วิถีแห่งกลยุทธ์ เหมยฉางซู/เสถียร จันทิมาธร

จังหวะ พระขนิษฐา ลี่หยาง (27)

 

เป็นสถานการณ์ก่อนการประลอง เป็นสถานการณ์ที่พระขนิษฐาลี่หยางไปเยี่ยมเยียนเหมยฉางซู ณ เรือนรับรองเสวี่ยหลูในยามวิกาล

นางรุดมาตามลำพังอย่างเงียบเชียบ ปราศจากสาวใช้ติดตามข้างกาย

“รบกวนยามวิกาล ละอายยิ่งนัก แต่หากมาเร็วกว่านี้ข้าเกรงว่า…” พูดได้ครึ่งหนึ่งก็หยุด ครุ่นคิดพลางพิจารณา

แววตาพระขนิษฐาลี่หยางสะกดนิ่ง คล้ายได้ตัดสินใจแน่วแน่

เงยหน้าสบสายตากับเหมยฉางซูตรงๆ ก่อนเน้นทีละคำว่า “ท่านซู โปรดช่วยหนีหวงด้วย”

ได้ยินคำร้องขอเช่นนี้ ต่อให้เป็นเหมยฉางซูที่จิตใจหนักแน่น เยือกเย็น ใบหน้าก็ยังทอแววฉงนใจอย่างปิดไม่อยู่ขึ้นมาวูบหนึ่งมิได้

“พระขนิษฐาหมายความว่าอย่างไร”

คำถามนี้นำไปสู่คำตอบและคำอธิบายยืดยาวจากพระขนิษฐาลี่หยาง เหมือนกับทำนบที่ถูกเปิดออกมาอย่างกะทันหัน

จำเป็นต้องรับฟัง

 

ได้ยินว่าหนีหวงให้ความสำคัญต่อท่านซูยิ่งนัก คิดว่าระหว่างพวกท่านคงมีน้ำใจไมตรีไม่น้อย หนีหวงแม้ฉลาดเฉลียวแต่ใช้ชีวิตอยู่ในชายแดน อย่างไรก็ไม่เข้าใจความสกปรกโสมมของน้ำในเมืองหลวง

นางมีฐานะสูงศักดิ์ บัญชาการทัพในอวิ๋นหนาน

ซ้ำยังเป็นยอดฝีมือในยอดฝีมือ เห็นการเลือกคู่ในครั้งนี้เป็นแค่เรื่องสนุกฉากหนึ่ง คิดว่าทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในความควบคุมของนาง ออกจะชะล่าใจเกินไป

ในเมืองหลวงแห่งนี้เพื่อบรรลุถึงเป้าหมายของตัวเองมีอันใดไม่กล้ากระทำ

หนีหวงคือศูนย์กลางของจวนอวิ๋นหนานหวัง คือตัวแทนขุมกำลังทหาร 10 หมื่นชายแดนใต้ คุณค่าปานนี้หรือไม่เพียงพอให้มีคนสุ่มเสี่ยง

ข้าทราบว่าท่านซูกำลังครุ่นคิดเรื่องใด

หนีหวงเป็นคนเข้มแข็ง เข้มแข็งจนถึงขั้นไม่จำเป็นต้องไปปกป้องนาง แต่ท่านซูไม่เข้าใจ สตรีต่อให้เข้มแข็งปานใด ที่สุดแล้วยังคงเป็นสตรี

บางเรื่องราวสำหรับบุรุษไม่นับเป็นอันใด แต่สำหรับสตรีคนหนึ่งกลับเพียงพอทำลายศักดิ์ศรีและปณิธานของนางจนสิ้น หากหนีหวงมีคนในดวงใจแล้วเช่นนั้นผลกระทบก็จะยิ่งรุนแรง หนักหน่วง มันสามารถทำให้นางรู้สึกว่า

จะแต่งกับใคร จะมีชีวิตเช่นไร ล้วนไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป

 

ปัญหาการมีคู่ครองของหนีหวงจวิ้นจู่จึงมิได้เป็นเรื่อง 1 บวก 1 เท่ากับ 2 มิได้เป็นเรื่องของแคว้นเป่ยเอี้ยน มิได้เป็นเรื่องของแคว้นต้าอวี๋ ยังเป็นเรื่องการต่อสู้ภายในของแคว้นเหลียง

เป็นเรื่องในทางการเมือง หากเป็นเรื่องในทางการทหาร

“ข้ายอมรับว่าท่านกล่าวมีเหตุผล แต่ก็คิดไม่ออกจริงๆ ว่า ที่แท้ยังมีวิธีใดสามารถทำให้บรรลุถึงผลลัพธ์เช่นนั้นได้”

มุมปากพระขนิษฐาลี่หยางกระตุกเล็กน้อย คล้ายไม่เต็มใจกล่าวลงลึกกว่านี้

“ในจำนวนคนที่ผ่านเข้ารอบครั้งนี้มี 2 คนที่องค์จักรพรรดิทรงพอพระทัย หมายมั่นให้เป็นคู่ครองของจวิ้นจู่ ท่านทราบหรือไม่ว่าใคร

คุณชายไท่เหวย นามซือหม่าเหลย และคุณชายตระกูลจงซู่โหว นามเลี่ยวถิงเจี๋ย”

2 นามนี้เมื่อได้ยิน เหมยฉางซูมิได้ประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย ตระกูลซือหม่าสนับสนุนรัชทายาท ส่วนจงซู่โหวสนับสนุนอวี้หวัง นับว่าสมดุลพอดี

เพียงแต่ไม่ทราบองค์จักรพรรดิทรงเจตนาหรือแค่บังเอิญเท่านั้น

“แต่จากระเบียบการแข่งขัน ดูเหมือนมีแต่จวิ้นจู่จงใจโอนอ่อน ไม่เช่นนั้น 2 คนนี้ก็อย่าหมายว่าจะมีโอกาสชนะ ดังนั้น มีคนร้อนรนแล้ว เพราะแรงสนับสนุนจากจวนมู่หวังช่างเย้ายวนใจเหลือเกิน หากสามารถอาศัยช่วงเวลาที่จวิ้นจู่อยู่ในเมืองหลวงเผด็จศึกให้เบ็ดเสร็จ เมื่อนางกลับไปเป้าหมายไยมิใช่ลุล่วงแล้ว”

พระขนิษฐาลี่หยางพลันแค่นหัวเราะคราหนึ่ง

“ในเวลาเช่นนี้หนีหวงจะคิดอย่างไรก็ตามย่อมไม่อยู่ในความคำนึงของคนเหล่านี้ตั้งแต่แรก สิ่งที่คนในวังเจนจัดที่สุดก็คือ ไม่เลือกวิธีการ

บางคนที่จำเรื่องราวเก่าๆ ได้คงคิดถึงวิธีของไท่โฮ่ว (พระราชชนนี) ในตอนนั้น”

 

มีความสลับซับซ้อนอย่างแน่นอนต่อการมาเยือนในยามวิกาลของพระขนิษฐาลี่หยาง เป็นความสลับซับซ้อนในสถานะที่พระขนิษฐาดำรงอยู่

อย่าลืมเป็นอันขาดว่านางเป็นท่านหญิงของท่านโหวเซี่ยอวี้

อย่าลืมเป็นอันขาดว่าท่านโหวเซี่ยอวี้มีความสัมพันธ์เอนเอียงและแนบแน่นไปทางรัชทายาทและวางระยะห่างกับอวี้หวัง

ประเด็นอยู่ที่ว่า การมาของพระขนิษฐาลี่หยางกุมประโยชน์ของฝ่ายใด