ก้าวคนละก้าว / ฉบับประจำวันที่ 10-16 มกราคม 2563

ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งไล่ ลุง หรือเดินเชียร์ลุง ก็ตาม

ถือเป็นกิจกรรม “ก้าวคนละก้าว” เหมือนกัน

แต่ที่แตกต่างกันก็คือ ไม่ได้ก้าวไปในทิศทางเดียวกัน

เป็นการก้าวแบบก้าวใครก้าวมัน ไปคนละทิศทาง

สะท้อนภาวะการแตกขั้วในทางการเมืองอย่างชัดเจน

แม้ว่าผู้จัดแต่ละฝ่ายจะยืนยันว่าไม่ได้มีพรรคการเมืองเกี่ยวข้อง เพียงแต่เข้ามาร่วมกิจกรรมเหมือนประชาชนทั่วไปเท่านั้น

แต่กระนั้น คงปฏิเสธได้ยาก ว่านี่มิใช่การเคลื่อนไหวทางการเมือง

โดยฟาก “วิ่งไล่ลุง” จะมี นักการเมือง และผู้มีชื่อเสียง ที่จะมาร่วมกิจกรรม ก็เช่น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่, น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่, นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต., น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมการเมือง นายจอห์น-วิญญู วงศ์สุรวัฒน์ พิธีกร เป็นต้น

และกิจกรรมวิ่งขยายวงไปในต่างจังหวัดและต่างแดนหลายจุด

มีการเคลื่อนไหวของตำรวจและฝ่ายปกครอง ให้กลุ่มที่จัดกิจกรรม ยุติการดำเนินการ ด้วยการไม่อนุญาตให้มีการจัดงาน

แม้ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะยืนยันว่า ไม่มีการห้าม เพียงแต่อย่าให้ผิดกฎหมาย

แต่กระนั้น ดูเหมือนหลายจังหวัดจะถูกห้าม และมีมวลชนส่วนหนึ่งออกมาต่อต้าน

จึงยังไม่มีการยืนยันว่าในส่วนต่างจังหวัดจะสามารถจัดได้กี่แห่ง

แม้ว่าฝ่ายคนจัดจะย้ำว่า

“ไม่ต้องกังวล กิจกรรมนี้ไม่ไปก่อผลกระทบใดๆ ให้ประเทศ งานวิ่งงานอื่นจัดแบบไหนเราจัดแบบนั้น ไม่มีการชุมนุมต่อ หรือเปิดปราศรัยทางการเมือง จริงอยู่แม้เป็นกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ แต่เป็นสัญลักษณ์แนวใหม่ ไม่ใช่แบบการชุมนุมในอดีต อย่าเอาภาพเดิมๆ มายัดเยียดเรา”

ส่วนฟากเดิน เชียร์ ลุง

คนดังที่จะเข้าร่วม อาทิ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.พระมุงกฎวัฒนะ, ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือผู้กองปูเค็ม, อุ๊-หฤทัย ม่วงบุญศรี นักร้อง, เบญญา นันทขว้าง อดีตผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย เป็นต้น

ทั้งนี้ น่าสังเกตว่า เป้าหมายของกิจกรรม “เดินเชียร์ลุง” นอกจากจะให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์แล้ว

ยังพุ่งเป้าไปที่ “การต่อต้านพวกชังชาติ” ด้วย

ซึ่งเมื่อกล่าวถึงเป้าหมายนี้แล้ว ตอนนี้กลุ่มบุคคลที่เคลื่อนไหวเรื่องนี้อย่างจริงจัง

คงไม่พ้นนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ผนึกรวมกับนพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารพรรค รปช.

ออกเดินสายตามจังหวัดต่างๆ อย่างคึกคัก

ประกบไปกับการเดินสายของพรรคอนาคตใหม่ และกลุ่มจัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง อย่างน่าสังเกต

แม้จะไม่มีการยอมรับว่า นี่คือการคัดค้านแนวทางพรรคอนาคตใหม่ และกลุ่มวิ่งไล่ลุง

แต่ดูเหมือนทุกคนจะเข้าใจไปในทิศทางนี้

โดยนายสุเทพ ระบุเมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา ว่า

บ้านเมืองยังไม่เรียบร้อยปลอดภัย

วายร้ายตัวเก่าจบไปแล้ว มีวายร้ายตัวใหม่มาอีก

ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร แต่มันน่ากลัวมาก กำแหงมาก

สอดคล้องกับ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม โพสต์เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom เมื่อวันที่ 7 มกราคมที่ผ่านมา

อ้างถึงแผนร้ายของลัทธิชังชาติ

หนึ่งในนั้น คือสร้างชุดข้อมูลให้หลงเชื่อ สร้างความแตกแยกและความเกลียดชังในสังคม สร้างกิจกรรมในรูปแบบต่างๆ พุ่งเป้าไปที่เด็ก เยาวชนตามสถานศึกษา ประชาชนกลุ่มเฉพาะ เพราะง่ายแก่การยุแหย่

นำไปสู่การล้มล้างสถาบัน เปลี่ยนแปลงประเทศตามที่ลัทธิชังชาติต้องการ

แม้จะไม่ได้ระบุว่าเป็นใครหรือพรรคไหน แต่ก็คงคาดเดาไม่ยาก ว่าหมายถึงใคร

เช่นกัน ก็อาจคาดเดาได้ต่อไปว่า กิจกรรม “เดินเชียร์ลุง” จะเชื่อมโยงเครือข่ายใดบ้าง

และมีเป้าหมายสกัดกั้นใคร

อันสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว ของฝ่ายที่จัดกิจกรรมวิ่งไล่ลุง และเดินเชียร์ลุง

ซึ่งต้องรอดูว่า แต่ละฝ่ายจะดึงเสียงสนับสนุนได้มากน้อยเพียงใด

ปริมาณของ “มวลชน” น่าจะเป็นมาตรวัดอารมณ์ของสังคมได้ระดับหนึ่ง

ส่วนจะขยายวง และนำไปสู่อะไร อย่างไร คงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิด

พร้อมกับความคาดหวัง ก้าวแต่ละก้าว จะมีทิศทางไปตามแนวทางที่พวกตนเชื่อ และขยายตัวออกไปตามระบบเสียงส่วนใหญ่ของประชาธิปไตย

มิใช่การก้าวเข้ามา “ปะทะ” กันของคนไทยอีกครั้ง