4 นักโหราศาสตร์ดัง ตรวจเช็กดวงเมืองปี “63 แนวโน้มปฏิวัติซ้อน? เศรษฐกิจถึงเวลาเผาจริง!

ก้าวสู่ปีใหม่ 2563

ประเทศไทยในมิติด้านการเมืองและเศรษฐกิจจะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใด ดีขึ้นหรือแย่ลง

นักโหราศาสตร์ชื่อดังหลายท่านพยากรณ์ไว้น่าสนใจ

ดังนี้

บุศรินทร์ ปัทมาคม นักโหราศาสตร์และคอลัมนิสต์ชื่อดัง ระบุเหตุการณ์ปี 2563 จะวนเวียนอยู่กับความไม่สามัคคีและปัญหาเงินทุน รัฐบาลมีปัญหางบประมาณไม่พอใช้จ่าย

เกิดขึ้นจากดาวพระเคราะห์หลักคือ ดาวพฤหัสฯ และดาวเสาร์โคจรเดินหน้าและถอยหลังอยู่ในราศีธนู เรือนชะตาเกี่ยวกับความสุข และราศีมังกร หรือเรือนกัมมะ การงานของบ้านเมือง

ดาวพฤหัสฯ โคจรร่วมราศีเดียวกับดาวเสาร์ เป็นสัญลักษณ์ความแตกแยกขัดแย้งไม่ลดราวาศอก บ้านเมืองสงบยาก

17 มีนาคม-12 กรกฎาคม รัฐบาลต้องเจอกับงานหนัก ยุ่งยาก อำนาจอ่อนตัว ประชาชนเกรงกลัวรัฐบาลน้อยลง

ถึงวันเกิดดวงเมือง 21 เมษายน 2563 อายุย่าง 239 ปี นับทักษาจรตกปูมดาวพุธเป็นบริวารจร และมีดาวอังคารเป็นกาลกิณีจร ปัญหาสังคมและการเมืองทรุดตัว ดวงตกอย่างน่าเป็นห่วง ตั้งแต่วันเกิดดวงเมืองจะวุ่นวายเรื่องงานไปถึง 1 พฤษภาคม

บ้านเมืองมีเกณฑ์ดุเดือดเลือดพล่านอีกครั้ง เมื่อดาวอังคารซึ่งเป็นกาลกิณีจรโคจรขึ้นทับลัคนาดวงเมืองระหว่าง 10 สิงหาคม-1 ตุลาคม ความสับสนวุ่นวายและความไม่สงบจะรุนแรงขึ้นทุกหย่อมหญ้า

ปลายปีสังคมจะปั่นป่วนวุ่นวายและสับสน ความแตกแยกระหว่างพรรค กลุ่มคนในพรรครัฐบาล ความวุ่นวายความสับสนอลหม่านจะรุนแรงยิ่งขึ้นระหว่าง 10 สิงหาคม-9 ตุลาคม

โดยเฉพาะดวงชะตาจะตกรุนแรงยิ่งขึ้น เมื่อดาวอาทิตย์จรเข้าไปในเรือนอริของดวงเมืองระหว่าง 17 กันยายน-17 ตุลาคม ช่วงนี้ถ้าจะเกิดปฏิวัติรัฐประหารซ้อนก็ได้ เพราะรัฐบาลไม่น่าเลื่อมใส ความน่ากลัวลดลง พระเดชอ่อน

เศรษฐกิจทรุดหนักช่วงปลายปี โดยเริ่มเด่นชัดหลัง 10 กันยายน ที่ทรุดโทรมอยู่แล้วจะหักโค่นแบบช่วยไม่ได้

18-25 พฤศจิกายน ดาวศุกร์และดาวพุธเล็งลัคนา ดาวอังคารโคจรเข้าเรือนวินาศ ต้องจับตามองเป็นกรณีพิเศษระหว่าง 19-25 พฤศจิกายน โดยเฉพาะ 24-25 พฤศจิกายน เป็นจังหวะบ้านเมืองตกต่ำมากที่สุด

