โฟกัสพระเครื่อง/โคมคำ/เหรียญหลวงพ่อวัดไร่ขิง รุ่นที่ 2-พ.ศ.2482 วัตถุมงคลดัง-ยอดนิยม

หลวงพ่อวัดไร่ขิง

โฟกัสพระเครื่อง/โคมคำ [email protected]

เหรียญหลวงพ่อวัดไร่ขิง

รุ่นที่ 2-พ.ศ.2482

วัตถุมงคลดัง-ยอดนิยม

 

“หลวงพ่อวัดไร่ขิง” เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ประดิษฐานเป็นที่เคารพกราบไหว้อยู่ ณ วัดไร่ขิง เป็นเวลานาน คนในท้องถิ่นต่างเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ และมักกราบไหว้บนบานเมื่อมีทุกข์โศกโรคภัยต่างๆ

“เหรียญหลวงพ่อวัดไร่ขิง ปี 2467” นับเป็นเหรียญรูปเหมือน ที่สร้างขึ้นเป็นครั้งแรก (รุ่นแรก) ได้รับความนิยมอย่างยิ่ง

แต่ที่โดดเด่นไม่แพ้กัน คือ “เหรียญหลวงพ่อวัดไร่ขิง รุ่น 2” ถือเป็นเหรียญอีกรุ่นที่อยู่ในความนิยมมาโดยตลอด

รุ่นดังกล่าว จัดสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2482 โดยหลวงพ่อใช้ ปติฏโฐ เจ้าอาวาสสมัยนั้น

ลักษณะเป็นเหรียญปั๊มรูปทรงหยดน้ำ หูห่วงในตัว ด้านหน้าเหรียญตรงกลางเป็นรูปจำลองหลวงพ่อวัดไร่ขิง ประทับนั่ง แสดงปางมารวิชัย เหนืออาสนะฐานแบบผ้าทิพย์ มีข้อความจารึกว่า “หลวง พ่อวัด ไร่ขิง”

ด้านหลังเหรียญเป็นอักขระยันต์ห้า ด้านล่างจารึก “พ.ศ.๒๔๘๒” หมายถึงปีที่จัดสร้างเหรียญรุ่นนี้

ประกอบพิธีปลุกเสกเหรียญรุ่นนี้ วัดไร่ขิงนิมนต์สุดยอดพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคนั้นเข้าร่วมพิธีการปลุกเสกมากมายหลายท่านด้วยกัน เช่น หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง, หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา, หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง, หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ, หลวงพ่อสุดใจ วัดเชิงเลน เป็นต้น

เหรียญปั๊มหลวงพ่อวัดไร่ขิง พิมพ์หยดน้ำ จึงนับเป็นเหรียญที่มีพุทธลักษณะงดงามและมากด้วยพุทธคุณ สมกับที่ได้รับการยกย่อง และเป็นที่นิยม

เหรียญหลวงพ่อวัดไร่ขิง รุ่น 2 (หน้า-หลัง)

 

“วัดไร่ขิง” หรือ “วัดมงคลจินดาราม” เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ สังกัดฝ่ายมหานิกาย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำท่าจีน ต.ไร่ขิง อ.สามพราน จ.นครปฐม

เดิมเป็นวัดราษฎร์ ต่อมาจึงยกฐานะขึ้นเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2533

เรียกชื่อวัดตามชื่อตำบล เมื่อสร้างเสร็จแล้ว ได้อัญเชิญพระพุทธรูปจากวัดศาลาปูน ประดิษฐานไว้ที่วัดไร่ขิงด้วย ปัจจุบันชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อวัดไร่ขิง เป็นพระประธานในพระอุโบสถ

ส่วนหลวงพ่อวัดไร่ขิง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 4 ศอก 2 นิ้ว สูง 4 ศอก 16 นิ้ว ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชี 5 ชั้น มีผ้าทิพย์ปูทอดลงมา ผินพระพักตร์สู่ทิศเหนือ องค์พระงดงาม เป็นการผสมผสานงานพุทธศิลป์ 3 สมัย คือ เชียงแสน อู่ทอง และสุโขทัย

