หนุ่มเมืองจันท์ | กิจกรรมวันสำคัญ

หนุ่มเมืองจันท์facebook.com/boycitychanFC

หลังปีใหม่ คำถามยอดฮิตที่เจอเป็นประจำ

คือ ปีใหม่ไปไหนมา

ผมจะเขินๆ ที่จะตอบ

เพราะสิงสถิตอยู่ที่บ้านมานานหลายปีแล้ว

ถามปีไหน ก็ตอบแบบเดิม

ไม่มีความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ เลย

ปีนี้ก็เช่นกัน

ตามปกติก่อนสิ้นปี ทุกคนจะสรุปผลงานประจำปี

ทำอะไรมาบ้าง

เรียนรู้อะไรในปีที่ผ่านมาบ้าง

และปีหน้าตั้งเป้าหมายว่าจะทำอะไร

ผมชอบอ่านสรุปผลงานประจำปีของคนอื่นๆ

โดยเฉพาะปีนี้อ่านเฟซบุ๊กของเพื่อนๆ ช่วงสิ้นปี

สนุกมาก

การสรุปบทเรียนและตั้งเป้าหมายเป็นเรื่องดีนะครับ

บางทีเราทำอะไรไปตั้งเยอะ

เรียนรู้อะไรตั้งแยะ

แต่ไม่ได้สรุปเป็นข้อๆ

การนั่งทบทวนและสรุปทำให้ “ก้อนความคิด” ของเราชัดเจนขึ้น

เช่นเดียวกับการตั้งเป้าหมาย

เหมือนเรามีลายแทงอนาคตหรือแผนที่ประจำปีหน้า

พอสิ้นปีก็ได้ทบทวนอีกครั้งว่าได้ทำตามเป้าหมายหรือไม่

ไม่ได้ทำเพราะอะไร

ผมเคยทำเหมือนกันครับ

แต่พออ่านดูแล้วเหมือนอ่านคอลัมน์ตัวเอง

เพราะที่เขียนในคอลัมน์นี้ก็เหมือนกับสรุปเรื่องราวที่เรียนรู้ทุกสัปดาห์

ส่วนเรื่อง “เป้าหมาย” ประจำปี

ทำเหมือนกัน

แต่พอสิ้นปีมาดู

สอบตกทุกครั้ง

ตกบ่อยๆ ก็เลยเลิกทำ

“ปีใหม่ไปไหนมา”

“อยู่บ้าน”

ผมไม่อายที่จะบอกว่าอยู่บ้าน

แต่อายที่บอกว่าลืม…

ครับ วันนั้นผมลืมว่าเป็นวันที่ 31 ธันวาคมครับ

ทั้งที่วันนี้วันสำคัญของคนจำนวนมาก

เป็นวันสุดท้ายของปี

วันที่คนจะเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

แต่ผมลืมครับ

มานึกขึ้นได้ตอนดึก เมื่อแถวๆ บ้านเริ่มเปิดเพลงเสียงดัง มีคนร้องคาราโอเกะ

เพลง “ผู้ชนะสิบทิศ”

ตามด้วย “เชียงรายรำลึก”

ฟังปุ๊บรู้เลยว่าวงเหล้าวงนี้รุ่นไหน

ผมเผลอร้องตามไปหลายท่อน

พอคาราโอเกะดัง ก็รู้แล้วว่าคนเริ่มเฉลิมฉลองกัน

ตอนนั้นผมกำลังดูหนัง TheTwo Popes ทาง Netflix ครับ

การได้ดูหนังดีๆ ตอนสิ้นปีก็ดีเหมือนกันครับ

ได้คิดอะไรหลายเรื่อง

นั่งคิดทบทวนเรื่องตัวเอง ครอบครัว การงานและการเมือง

มีหลายเรื่องได้เรียนรู้ในปีนี้

มีงานหลายงานอยากทำในปีหน้า

ทั้งเรื่องเล็กและเรื่องใหญ่

ทั้งเรื่องใหม่และเรื่องเก่า

แต่ทุกครั้งที่โครงการใหม่ๆ ผุดขึ้นมา จะมี “คำถามตัดบท” คอยยิงทิ้งอยู่เรื่อยๆ

“ทำไปทำไม”

