E-DUANG :​ ​​ลีลา สองมาตรฐาน การเมือง ต่อ อนาคตไหม้ อนาคตหมด

ความละเอียดอ่อนอย่างยิ่งในทางการเมืองต่อกรณีของพรรคอนาคต ใหม่ ต่อกรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คืออะไร

คือ ความตั้งใจที่จะสกัด ที่จะทำลาย

ความผิดสังเกตเป็นอย่างมากก็คือ การสรรหา”คดีความ”มาสุมเข้าใส่อย่างเจตนา

แม้แต่เรื่อง “อดีต” ก็มีการขุ้ดคุ้ยมีการรื้อฟื้น

อย่างเช่นเรื่องที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เคยรับ นายรังสิมันต์ โรม ขึ้นรถตั้งแต่ก่อนตั้งพรรค ตำรวจก็หยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็น

ขณะเดียวกัน การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจากเพียง 1-2 คดีในเบื้องต้นทะยานไปสู่หลัก 20 กว่าและทำท่าว่าอาจจะแตะไปยังหลัก 30 ก็เด่นชัด

เด่นชัดว่าต้องการทำลายให้เกิดสภาวะอนาคต”ไหม้”แน่นอน

 

แม้ทางด้านคสช. ทางด้านรัฐบาลจะปัดปฏิเสธว่ามิได้เป็นเรื่องของตน เพราะทุกอย่างดำเนินการอยู่ในกกต. และส่งไปรอคิวอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ

เป็นเรื่องของกฎหมาย เป็นเรื่องขององค์กรอิสระ

แต่สิ่งที่จำหลักอย่างหนักแน่นก็คือ ไม่ว่ากกต. ไม่ว่าศาลรัฐธรรม นูญ ล้วนดำรงอยู่ภายใต้คำสั่งคสช.เป็นไปตามอำนาจของมาตรา 44 ทุกประการ

แล้วใครกันเล่าที่ลงนามในฐานะหัวหน้าคสช. หากมิใช่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เรื่องของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เรื่องของพรรคอนาคตใหม่ จึงได้รับการปฏิบัติอย่างหนึ่ง เรื่องอันเกิดขึ้นกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอ ชา หรือพรรคพลังประชารัฐก็ได้ปฏิบัติอีกอย่างหนึ่ง

รังสีอำมหิตอันเนื่องจาก ดับเบิล สแตนดาร์ด สัมผัสได้

 

อย่างเช่นดีถือครองหุ้นสื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่เพียงแต่ถูกสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ส.ส. หากในที่สุดก็มีอันต้องพันจากสมาชิกภาพส.ส.

ขณะที่ ส.ส.คนอื่นคดีคลานต้วมเตี้ยมไม่หลุดรอดไปจากกกต.ไม่มีการขยับขับเคลื่อน

ยิ่งเมื่อมีเอกสาร”หลุด” เอกสาร”รั่ว”ออกมาจากสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) สังคมยิ่งมองเห็นอย่างเด่นชัดในการเลือกปฏิบัติ

ข่าวลือว่า”ยุบพรรค”จึงดังกระหึ่มตั้งแต่ยังไม่ทัน”วินิจฉัย”