การเงินบอบช้ำ วุ่นวาย หุ้นตกรุนแรงระหว่าง 18 พฤศจิกายน-12 ธันวาคม

27 ธันวาคม ดาวอังคารโคจรเดินหน้าเข้าทับลัคนาดวงเมืองอีกครั้งถึง 24 กุมภาพันธ์ 2564 กระเป๋าฉีก การเงินทรุดหนัก

สรุปช่วงปลายปี 2563 เศรษฐกิจจะตกต่ำรุนแรงกว่าปีที่แล้วๆ มา

รัฐบาลกระเป๋าฉีก ดาวราหูล้วงทรัพย์ตัวจริง

โสรัจจะ นวลอยู่ หรือนอสตราดามุสเมืองไทย ชี้ว่าดวงเมืองปี 2563 มีดาวใหญ่คือดาวมฤตยูเข้ามาสถิตในราศีเมษลัคนาเมือง โดยเข้ามาระยะหนึ่งแล้ว แต่ยังอยู่ต่อไปถึง 7 กรกฎาคม 2565

ส่งผลกับบ้านเมือง ดาวมฤตยูก็หนักแล้ว ยังมีดาวเสาร์ย้ายจากราศีธนูขึ้นไปราศีมังกรวันที่ 2 มีนาคม 2563 ไปตั้งฉากกับดาวมฤตยูและราศีเมษซึ่งเป็นดวงเมือง จะอยู่ไปถึง 2 ปี 7 เดือน

ส่งผลตั้งแต่ขึ้นปีใหม่และเห็นชัดขึ้นในเดือนมีนาคม บ้านเมืองยุ่งหลายเรื่องตั้งแต่เรื่องเศรษฐกิจ จะว่าเผาจริงก็ได้ การเมืองอาจมีความคิดแตกต่างกัน เกิดความขัดแย้งทุกวงการ

อาจสืบเนื่องมาจากปัญหาเศรษฐกิจเป็นสำคัญ บ้านเมือเผชิญวิกฤตการเงิน การส่งออก เงินบาทจะสูงค่าจนคุมไม่อยู่ แก้ปัญหาได้แบบไม่เต็มที่ หรือโอกาสแก้ไขแทบไม่มีเพราะขัดแย้งกัน

มีโอกาสกู้เงินจากไอเอ็มเอฟ สิ่งเหล่านี้อาจเกิดหลังเดือนมีนาคมถึงปลายปี 2563 ซึ่งจะหนักว่าปี 2540

การเมืองร้อนแรงตลอดทั้งปี มีโอกาสขัดแย้งกันจนพรรคร่วมไปไม่ได้ มีโอกาสยุบสภา และไม่แน่ว่าอาจนำไปสู่เหตุการณ์ใหญ่ จนเกิดการรัฐประหารครั้งใหญ่หรือปฏิวัติซ้อนได้ เพราะดาวมฤตยูอยู่ไปถึงปี 2565

ภัยพิบัติรุนแรงกว่าทุกปี ภัยแล้งที่ว่าปี 2562 แล้ง ปี 2563 จะแล้งกว่า น้ำในเขื่อนไม่มี เกษตรกรรมเสียหาย ข้าวยากหมากแพง เดือดร้อนไปทั่ว จะมีม็อบออกมาเต็มเมือง ปีหน้าเผาจริง เศรษฐกิจจะแย่มาก รัฐบาลหรือผู้ใหญ่ในรัฐบาลอาจมีคอร์รัปชั่นต่อเนื่อง

หลังมีนาคมจะเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ตึกรามบ้านช่องล้มระเนระนาด เสียหายเกือบทั่วประเทศ มีคนเสียชีวิต สึนามิก็เกิดขึ้นได้

ดวงผู้นำรัฐบาล ระวังคนรอบข้างที่อาจให้คำแนะนำ ให้ความรู้ไม่ตรงกับสิ่งที่จะช่วยชาวบ้านคนยากคนจนได้ คนใกล้ตัวที่เกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจ อาจไม่มีความสามารถ ทำอะไรล้มเหลว พาเข้ารกเข้าพง

