ภาพยนตร์ / นพมาส แววหงส์ / LAST CHRISTMAS ‘พลัดที่นา คาที่อยู่’

นพมาส แววหงส์

ภาพยนตร์/นพมาส แววหงส์

LAST CHRISTMAS

‘พลัดที่นา คาที่อยู่’

 

กำกับการแสดง Paul Feig

นำแสดง Emilia Clark Henry Golding Emma Thompson Michelle Yeoh Lydia Leonard

 

คริสต์มาสเวียนมาบรรจบอีกครั้งในรอบปี

คนทั่วโลกทุกชาติทุกภาษาฉลองวันประสูติของพระเยซูในฐานที่เป็นเทศกาลแห่งความรักความอบอุ่นในครอบครัวและการอยู่ร่วมกันด้วยสันติสุข

เมื่อใกล้สิ้นปี เราจึงได้ดูเรื่องราวอันชวนอบอุ่นใจในหนังเกี่ยวกับคริสต์มาสกันทุกปี

มาปีนี้ จากโปรเจ็กต์ของเอมมา ธอมป์สัน ซึ่งเขียนบทให้ตัวเองร่วมแสดงด้วย ได้ไอเดียมาจากเพลงฮิตเพลงหนึ่งของศิลปินชื่อดังที่เพิ่งเสียชีวิตไปไม่นานมานี้

หนัง Last Christmas ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเพลงชื่อเดียวกันของนักร้องนักแต่งเพลงซูเปอร์สตาร์ชาวอังกฤษ จอร์จ ไมเคิล

นี่จึงเป็นหนังที่ทำให้ระลึกถึงจอร์จ ไมเคิล ในทำนองเดียวกับที่หนัง Yesterday ที่เพิ่งออกฉายไปเมื่อไม่นานมานี้ ชวนให้ระลึกถึง The Beatles

มีเพลงหลายเพลงของจอร์จ ไมเคิล สอดแทรกหรือเป็นส่วนในการดำเนินเรื่องโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น Heal the Pain, Wake Me Up Before You Go Go, Everything She Wants หรือ Praying for Time

หนังเรื่องนี้แตกต่างจากหนังคริสต์มาสทั่วๆ ไป เพราะนี่เป็นหนังเกี่ยวกับคนอพยพ หรือคนไร้บ้าน ดังที่จั่วหัวข้อไว้ข้างบน ไม่ว่าจะพลัดที่นาคาที่อยู่ด้วยเหตุผลทางการเมือง อาชีพการงาน หรือเหตุผลส่วนตัวอื่นใด

 

หนังเริ่มขึ้นเมื่อ ค.ศ.1999 ในยูโกสลาเวีย หนูน้อยคาทารีนากำลังร้องเพลงในโบสถ์อย่างไพเราะเพราะพริ้ง ท่ามกลางความชื่นชมโสมนัสของครอบครัว โดยเฉพาะผู้เป็นแม่ (เอมมา ธอมป์สัน)

ดูท่าว่าคาทารีนาจะมีอนาคตอันรุ่งโรจน์ในอาชีพร้องเพลงเป็นแม่นมั่น

กาลเวลาตัดข้ามมาถึง ค.ศ.2017 คาทารีนากลายเป็นหญิงสาวเต็มตัว และชอบให้ใครๆ เรียกเธอว่า เคต (เอมิเลีย คลาร์ก ที่โด่งดังมาจาก Game of Thrones) ใช้ชีวิตอันลุ่มๆ ดอนๆ อยู่ในลอนดอน พยายามไปคัดตัวสำหรับบทบาทในการแสดง แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ

เคตไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง ได้แต่หาหลังคาคุ้มหัวไปตามบ้านของเพื่อนฝูง ซึ่งพากันเหนื่อยหน่ายต่อนิสัยเฟอะฟะและขาดความรับผิดชอบ รวมทั้งยังสร้างปัญหาปวดหัวให้เป็นประจำ

เคตทำงานในร้านขายของเฉพาะสำหรับคริสต์มาสตลอดปี ชื่อ Yuletide ซึ่งเป็นคำโบราณที่ใช้เรียกเทศกาลคริสต์มาส

เจ้าของร้านเป็นสาวใหญ่ชาวเอเชีย ใช้ชื่อเรียกตัวเองว่า ซานตา (มิเชลล์ โหยว ผู้คงความสวยสง่าแบบอมตนิรันดร์กาลจาก Crouching Tiger Hidden Dragon และ Crazy, Rich Asians) เธอให้เคตแต่งตัวเป็นภูตน้อยคอยขายของในร้าน และเรียกขานด้วยฉายาว่า “เอลฟ์”

ซานตาบอกว่าชื่อจริงของเธอนั้นออกเสียงยากจนไม่มีใครเรียกถูก เธอจึงเปลี่ยนชื่อไปเรื่อยๆ ตามอาชีพที่ทำ และเมื่อเธอมีหนุ่มใหญ่ชาวเดนมาร์กมาติดพัน ชื่อของเขาก็เรียกยากจนออกเสียงไม่ถูก เธอเลยเรียกเขาสั้นๆ ง่ายๆ ว่า “บอย”

เคตมีปัญหาส่วนตัวด้านสุขภาพ ซึ่งทำให้เปลี่ยนชีวิตเธอไปทั้งชีวิต นิสัยเธอไม่เหมือนคนเดิมเลย และเธอยังดิ้นรนหาตัวตนที่แท้ของตัวเองอยู่ ตะเกียกตะกายใช้ชีวิตต่างหากจากครอบครัว

