัดโคโรนา อู่ฮั่น
แม้สถานการณ์เหมือนกับจะพิสูจน์ความสามารถของสีจิ้นผิง แห่งจีน
แต่เนื่องจากอยู่ในยุคแห่งโลกาภิวัตน์ โรคระบาดที่จีนก็ส่งผลสะเทือนมาถึงประเทศไทยอย่างรวดเร็ว อย่างน้อยผู้ติดเชื้อในประเทศไทยก็มีจำนวนมากเป็นอันดับ 2 รองจากจีน
จากสถานการณ์ไข้หวัดโคโรนา อู่ฮั่น ก็พิสูจน์ทราบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เห็นอย่างเด่นชัดไม่เพียงแต่ในห้วงจากเดือนมีนาคม 2562 มายังเดือนมกราคม 2563 หากแต่ยังย้อนทวนหวนกลับไปยังหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นมาอีกด้วย
ตัวตนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปรากฏออกมาอย่างเด่นชัด