“ก.พ.” ฤกษ์เชือดศึกซักฟอกรัฐบาล จาก 5 สู่ 7 รมต.รวม “บิ๊กป้อม” “ฝ่ายค้าน” ชำแหละให้เจ็บหนักข้างนอก

ได้ฤกษ์ยื่นญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านแล้ว ดีเดย์วันที่ 29 มกราคม

นับนิ้วคำนวณตามกระบวนการของรัฐสภา ทั้งการบรรจุวาระและกำหนดวันอภิปรายไม่ไว้วางใจ “ศึกซักฟอก” รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะเกิดขึ้นในห้วงต้นหรือกลางเดือนกุมภาพันธ์พอดี

ซึ่งตรงกับ “ฤกษ์พานาที” ที่แกนนำพรรคฝ่ายค้านตั้งใจจะให้เกิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์

เนื่องจากมีการจับยามสามตามาแล้วว่าเดือนกุมภาพันธ์จะถือเป็นเดือนมรณะของรัฐบาล

เมื่อไล่สแกนรายชื่อรัฐมนตรีที่พรรคร่วมฝ่ายค้านล็อกเป้า เตรียมทั้งข้อมูล หลักฐานและข้อเท็จจริงเพื่อนำมาขึ้นเขียงชำแหละในศึกซักฟอกครั้งนี้

ในส่วนของพรรคเพื่อไทย (พท.) เอง ภายใต้การนำของขุนพลบางบอนอย่าง “เดอะเหลิม” ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานคณะกรรมการกิจการพิเศษ พรรค พท. เดิมล็อกเป้าไว้ที่ 5 คน คือ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม 2.พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 3.นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ 4.นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ และ 5.นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

ประเด็นที่จะซักฟอกทั้ง 5 รัฐมนตรีข้างต้นนั้น ภาพรวมจะมุ่งไปที่เรื่องเศรษฐกิจเป็นหลัก ทั้งการแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ยังไร้ผลเป็นรูปธรรม

เรื่องการทุจริตทั้งแบบตรงๆ และทุจริตเชิงนโยบาย รวมทั้งการเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องและคนใกล้ชิด

 

แต่ยังไม่วายที่จะเกิดกระแสข่าวออกมาดิสเครดิตหัวหน้าทีมศึกซักฟอกของพรรค พท. อย่าง “เสี่ยเหลิม” เพราะมีกระแสข่าวหนาหูว่ามีดีลพิเศษนอกสภา ระดับ “บิ๊กเนม” เปิดดีลเพื่อของตัดชื่อพี่ใหญ่ของรัฐบาลอย่าง “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ผู้เปี่ยมบารมีทั้งในรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค พปชร.ออกไป

ส่งผลให้เกิดสภาพเสียงแตกกันเองทั้งในพรรค พท. รวมทั้งแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน

โดยเฉพาะ “ตู่ใหญ่” พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ที่ออกมายืนยันเสียงแข็งว่า เรื่องจะอภิปรายใครหรือไม่อภิปรายใคร เป็นเรื่องของพรรค พท. แต่พรรคเสรีรวมไทยยืนยันว่าจะอภิปราย พล.อ.ประวิตรด้วย เพราะมีหลักฐานและข้อมูลเพียงพอที่จะอภิปรายได้

สอดรับกับการยืนยันของแกนนำพรรค พท.ที่ออกมายืนยันว่าดีลลับระหว่าง ร.ต.อ.เฉลิม กับ พล.อ.ประวิตร รวมทั้งกรณีนายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค พท. กับนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อให้ตัดชื่อ พล.อ.ประวิตรและนายศักดิ์สยาม ออกจากญัตติขออภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีรายบุคคลของฝ่ายค้าน ภายในพรรค พท.เชื่อกันว่าเป็นการปล่อยข่าวจากฝั่งรัฐบาลเอง

เพื่อต้องการดิสเครดิตการทำหน้าที่ตรวจสอบของฝ่ายค้านในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้

 

ขณะเดียวกันก็มีความเคลื่อนไหวที่สะท้อนถึงความไม่มั่นใจของฝ่ายรัฐบาลอีกด้วย เพราะยังมีความพยายามทาบทาม ส.ส.ฝ่ายค้านให้เตรียมเป็นงูเห่าและลงมติไว้วางใจให้กับรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไว้แล้วด้วย

โดยเฉพาะรายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่แกนนำพรรค พปชร.ต้องการสร้างผลงานเพื่อเอาใจนายกฯ

โดยมีข้อเสนอที่สูงมากกว่าการโหวตให้รัฐมนตรีรายอื่น เพื่อหวังว่าจะให้นายกฯ ได้รับคะแนนไว้วางใจสูงที่สุด

และต้องการให้คะแนนโหวตของนายกฯ สูงมากกว่ารัฐมนตรีรายอื่นที่ถูกอภิปรายถึง 20 เสียงด้วยกัน

 

ขณะเดียวกันในส่วนของพรรค พท.มีการล็อกเป้ารัฐมนตรีที่จะเข้าข่ายถูกชำแหละเพิ่มด้วย เนื่องจากมีข้อมูลและหลักฐานที่ชัดเจนพอจะยื่นอภิปรายได้

โดย “สุทิน คลังแสง” ส.ส.มหาสารคาม พรรค พท. ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ระบุว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้านยังมีความเป็นเอกภาพ ไม่มีใครหวั่นไหวกับข่าวคราวที่ออกมา ไม่ว่าจะเรื่องฮั้วหรือเรื่องซูเอี๋ยกัน

กระแสข่าวที่ออกมาว่าขอให้ฝ่ายค้านตัดรายชื่อรัฐมนตรีบางคนที่จะถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจออกไปนั้น ถือเป็นการดิสเครดิตกันทางการเมืองเพื่อทำให้สังคมและประชาชนมองภาพการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านให้ไม่มีน้ำหนัก ขาดความน่าเชื่อถือ ถือเป็นเกมการชิงไหวชิงพริบกันทางการเมือง

ส่วนตัวบุคคลที่จะถูกอภิปรายวันนี้เพิ่มจาก 5 คน มาเป็น 7 คน แต่ยังไม่ได้สรุป อาจจะเพิ่มขึ้นมาอีก

โดยรายชื่อที่เพิ่มขึ้นมาจาก 5 คนที่เคยวางไว้ ได้แก่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์

ทั้งนี้ จะต้องรอรายชื่อรัฐมนตรีคนอื่นๆ ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะเสนอเข้ามาเพิ่มเติมด้วย

สุทินระบุว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลของ 7 พรรคฝ่ายค้านจะไม่มีรายการมวยล้มต้มคนดูแน่นอน

การอภิปรายจะยึดหลักสร้างสรรค์ มีหลักฐาน ข้อมูลสำคัญๆ ชี้ให้เห็นการบริหารราชการแผ่นดินที่บกพร่องของนายกฯ และรัฐมนตรีแต่ละคนที่จะส่งผลเสียหายต่อประชาชนและประเทศชาติ

แม้ว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วยเสียงของฝ่ายค้านจะไม่สามารถล้มรัฐบาลในสภาได้

แต่ฝ่ายค้านจะอภิปรายเปิดแผลให้รัฐบาลออกมาเจ็บหนักข้างนอก

โดยข้อมูลและหลักฐานการอภิปรายของฝ่ายค้าน จะนำไปสู่การยื่นให้หน่วยงานอิสระ อย่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบความผิดของรัฐมนตรีบางคน

บางข้อมูลจะเป็นหมัดเด็ดที่ส่งผลถึงการดำเนินคดีทางอาญาและการถอดถอนออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีบางคนได้แน่นอน

มั่นใจว่าช่วง 1 เดือนหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้าน จะเกิดการเปลี่ยนแปลงภายในรัฐบาล จะมีการปรับ ครม.ที่มีปัญหาและไร้ประสิทธิภาพออก เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อ ครม.ในภาพรวมอย่างแน่นอน

ส่วนหมัดเด็ด หมัดน็อกของ 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน ในศึกซักฟอกครั้งแรกของรัฐบาล “บิ๊กตู่” จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงตามโหราศาสตร์ ทำนายทายทักได้จริงหรือไม่

ในเดือนกุมภาพันธ์ เดือนแห่งความรักจะได้รู้กันว่าของจริงหรือมวยล้มต้มคนดู