การ์ตูนที่รัก / นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ /รำลึก Beauty and the Beast

นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์

รำลึก Beauty and the Beast

 

บทความนี้รวมทั้งข้อเขียนชุดรำลึกการ์ตูนดิสนีย์ได้ข้อมูลบางส่วนจากหนังสือ Encyclopedia of Walt Disney’s Animated Characters เขียนโดย John Grant สำนักพิมพ์ Hyperion 1998 เป็นหนังสือปกแข็งขนาดใหญ่ หนาและหนัก เหมาะสำหรับนักค้นคว้า

เมื่อดูโฉมงามกับเจ้าชายอสูรเดอะมูฟวี่แล้วควรเอาแผ่นการ์ตูนปี 1991 ออกมาดูใหม่

โฉมงามกับเจ้าชายอสูร Beauty and the Beast เป็นผลงานเรื่องยาวอันดับที่ 38 ของดิสนีย์ แต่เป็นเรื่องที่สร้างจากเทพนิยายอันดับที่ 5 เท่านั้น

โครงการนี้มีอายุหลายปีมาก แต่ติดขัดที่ดิสนีย์ไม่สามารถแก้ปัญหาครึ่งหลังของเทพนิยายเรื่องนี้ได้

เหตุเพราะตามเนื้อเรื่องเดิมครึ่งหลังจะมีเล่นกันเพียงสองคนคืออสูรและโฉมงามในปราสาทมืดทึมของเขา

วิธีแก้ปัญหาที่หนึ่งคือเนื้อเรื่อง หนังมิได้เดินเรื่องตามฉบับดั้งเดิมที่ให้แบลไปเป็นตัวประกันเท่านั้น แต่เป็นแบลเองที่มีความปรารถนาจะอยู่ที่ปราสาทเพื่อเปลี่ยนอสูรร้าย พูดง่ายๆ ว่าเธอจะเป็นนางเอกประเภทโปรแอกทีฟรุกเข้าใส่ปัญหาเป็นคนแรกๆ ของดิสนีย์

วิธีที่สองคือ การกำหนดให้บุคลิกของแบลโดดเด่นและแตกต่างตั้งแต่เปิดฉาก คือเธอรักการอ่าน ฉลาดเฉลียว และแต่งกายด้วยสีฟ้าน้ำเงินซึ่งไม่เหมือนคนอื่นในหมู่บ้านเลย เธอถูกสร้างให้โดดเด่นเพื่อหลอกล่อให้คนดูเอาใจช่วยตั้งแต่ต้น

วิธีที่สาม เป็นเรื่องของสีอีกเช่นกัน หนังเริ่มต้นในเดือนตุลาคมที่หม่นหมอง พ่อของเธอถูกจับในฤดูใบไม้ร่วง เธอมาที่ปราสาทตอนต้นฤดูหนาวและอยู่กับอสูรตลอดฤดูหนาวเปิดโอกาสให้หิมะสีขาวช่วยทำให้ปราสาทสว่างไสว

หนังดำเนินไปผ่านฤดูใบไม้ผลิที่สดชื่นพร้อมๆ กับความรักของหนุ่มสาวที่สุกงอม แล้วกาสตองกับราษฎรบ้าคลั่งก็มาถึงในตอนปลายของฤดูใบไม้ผลิเมื่ออากาศอบอ้าว

และลมกระโชกใบไม้ปลิวว่อน

 

เจ้าชายน้อยถูกตามใจจนเคย เห็นแก่ตัว และไร้เมตตา คืนวันหนึ่งมีหญิงชราอัปลักษณ์มาขอที่พักนอนแลกกับดอกกุหลาบหนึ่งดอก

เจ้าชายไล่หญิงนั้นออกไป หญิงนั้นจึงว่าอย่ามองคนเพียงแค่รูปกายภายนอก เมื่อเจ้าชายตะเพิดหญิงชรานั้นซ้ำ หล่อนจึงคืนรูปเป็นเทพธิดาแล้วสาปรูปกายภายนอกของเจ้าชายให้เป็นอสูรรูปร่างหน้าตาน่าเกลียดน่ากลัว ดอกกุหลาบดอกนั้นจะยังบานอยู่จนกระทั่งอสูรอายุครบ 21 ปี

หากถึงเวลานั้นเขายังหาคนรักมิได้ ดอกกุหลาบจะเหี่ยวเฉาแล้วเขาจะต้องติดอยู่ในร่างอสูรนี้ตลอดไป

ใครกันจะมารักอสูรน่ากลัวได้ลงคอ

เสียงร้องของแบลเป็นเสียงของ Paige O’Hara นักแสดงและนักร้องที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคนหนึ่ง บวกกับดนตรีของอลัน เมเกน และโฮเวิร์ด แอชแมน นั่นทำให้เธอมีสุ้มเสียงทรงพลังที่สะกดคนดูได้ทุกครั้งที่ปรากฏตัว

เธอเป็นสตรีที่เข้มแข็งมากที่สุดคนหนึ่งในการ์ตูนของดิสนีย์ ไหนจะต้องต่อกรกับอสูร ไหนจะต้องปะทะกับกาสตอง ทั้งนี้ มิใช่เพียงช่วยเหลือพ่อ แต่เพื่อช่วยชีวิตอสูรด้วย เธอเหมือนแอเรียลเงือกน้อยตั้งแต่ต้นเรื่อง นั่นคือไม่พอใจในชีวิตที่มีอยู่

ดิสนีย์ถูกวิพากษ์ตรงนี้เมื่อชีวิตของเธอที่ว่าคือ provincial life ชีวิตชนบทมันไม่ดีตรงไหน