ตัวช่วยรัฐบาลน้อยลง ช่วยไปก็ผิดทาง ทำให้บ้านเมืองยิ่งตกต่ำ

เริ่มปีใหม่เหตุการณ์จะยุ่งหลายเรื่องที่เป็นเรื่องใหญ่มารวมกัน ตัวผู้นำรัฐบาลไม่สามารถแก้ไขได้ หรือถึงเวลาจะแก้ไขก็แก้ไขไม่ได้แล้ว

มีทางเดียวอาจยุบสภา

ฟองสนาน จามรจันทร์ ทำนายว่าตลอดปี 2563 การเมืองยังอยู่ภายใต้อิทธิพลของการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงใหญ่ทั้งเมือง

สภาพแวดล้อมต่างๆ บางครั้งเกิดแบบกะทันหันเกินคาดคิด ต่อเนื่องมาจากช่วงมีนาคม 2559 เป็นผลมาจากมฤตยูจรเข้าราศีเมษ ทับลัคนาดวงเมืองที่เป็นราศีเมษ ทับพระอาทิตย์ดวงเดิมซึ่งหมายถึงการเมือง บุคคลสำคัญในเมือง

มฤตยูคือเรื่องการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงใหญ่ จะอยู่ราศีเมษถึงกรกฎาคม 2565

ฉะนั้น ดวงเมืองปี 2563 มีเกณฑ์ทางโหรที่น่าสนใจมากต่อสถานะเมืองที่น่าจะถูกทบทวน ปรับแผนแก้ไขกันอย่างคึกคักตั้งแต่ต้นเดือนกันยายน 2563 เป็นต้นไปจนถึงสิ้นปี ตอนนั้นมฤตยูเดินถอยหลังหมายถึงการทบทวน จะมีการทบทวนเรื่องของเมือง

การเมืองท้องถิ่นเริ่มคึกคักตั้งแต่ปลายปี 2562 จนถึงต้นปี 2563 เป็นการเริ่มต้นการเลือกตั้งท้องถิ่นหลังถูกแช่แข็งมานาน สนามสำคัญคือเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ที่คาดว่าจะมีขึ้นกลางเดือนมีนาคม

การเลือกตั้งท้องถิ่นจะสร้างความแปลกประหลาด อาจล็อกถล่ม เพราะมฤตยูจรยังทับลัคนาดวงเมืองอยู่

สนามการเมืองระดับประเทศจะเดินหน้าไปถึงปลายปี และเริ่มเห็นแววยุบสภาหรือเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่

ตลอดทั้งปีการเมืองจะมีเรื่องให้ไม่คาดคิด มีเรื่องให้แปลกใจตลอดเวลา องค์ประกอบต่างๆ ทางการเมืองจะถูกเขย่าปฏิวัติเปลี่ยนแปลงใหญ่ เพราะมฤตยูจรที่ราศีเมษ ยังทับพระอาทิตย์ดวงเดิมหมายถึงการเมืองอยู่

ปัจจัยการเกิดการเปลี่ยนแปลงเกิดจากจิตใจของประชาชนที่พลิกผันนำมาซึ่งอาการช่วงมีนาคม 2563 ที่มีการตรึงกำลังการเมืองระหว่างสองฝ่าย ทั้งสองฝ่ายจะปรับกลยุทธ์สู้กัน

ตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงสิ้นปีรัฐบาลจะรับภาระหนัก ด้วยตัวแทนรัฐบาลยืนอยู่ราศีมังกร ฝ่ายค้านก็มีเคราะห์เช่นกัน

การปรับคณะรัฐมนตรีคาดว่าจะมีขึ้น 15 พฤษภาคม และตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไปส่อแววจะมีการให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ถ้าไม่ใช่ อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงจากรัฐบาลอย่างน่าแปลกประหลาด หรือไม่ก็อาจจะมีกิจกรรมใหญ่ในรัฐธรรมนูญเป็นที่โดดเด่น อันเกิดจากพฤหัสบดีจร รวมกับพระราหูจร

