วางบิล/เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์ /สองคนยลตามช่อง…

วางบิล/เรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์  

สองคนยลตามช่อง…

 

หนึ่งในอำนาจอธิปไตยคืออำนาจตุลาการ เป็นกระบวนการในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดี หรือคณะบุคคลซึ่งมีอำนาจและหน้าที่ในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีซึ่งบุคคลกระทำผิดกฎหมายที่ผู้อยู่ในอำนาจนิติบัญญัติคือสมาชิกรัฐสภาเป็นผู้ออกกฎหมาย ผู้อยู่ในอำนาจบริหารคือรัฐบาลซึ่งมีข้าราชการเป็นกลไกควบคุมดูแลให้ปฏิบัติตามกฎหมาย

อำนาจตุลาการอยู่ในการดูแลของศาลยุติธรรมโดยทั่วไปเพื่อให้ความยุติธรรมเป็นไปด้วยดีอย่างแท้จริง ศาลยุติธรรมจึงมีถึง 3 ศาล คือ ศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา

กรณีเกิดข้อพิพาทขึ้นระหว่างบุคคลกับบุคคล ระหว่างบุคคลกับรัฐ หรือระหว่างหน่วยงานของรัฐ การดำเนินคดี ตามกฎหมายบัญญัติกำหนดว่า จนกว่าคดีจะถึงที่สุด คือถึงที่สุดในศาลใดศาลหนึ่งตามบทบัญญัติของกฎหมาย

โทษตามประมวลกฎหมายอาญามี 5 ชั้น คือ การประหารชีวิต การจำคุก การกักขัง การปรับ และการริบทรัพย์ ขณะที่หากมีความผิดไม่ร้ายแรง เป็นลหุโทษ เช่น จำคุกไม่เกิน 2 ปี ศาลอาจพิจารณาใช้ดุลพินิจให้โทษจำคุกนั้นเป็น “การรอลงอาญา” ได้

อาทิ โทษหมิ่นประมาท เป็นโทษที่ยอมความได้ หากศาลวินิจฉัยว่ามีความผิดเมื่อมีโทษจำและโทษปรับ ผู้พิพากษาอาจใช้ดุลพินิจให้ปรับโทษจำคุกเป็นรอการลงอาญาก็ได้

แม้แต่จำเลยในบางคดีเช่นหมิ่นประมาท ศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกและปรับ เมื่อขึ้นไปถึงศาลอุทธรณ์ ศาลอาจพิจารณาให้ปรับโทษจำคุกเป็นโทษรอการลงอาญาได้เช่นกัน

 

ดังกล่าวแล้วว่า เมื่อก่อนจำเลยในคดีหมิ่นประมาทต้องไปปรากฏตัวที่ศาลทุกนัดสืบโจทก์ ทั้งโจทก์อาจไปฟ้องร้องในหลายศาลได้ เช่นคดีหนึ่ง โจทก์ฟ้องจำเลยคือผู้กล่าวหาและบรรณาธิการในหลายศาล คือฟ้องที่ศาลจังหวัดเบตง และศาลจังหวัดเชียงราย กับศาลอีกหลายจังหวัด

การฟ้องร้องต่อศาล โจทก์ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปเอง มอบอำนาจให้ทนายความไปดำเนินการแทนได้ แต่ตัวจำเลยต้องเดินทางไปปรากฏตัว และมอบตัวด้วยตนเอง

ดังนั้น การที่โจทก์ไปฟ้องร้องในคดีหมิ่นประมาทถึงสองศาล คือศาลจังหวัดเบตงและศาลจังหวัดเชียงราย ซึ่งศาลทั้งสองไม่สามารถทราบได้ว่าโจทก์ไปฟ้องจำเลยถึงสองศาล ทั้งโจทก์ยังใช้กลยุทธ์ทางกฎหมายให้ศาลนัดพิจารณาในวันเวลาใกล้เคียงกัน ทำให้จำเลยต้องเดินทางไปขึ้นศาลในวันที่กำหนด

กรณีนี้ โจทก์มอบหมายให้ทนายความไปดำเนินการได้ทั้งสองศาลในวันเวลาใกล้เคียงกัน แต่ตัวจำเลยต้องเดินทางไปด้วยตัวเอง ทำให้ไม่สะดวกในการเดินทาง ต้องมอบอำนาจให้ทนายความไปยื่นขอเลื่อนนัดด้วยเหตุผลที่โจทก์ฟ้องศาลสองสามแห่งในเวลาเดียวกัน ซึ่งจำเลยได้รับความกรุณาจากศาลให้เลื่อนนัดได้

บางกรณี เช่น นัดฟังคำพิพากษาในวันใกล้เคียงกัน คือศาลหนึ่งนัดวันพฤหัสบดีที่ 10 อีกศาลหนึ่งนัดวันศุกร์ที่ 11 เวลาบ่ายโมง ทำให้การเดินทางของจำเลยไม่สะดวกเท่าที่ควร เป็นเรื่องที่สร้างความลำบากให้จำเลย เพราะกรณีเช่นนี้ หากจำเลยรับสารภาพ เนื่องจากเห็นว่าโทษที่ได้รับอาจปรับและรอการลงอาญา