อสูรเป็นส่วนผสมของสัตว์หกชนิด เรามาดูว่ามีอะไรบ้าง

มันมีแผงคอของสิงโต ศีรษะของควาย จมูกของหมูป่า ร่างกายของหมี แขนและกล้ามเนื้อของกอริลล่า ขาและหางของหมาจิ้งจอก

ทั้งหมดนี้ต้องหาสาวมารักก่อนที่เวลาจะหมดลง นั่นมิใช่เป็นเพียงโจทย์ยากของอสูรเอง แต่เป็นโจทย์ยากของแอนิเมเตอร์ด้วยว่าพวกเขาจะไปหาสาวที่ไหนมารักมันได้ลงคอก่อนหนังจบ

 

เจ้าชายน้อยที่ถูกสปอยล์จนเคยตัว เอาแต่ใจ และไม่มีเมตตา เพียงเริ่มต้นก็ยากแล้ว ซ้ำมาถูกสาปเป็นอสูรอยู่คนเดียวอีกสิบกว่าปีไม่มีทักษะสังคมเลย จึงต้องการความช่วยเหลือจากบริวารรอบตัวที่บัดนี้ถูกสาปเป็นเครื่องใช้ไปหมดแล้ว คนสำคัญคือตะเกียงลูเมียร์และนาฬิกาคอกส์เวิร์ธ ด้วยความช่วยเหลือของชุดกาน้ำชาและเก้าอี้เด็ก จะว่าไปก็เป็นเรื่องน่าขำ แต่เหล่านี้มีมูลความจริงอยู่บ้างเมื่อถือหลักว่าถ้าแก้เจ้าตัวไม่ได้ก็แก้ไขสิ่งแวดล้อม

แล้วสิ่งแวดล้อมจะไปแก้ไขเจ้าตัวอีกต่อหนึ่ง นี่เป็นจิตวิทยาพื้นฐาน

หนังใช้เหตุการณ์เป็นเครื่องมือกล่อมเกลาอสูร ไม่ว่าจะเป็นฉากงานเลี้ยงหรือฉากเล็กๆ น่ารักรอบปราสาทหลายๆ ฉาก

ในตอนแรกๆ แบลไม่ประสบผลสำเร็จเพราะเธอเองที่ทำตัวเป็นเด็ก เด็กงอแงเอาแต่ทะเลาะกันสองคนจะไม่ได้ไปไหน

เหมือนพ่อ-แม่ที่ลดตัวลงไปทะเลาะกับลูกอยู่เรื่อยๆ ก็รับรองได้ว่าบ้านนั้นดูไม่จืดเป็นแน่

แล้วนักเขียนก็เขียนเรื่องให้อสูรถูกฝูงหมาป่าทำร้ายได้แผลฉกรรจ์ เป็นปัจจัยแวดล้อมที่เปิดโอกาสให้แบลเป็นผู้ใหญ่ มิใช่เป็นผู้ใหญ่ธรรมดา แต่เป็นแม่ผู้ดูแลบาดแผลให้แก่ลูกด้วยความรักความอบอุ่น ลองนึกภาพบ้านที่พ่อ-แม่ซ้ำเติมลูกเวลาได้แผลอีกครั้งหนึ่ง ก็จะเห็นจริงว่าเป็นได้ดูไม่จืดอีกเช่นกัน

บาดแผลทำให้อสูรหมดฤทธิ์และแบลได้อยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่าอย่างแท้จริง

 

ปัจจัยความสำเร็จสูงสุดของโฉมงามกับเจ้าชายอสูรอาจจะมิได้อยู่ที่เพลงประกอบและแบลเท่านั้น หรือเนื้อเรื่อง กุญแจสำคัญอยู่ที่ตัวอสูรนี้เอง

คนดูทุกๆ คนคืออสูร ครั้งหนึ่งพวกเราเคยเป็นเด็กร้ายกาจ เห็นแก่ตัวและเอาแต่ใจ พวกเราล้วนเคยถูกตามใจจนเคยตัวไม่มากก็น้อย พวกเราเกรี้ยวกราดและทำท่าดุร้ายใส่คนนั้นคนนี้ตั้งแต่เล็กจนโต แต่ทุกๆ คนได้ซ่อนจิตใจดีงามเอาไว้ลึกมากที่ระดับความลึกต่างๆ กัน

ระหว่างที่เรานั่งดูอสูรเรากำลังดูตัวเอง

เรามิได้เพียงเอาใจช่วยแบล เอาใจช่วยแบลให้ช่วยเหลืออสูรสำเร็จ แต่เรากำลังเอาใจช่วยตัวเองให้หลุดออกจากความชั่วร้ายที่ห่อหุ้มเราเสียที หากเปรียบเทียบอสูรกับกาสตองเป็นที่มั่นใจได้ว่าเราเอาใจช่วยอสูรมากกว่าและหลายคนอยากจะกำจัดกาสตองให้สิ้นซาก เพราะนิสัยแบบกาสตองมิใช่หรือที่ทำให้เราเป็นคนไม่น่าคบถึงวันนี้

โดยไม่รู้ตัว ทุกคนปรารถนาให้อสูรหลุดพ้น ซึ่งก็คือตัวเองที่หลุดพ้น ฉากที่แบลอ่อนลงในตอนท้าย อ่อนโยนต่ออสูรเสมือนหนึ่งมารดาผู้ใจดีกลับมาหาอีกครั้งจะเป็นฉากที่สั่นสะเทือนจิตใต้สำนึกของคนดูทุกๆ คนทั้งชาย-หญิง

คือแม่ที่หายไปนาน

บทความนี้รวมทั้งข้อเขียนชุดรำลึกการ์ตูนดิสนีย์ ได้ข้อมูลจากหนังสือ Encyclopedia of Walt Disney’s Animated Characters เขียนโดย John Grant สำนักพิมพ์ Hyperion 1998