คาดว่าการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ หรือเปลี่ยนแปลงใหญ่ในรัฐบาล อาจเกิดขึ้นช่วงปลายธันวาคม 2563 ข้ามไปถึงกุมภาพันธ์ 2564

ภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์แห่งชาติ พยากรณ์ปี 2563 ดาวมฤตยูโคจรเข้ามาที่ราษีเมษทางลัคนาเมือง ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่

ดาวมฤตยูยังโคจรมาสัมพันธ์กับดาวอังคารเทพแห่งสงคราม อุบัติเหตุ ความขัดแย้ง พระอังคารช่วงปลายปีจะโคจรวิปริตตรงราศีเมษตั้งแต่ 10 สิงหาคม-27 ธันวาคม ต้องระวังความขัดแย้ง

พระราหูต้นปีโคจรอยู่ตรงราศีมิถุนถึง 10 กันยายน มีการทุ่มเททรัพย์สินเงินทองปรับปรุงการคมนาคม เดือนกันยายนมีการร่วมลงทุนกับต่างชาติ

พระราหูยกเข้าราศีพฤษภถึงสิ้นปี ราศีพฤษภ คือ เรือนกดุมภะ แปลว่าทรัพย์สินเงินทอง การเงิน การคลัง เศรษฐกิจ

ตำราเรียก “ราหูค้นทรัพย์” ค้นเอางบประมาณของชาติมาใช้จำนวนมาก ค้นทรัพย์สินเงินทองมาใช้จนเกิดปัญหา มีการกู้ยืม เศรษฐกิจเหลื่อมล้ำชัดเจน เกิดการปรับตัว ปัญหาปากท้องนำไปสู่การปรับเปลี่ยนเกิดระบบเศรษฐกิจและการเมืองแบบใหม่

สำคัญที่สุดของปีอยู่ที่ดาวพระเสาร์กับดาวพระพฤหัส ดาวคู่แห่งการเปลี่ยนแปลงจะกุมกันครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 397 ปี

ดาวพฤหัสฯ เป็นดาวประธานฝ่ายศุภเคราะห์ ดาวเสาร์เป็นดาวประธานฝ่ายบาปเคราะห์ ยังเป็นตัวแทนของมหาชน เรื่องของคนส่วนใหญ่

เมื่อดาวทั้งสองกุมกันจะเกิดเป็นการรวมตัวของสองฝ่ายตรงกันข้าม เช่น ฝ่ายดี-ร้าย คนจน-รวย คนมีการศึกษา-ด้อยการศึกษา คนชั้นสูง-ชั้นต่ำ เป็นต้น อาจแปลได้ว่าจะมีการชุมนุมเกิดขึ้น

การเปลี่ยนแปลงใหญ่จะเกิดช่วง 2563-2565 แต่จะเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงมากที่สุดปี 2563 เมื่อดาวพฤหัสฯ กับดาวเสาร์โคจรถอยหลังตั้งแต่ 11 พฤษภาคม-23 กันยายน เป็นช่วงเปลี่ยนแปลงทางการเมืองไปถึงแก้ไขรัฐธรรมนูญ

ดาวทั้งสองโคจรบรรจบกันแนบแน่นที่สุด 21 ธันวาคม การเมืองร้อนรุ่มถึงขีดสุด ผู้เกี่ยวข้องการบริหารราชการแผ่นดินหรือคณะรัฐมนตรีจะเกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญกว่าทุกครั้ง อาจถึงขั้นยุบสภาหรือรัฐประหาร

ผู้นำประเทศมีลัคนาอยู่ตรงราศีมังกร ปี 2563 ดาวพฤหัสกับดาวเสาร์อยู่ตรงราศีธนูจะเป็นภพวินาศ ต้องระวังอย่างมาก ผู้นำต้องอยู่ให้เป็น ผ่านตรงนี้ไปให้ได้ หากไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ไม่ยอมให้ปรับปรุง

เกรงจะเกิดวิกฤตตามวงรอบของดาวเสาร์ 30 ปี ที่จะเกิดขึ้นในปี 2565