E-DUANG : ใครบิดเบือน”ข่าว”การเสียชีวิตของ”พัฒนา”

ทั้งๆที่มีความแจ่มชัดอย่างเป็น “วิทยาศาสตร์” ในเรื่องเวลาเสียชีวิต ของ น.ส.พัฒนา เชียงแรง

แจ่มชัดโดย “หน่วยกู้ชีพ”

แจ่มชัดโดยเจ้าหน้าที่ระดับล่างไม่ว่า “ดีเอสไอ” และ”ตำรวจ” รวมถึง “ทหาร”

ทำไมจึงแถลงออกมาว่า เสียชีวิตแล้ว 5 ชั่วโมง

ยิ่งหากฟังคำอธิบายเชิงข้อมูลตามมาโดยทีมโฆษก”ดีเอสไอ”ภายหลังที่อ้างจาก “หน่วยกู้ชีพ” ที่พบศพในห้องพักและประเมินสภาพศพในเบื้องต้นในที่เกิดเหตุ

“จึงคาดว่าเสียชีวิตมาแล้ว 4-5 ชั่วโมง”

ความหมายก็คือ เป็นการประเมินจาก”สภาพศพ”มิได้เป้นการชันสูตรพลิกศพตามหลัก “นิติวิทยาศาสตร์”

ตรงนี้เชื่อกันว่า น่าจะทำให้”ดีเอสไอ” รอดตัวไปเปลาะ 1

กระนั้น การเดินทางไปสอบถามที่สภ.คลองหลวงของ”นายตำรวจใหญ่” กลับยิ่งทำให้กรณีเสียช่วิตแล้ว “5 ชั่วโมง”โดย “ดีเอสไอ”กลับมากด้วยเงื่อนงำ

เป็นเงื่อนงำของ “เวลา”

 

ไม่ว่าจะเป็นในยุคของเชอร์ล็อกโฮล์ม ไม่ว่าจะเป็นในยุคของเปอรี่ เมสัน

“เวลา” มีความสำคัญในกรณี”การตาย”

หาก “ดีเอสไอ” ดำเนินการตรวจสอบกรณีการเสียชีวิตของ น.ส.พัฒนา เชียงแรง อย่างรอบคอบจากฐานข้อมูลอัน สภ.คลอง หลวงได้มา

คงไม่ทำให้ “อธิบดี” ต้องตกเป็น “ผู้เสียหาย” อย่างนี้

ความเสียหายในเรื่องเสียชีวิตมาแล้ว “5 ชั่วโมง”มิได้มีแต่ “อธิบดี” จากกรมสอบสวนคดีพิเศษเพียงท่านเดียว

ยังมี “อธิบดี” ท่านอื่นต้อง “หน้าแตก” ไปด้วย

ทั้งๆที่ข้อเท็จจริงอัน”นายตำรวจใหญ่”สอบถามเป็นข้อเท็จจาก “บุคคล”

1 เป็นเจ้าหน้าที่”หน่วยกู้ชีพ”

1 เป็นเจ้าหน้าที่ “ตำรวจ” จากสภ.คลองหลวง

 

ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ “หน่วยกู้ชีพ” ยืนยันว่า ได้รับแจ้งเหตุเมื่อเวลา 12.20 น.ของวันที่ 1 มี่นาคม

“ทีมแพทย์” ที่ร่วมชันสูตรแจ้งว่า น่าจะเสียชีวิต 12.00 น.

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งสภ.คลองหลวง ระบุ มีการ แจ้งผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์จากผู้ป่วย เวลา 11.29 น.ไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อน

คำแถลงจาก”ดีเอสไอ”จึงกลายเป็นเรื่อง”น่าฉงน”

แต่หากฟังรายละเอียดการแถลงจาก”อธิบดี”อีกคนหนึ่งก็ไม่น่าจะเกิดความฉงน

“ข่าวที่มีการเผยแพร่และส่งต่อกันนั้นจึงเป็นการบิดเบือนข้อเท็จจริง”

หากเห็นว่า พระสนิทวงศ์ วุฑฒิวังโส “บิดเบือน”

การเผยแพร่ข่าวว่ามีการเสียชีวิต “5 ชั่วโมง” มาแล้วเป็นการ”บิดเบือน” หรือไม่