วัยนี้แค่สนุกอย่างเดียวไม่ได้แล้ว

เพราะสนุกเมื่อไรจะมีภาระที่ต้องรับผิดชอบตามมา

555

ความคิดเริ่มไปไกลถึงเรื่องเศรษฐกิจ การเมืองไทย

คิดถึง “ความเปลี่ยนแปลง” ของโลกที่สวนทางกันอย่างชัดเจน

ทุกอย่างวนเวียนอยู่ใน “ความคิด”

หนังใกล้จบ เสียงพลุดังขึ้น เป็นสัญญาณว่าปีเก่าได้อำลาไป

และปีใหม่มาทักทายแล้ว

ก่อนขึ้นนอน ผมเดินไปปิดไฟที่ห้องครัว

เห็นจานชามอยู่ในอ่างล้างจาน

กินเสร็จแล้วลืมล้าง

จริงๆ เหลืออยู่แค่ 2-3 ใบ จะทิ้งไว้ล้างตอนเช้าก็ได้

แต่เปลี่ยนใจ

คิดเล่นๆ

เรามาเริ่มต้นปีใหม่ “ภาคปฏิบัติ” ดีกว่า

ทำในสิ่งเล็กๆ ที่ทำได้

และทำทันที

ถือเป็นภารกิจช่วยโลก

…ล้างจาน

เริ่มต้นด้วยการเขี่ยเศษอาหารบนจานที่ยังเหลือค้างอยู่ลงถุงขยะ

ล้างน้ำเปล่า 1 ครั้ง

ใช้ฟองน้ำจุ่มน้ำยาล้างจานถูช้าๆ ให้ทั่ว

ตรงไหนที่เศษอาหารติดแน่นก็เปลี่ยนไปใช้สก๊อตช์ไบรต์ด้านหลัง

ใช้ความรุนแรงเข้าจัดการ

จากนั้นก็ล้างด้วยน้ำเปล่าจนสะอาด

ระหว่างที่ล้างก็นึกถึง “ชีวิต” ในปีใหม่

“ชีวิต” ก็คงเหมือนกับ “จาน”

“ปัญหา” ก็คงเหมือนกับ “เศษอาหาร”

การใช้ชีวิตคล้ายกับการกินข้าว

ต้องมีเศษอาหารติดจาน

คงไม่มีใครกินข้าวได้เกลี้ยงจาน ไม่เหลือคราบอะไรเลย

มี “รายรับ” ก็ต้องมี “รายจ่าย” ครับ

เมื่อกิน ก็ต้องล้าง

ทำอะไรสักอย่างก็ต้องมี “ปัญหา”

การแก้ปัญหาคงต้องเริ่มต้นคล้ายกับการล้างจาน

เขี่ยเศษอาหารทิ้งก็คล้ายกับการเริ่มต้นที่ปัญหาใหญ่ๆ ก่อน

จากนั้นค่อยทำความสะอาด

ทุกปัญหาเราใช้วิธีการแก้ปัญหาไม่เหมือนกัน

ถ้าเล็กน้อยก็แค่ฟองน้ำ

ถ้าหนักหนาสาหัสก็ใช้สก๊อตช์ไบรต์

เสร็จแล้วก็สรุปบทเรียนด้วยการล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง

แค่นี้ก็ได้จานสะอาดใบใหม่

เอาไปใช้ชีวิตต่อไป

นี่คือ ปรัชญาปีใหม่ที่ได้จากการล้างจาน

ปัญหามีไว้แก้ไข

จานที่ใช้แล้วต้องล้างให้สะอาด

#ชีวิตก็เช่นกัน