 

อยู่มาวันหนึ่งเคตก็ได้พบหนุ่มรูปหล่อเชื้อสายเอเชีย ชื่อ ทอม เว็บสเตอร์ (เฮนรี่ โกลดิ้ง พระเอกบอกให้เคตแหงนหน้ามองเบื้องบนอยู่เสมอ…เป็นเหตุให้หนหนึ่งเคตโดนนกขี้รดหน้า ซึ่งทอมก็บอกว่านั่นถือเป็นโชคดี

หนุ่มลึกลับคนนี้ยังพาเคตไปหัดเล่นสเก๊ต เพื่อเตรียมตัวสำหรับการคัดตัวนักแสดงในละครเรื่อง Frozen พาเธอไปอพาร์ตเมนต์เล็กๆ ที่สะอาดเอี่ยมเรี่ยมเร้แบบที่ผู้หญิงเฟอะฟะแบบเคตต้องขอนั่งกับพื้น เพราะไม่อยากทำเลอะเทอะ

และแนะนำเธอไปสู่บ้านพักสำหรับคนเร่ร่อนไร้บ้าน

ซึ่งเคตได้พบว่าการช่วยเหลือผู้อื่นนั้นทำให้ชีวิตของเธอมีความหมาย ไม่ได้สะเปะสะปะไร้ทิศทางอย่างที่เธอรู้สึกมาตลอดระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา

คริสต์มาสปีที่แล้วเกิดเหตุการณ์สำคัญที่หักเหชีวิตทั้งชีวิตของเคตไป

และเธอกำลังตะเกียกตะกายใช้ชีวิตหลังจากความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นั้น

มีจุดหักเหในพล็อตที่จะเป็นสปอยเลอร์อย่างสำคัญในเรื่องราวของเคต ซึ่งบอกไม่ได้ในที่นี้นะคะ ต้องให้ไปดูเอาเองว่าหนังจะพลิกเรื่องอย่างไร

 

พล็อตของหนังครอบคลุมผู้คนมากหน้าหลายตาในเมืองใหญ่ซึ่งล้วนไม่ใช่คนที่มีถิ่นฐานอยู่ที่นี่มาแต่ดั้งเดิม

ครอบครัวนางเอกอพยพหนีสงครามมาจากยูโกสลาเวีย

พระเอกหน้าตาเป็นคนเอเชียชัดๆ แม้จะมีชื่อเสียงเรียงนามเป็นคนอังกฤษ ไม่ว่าตัวจริงหรือตัวละครในเรื่อง (“เฮนรี่ โกลดิ้ง” เล่นเป็น “ทอม เว็บสเตอร์” ค่ะ)

เจ้าของร้านที่เคตทำงานอยู่ก็เป็นคนเอเชีย (มิเชลล์ โหยว เป็นคนจีนจากมาเลเซีย) และหนุ่มใหญ่ที่มาติดพันเธอก็เป็นคนเดนมาร์ก

นอกจากนั้น แฟนสาวของพี่สาวเคต (ลิเดีย เลนเนิร์ด) ก็เป็นคนผิวดำ

สรุปว่าหาใครที่เป็นฝรั่งพันธุ์แท้ผมทองผิวขาวที่อยู่ในประเทศนี้มาแต่ดั้งเดิมไม่ได้เลย

แถมในตอนท้ายเคตยังได้แสดงวีรกรรมบนรถเมล์ ให้กำลังใจแก่คนพลัดที่นาคาที่อยู่เหมือนตัวเธอ ซึ่งโดนเหยียดเชื้อชาติเหยียดผิวพรรณจากเจ้าของประเทศที่แสดงความรังเกียจอย่างออกนอกหน้า

ประเด็น “พลัดที่นาคาที่อยู่” นี้ยังไม่หมดค่ะ เรื่องราวยังเกี่ยวพันไปถึงคนไร้บ้าน…อย่างที่เคตเป็น…ในช่วงปีที่ผ่านมา ลากกระเป๋าย้ายที่นอนเร่ร่อนไปเรื่อยๆ

เช่นเดียวกับคนไร้บ้านในบ้านพักที่ทำให้คนพวกนี้มีหลังคาคุ้มหัวนอน

 

แม้ว่าโทนของหนังจะเป็นโรแมนติกคอเมดี้ในรสชาติหวานๆ ขมๆ แต่ผู้เขียนบทและผู้กำกับฯ ก็ได้สอดใส่ประเด็นทางสังคมเข้ามาอย่างเป็นกอบเป็นกำ ทำให้กลายเป็นหนังที่ไม่ได้ว่างเปล่าโหวงเหวง

อย่างไรก็ดี โทนขำขันในหนังหลายตอนดูจะเว่อร์ และขาดความแนบเนียนไปหน่อย จนสร้างความแปลกแยกและไม่ทำให้เราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับตัวละครนัก

หลังจากการวิเคราะห์เนื้อหาที่ดูหนักแน่นแล้ว ก็ดูเหมือนเป็นหนังที่ผู้เขียนอยากจะชอบมากกว่านี้นะคะ แต่ต้องขอบอกตรงๆ ว่ายังไม่ค่อยโดนใจเท่าไร

คำเตือนสำหรับสปอยเลอร์ท้ายสุดนะคะ ขอบอกเพียงว่าเนื้อเพลงที่ขึ้นต้นว่า

“Last Christmas I gave you my heart

But the very next day, you gave it away…”

นั้นบอกนัยความหมายตรงตามตัวอักษรยิ่งกว่าที่เราเคยเข้าใจจากเพลง