วิเคราะห์ : อสังหาฯปี 2020 เปลี่ยนไปแค่ไหน?

สมรภูมิการแข่งขันของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ประเทศไทย จากนี้ไปจะเปลี่ยนโฉมหน้าใหม่ที่ไม่มีทางกลับไปเหมือนเดิมอีกแล้ว

กว่า 50 ปีของพัฒนาการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อขาย โครงการบ้านจัดสรร โครงการคอนโดมิเนียม มีนักธุรกิจรุ่นต่างๆ เข้าสู่วงการนี้อย่างต่อเนื่องทุกยุคทุกสมัย สะสมประสบการณ์การทำโครงการ การทำตลาด การเงิน จนกระทั่งเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ มียอดขายหลายหมื่นล้านบาท

บริษัทอสังหาฯ ที่เป็นผู้นำด้านมูลค่าตลาด ด้านยอดขาย ยอดกำไร แบรนด์ความน่าเชื่อถือ ซึ่งทั้งหมดเป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ กว่าจะไต่อันดับขึ้นสู่ตำแหน่ง Top 10 ก็มักเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจมา 30-40 ปี

อาทิ แลนด์แอนด์เฮ้าส์, ศุภาลัย, แสนสิริ, พฤกษา, ควอลิตี้เฮ้าส์, เอพี.ไทยแลนด์, พร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟ็ค

ลำดับตำแหน่งนี้ยากที่จะมีรายใหม่แทรกเข้ามา เพราะต้องใช้เวลา ประสบการณ์และความสามารถอย่างยิ่ง

ที่เข้ามาในรอบ 10 ปีหลัง ได้แก่ อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ และล่าสุด ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้

 

แต่ในขณะนี้สมรภูมินี้จะไม่เหมือนเดิม เพราะมีผู้มาใหม่ ซึ่งไม่ได้มาแบบไต่อันดับ ตรงข้าม มาแบบกลายเป็นบริษัทที่มูลค่าตลาด (market cap) ที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์ฯ ประเภทธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ทันที

คือ บมจ.แอสเซ็ทเวิร์ด หรือ AWC ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่มคุณเจริญ สิริวัฒนภักดี หรือกลุ่มเบียร์ช้าง เข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ไตรมาส 4 ปี 2562 ด้วยมูลค่าตามราคาตลาด (market cap) ประมาณ 1.92 แสนล้านบาท ทำลายสถิติสูงสุดตลาดหุ้นไทย

AWC เป็นเจ้าของอสังหาฯ ที่กลุ่มเบียร์ช้างซื้อสะสมไว้ ได้แก่ ศูนย์การค้าและสถานที่ท่องเที่ยว 11 แห่ง อาคารสำนักงาน 4 แห่ง โรงแรมและบริการ 27 แห่ง AWC เป็นบริษัทอสังหาฯ ที่กลุ่มเบียร์ช้างยื่นเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยตรง

แต่หลายปีก่อนหน้านี้กลุ่มเบียร์ช้างได้เข้าไปซื้อกิจการบริษัทอสังหาฯ ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้แก่ บมจ.แกรนด์ยูนิตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ บมจ.โกล์ดเด้นท์แลนด์

 

อีกกลุ่มที่จะก้าวเข้ามาเป็นบริษัทอสังหาฯ ยักษ์ใหญ่ คือบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือตระกูลเจียรวนนท์ ที่เติบโตมาจากธุรกิจการเกษตร

ที่ผ่านมาพัฒนาโครงการที่พักอาศัยและมิกซ์ยูสคุณภาพ แบรนด์ แมกโนเลียส์ (Magnolias) ดิ แอสเพน ทรี (The Aspen Tree) และวิสซ์ดอม (Whizdom)

ล่าสุดจับมือพาร์ตเนอร์ระดับโลกทำโครงการ “THE FORESTIAS – เดอะ ฟอเรสเทียส์” โปรเจ็กต์แฟล็กชิพครั้งแรกของโลก มูลค่าไม่ต่ำกว่า 90,000 ล้านบาท เป็นโครงการ Mixed-Use Lifestyle บนพื้นที่กว่า 300 ไร่ ประกอบด้วยโครงการที่อยู่อาศัย พื้นที่รีเทล อาคารและสำนักงาน ศูนย์สุขภาพ อาคารนวัตกรรมแห่งอนาคต ผืนป่าสันทนาการ พื้นที่กิจกรรมสำหรับชุมชน ศูนย์เรียนรู้ และสร้างระบบนิเวศของผืนป่าที่สมบูรณ์ขนาดใหญ่ที่สุดในทวีปเอเชีย

เดิมธุรกิจอสังหาฯ แบ่งเป็นรายใหญ่ รายกลาง และรายเล็ก แต่จากนี้ไปต้องเพิ่มกลุ่มใหม่

เป็นกลุ่มอภิมหายักษ์ใหญ่อีกกลุ่มหนึ่ง

หน้าประวัติศาสตร์ของธุรกิจอสังหาฯ กำลังเดินตามหน้าประวัติศาสตร์เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศ วงล้อเศรษฐกิจก็เดินตามอำนาจทางการเมือง

เดินหน้าสู่ กระจุก แอนด์ กระจาย