แต่ไม่ปรากฏหลักฐานใครสร้างขึ้นเมื่อไหร่

 

จากหนังสือประวัติของวัด ระบุว่า เรื่องราวของหลวงพ่อวัดไร่ขิง ซึ่งไปเกี่ยวข้องกับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) ครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระธรรมราชานุวัตร ตั้งแต่ครั้งเป็นวัดศาลาปูนวรวิหาร อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) พื้นเพเป็นชาวนครชัยศรี เล่ากันเป็นสองนัยว่า เป็นผู้สร้างวัดไร่ขิง เมื่อปี พ.ศ.2394 อาราธนาพระพุทธรูปจากพระนครศรีอยุธยามาเป็นพระประธาน

กับอีกความหนึ่งว่า วัดไร่ขิงเดิม มีพระประธานอยู่แล้วแต่องค์เล็ก สมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก) จึงให้ไปนำพระพุทธรูปจากวัดของท่าน ซึ่งผู้คนจากวัดไร่ขิงก็พากันขึ้นไปรับ เชิญลงแพไม้ไผ่ล่องลงมาตามแม่น้ำเจ้าพระยา เข้าแม่น้ำท่าจีนจนถึงวัด ก่อนอัญเชิญขึ้นประดิษฐานในพระอุโบสถ ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 ตรงกับวันสงกรานต์ในปีนั้นพอดี

ขณะที่อัญเชิญหลวงพ่อวัดไร่ขิงขึ้นจากน้ำสู่ปะรำพิธี เกิดความมหัศจรรย์ แสงแดดที่แผดจ้ากลับพลันหายไป ความร้อนระอุในวันสงกรานต์กลางเดือนห้า บังเกิดมีเมฆดำทะมึน ฝนโปรยลงมา ทุกคนในที่นั้นเกิดความยินดี พากันอธิษฐานจิต

“ขอหลวงพ่อจักทำให้เกิดความร่มเย็นเป็นสุข ดับความร้อน คลายความทุกข์ให้หมดไป ดุจสายฝนที่เมทนีดลทำให้ชุ่มฉ่ำ เจริญงอกงามด้วยธัญญาหาร”

จึงถือเป็นวันสำคัญ จัดให้มีงานเทศกาลนมัสการปิดทองประจำปี หลวงพ่อวัดไร่ขิง สืบต่อมาถึงทุกวันนี้

 

เรื่องราวความเป็นมาของหลวงพ่อวัดไร่ขิง ดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับน้ำอยู่ตามสมควร ในประวัติพระพุทธรูปหลายสำนวน นับท่านรวมอยู่ในพระพุทธรูปห้าองค์พี่น้องที่ลอยน้ำมาจากทางเหนือ ประกอบด้วย หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวราราม จ.ฉะเชิงเทรา, หลวงพ่อบ้านแหลม วัดเพชรสมุทร วรวิหาร จ.สมุทรสงคราม

บางแห่งก็เพิ่มหลวงพ่อวัดเขาตะเครา จ.เพชรบุรี และหลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน จ.สมุทรปราการ และขึ้นประดิษฐาน ณ ที่ต่างๆ กันด้วย

ชาวบ้านเชื่อศรัทธาในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อวัดไร่ขิง ว่าสามารถปัดเป่าทุกข์โรคภัยไข้เจ็บทั้งปวงได้อย่างอัศจรรย์ ทั้งยังอำนวยโชคลาภให้แก่ผู้ที่เดินทางมาสักการะ

โดยเฉพาะในงานประจำปี ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 5 มีมหรสพ 9 วัน 9 คืน พุทธศาสนิกชนแห่นมัสการสักการะ และบนบานศาลกล่าวด้วย “ว่าวจุฬา”

เชื่อว่าที่เป็นพิเศษ รองลงมาคือ ประทัดและละครรำ