ศาลนัดฟังคำพิพากษาในบ่ายวันศุกร์ กว่าศาลจะอ่านคำพิพากษาจบ และต้องได้รับโทษจำคุก แม้ศาลจะอนุญาตให้ประกันตัว กว่าจะยื่นขอประกันตัวได้ต้องใช้เวลาอีกนานนับชั่วโมง ยิ่งกรณีที่จำเลยมิได้เตรียมเงินประกันตัวไว้ก่อน ต้องให้ทนายความไปหาเงินมาประกันตัว หากประกันตัวไม่ทัน จำเลยต้องติดคุกถึงสองวันสองคืน กว่าจะยื่นประกันตัวได้อีกต้องเป็นเช้าวันจันทร์

เมื่อมีการพิจารณาจากศาลถึงกรณีนี้ ต่อมา การฟ้องศาลในหลายสถานีตำรวจและหลายศาล จำเลยสามารถนำคดีเดียวกันนั้นรวมเป็นคดีเดียว เพื่อพิจารณาในศาลเดียว ทำให้บรรณาธิการได้รับความสะดวกขึ้น แม้ต้องเดินทางไปขึ้นหลายศาลก่อนหน้านั้นก็ตาม ทั้งการขอให้ศาลพิจารณาคดีลับหลัง เมื่อจำเลยคือบรรณาธิการปรากฏตัวในนัดแรกรับฟังคำให้การของโจทก์

นับเป็นความกรุณาของศาล ทำให้บรรณาธิการคือจำเลยมีเวลาปฏิบัติหน้าที่การงานของตัวเองได้มากขึ้น

 

ไม่ว่าจำเลยคือบรรณาธิการ ซึ่งมิใช่ผู้กระทำความผิดในคดีหมิ่นประมาท และไม่ว่าจำเลยจะปฏิเสธการกระทำความผิดหรือรับสารภาพ คำให้การของจำเลยคือบรรณาธิการที่ต้องให้การกับศาล คือแม้ศาลเห็นว่ามีความผิด จำเลยต้องขอความกรุณาต่อศาลให้พิจารณายกฟ้องหรือรอการลงอาญา เนื่องจากจำเลยเป็นผู้ที่ทำประโยชน์ให้กับสังคม เช่น บรรยายให้กับนิสิตนักศึกษาในมหาวิทยาลัย ร่วมประชุมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการพิจารณาในเรื่องอันเป็นประโยชน์ต่อสังคม ดังปรากฏตามหนังสือแต่งตั้งและหนังสือเชิญของหน่วยราชการ ทั้งการนำเสนอข่าวสารให้ผู้อ่านคือประชาชนทั่วไปได้รับรู้รับทราบถึงข้อมูลข่าวสารอันเป็นประโยชน์

ดังเคยมีคำพิพากษาของคดีหนึ่ง ที่บรรณาธิการรับสารภาพว่า แม้มีความผิดฐานหมิ่นประมาท หากเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับสังคมดังหยิบยกเป็นตัวอย่าง เช่น การบรรยายในมหาวิทยาลัย เป็นต้น

แต่ปรากฏคำพิพากษาออกมาว่า จำเลยคือบรรณาธิการรับสารภาพว่ากระทำความผิดจริง ประกอบกับตัวบรรณาธิการเป็นผู้มีประสบการณ์ เป็นผู้มีความรู้ และความรู้สึกนึกคิดถึงเรื่องที่ดีว่าสิ่งใดเป็นความดีความชอบ สิ่งใดเป็นเรื่องไม่ควรกระทำ รู้ผิดชอบชั่วดี แล้วยังฝ่าฝืนกระทำในสิ่งที่ไม่ดีไม่งาม เป็นสิ่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้น เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างกับผู้อื่น จึงเห็นสมควรให้รับโทษเพื่อหลาบจำ ต่อไปจะได้ไม่ฝ่าฝืนกระทำในสิ่งที่รู้ดีรู้ชอบแล้ว

ขณะจะอ่านคำพิพากษา ผู้พิพากษาท่านยังเอ่ยปากกับจำเลยว่า การพิพากษาของศาลมิได้สิ้นสุด ณ ศาลนี้ ยังมีการอุทธรณ์ฎีกาอีกถึง 2 ศาล

คำพิพากษานั้นจบลงด้วยการลงโทษจำคุก 1 ปี ลดให้ฐานสารภาพเป็นคุณกับคดีกึ่งหนึ่ง ให้ลงโทษ 6 เดือน และโทษปรับจากหนึ่งหมื่นบาทเป็นห้าพันบาท หากไม่จ่ายค่าปรับให้คิดเป็นโทษจำ…

เป็นเหตุให้ผู้ที่ไปร่วมฟังการพิจารณาคดีและทนายความต้องวิ่งเต้นหาเงินมาประกันตัวให้วุ่น จนยื่นประกันตัวได้ฉวดเฉียดในเย็นวันนั้น เดินทางกลับกรุงเทพฯ อย่างโล่งอก

เมื่อจำเลยยื่นอุทธรณ์ให้ยกฟ้องด้วยเหตุผลหลายประการเช่นเดียวกับเหตุผลที่ขอให้ยกฟ้องหรือลดการลงโทษในศาลชั้นต้น

ปรากฏว่าศาลอุทธรณ์วินิจฉัยแล้วเห็นว่า จำเลยเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ให้สังคมหลายประการ เพื่อให้จำเลยมีโอกาสทำคุณงามความดีให้สังคมต่อไป ทั้งโทษมิได้ร้ายแรง จึงให้โทษจำคุกรอการลงอาญา…