ไมเคิล เหนา

ไม่แปลกที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเกิดอาการ “น็อตหลุด” หลังถูกตั้งฉายาประจำปีจากสื่อมวลชน

“อิเหนาเมาหมัด”

เพราะไม่คุ้น

เพราะไม่เคย

ที่ผ่านมา 5 ปีตอนเป็นรัฐบาลจากการรัฐประหาร สื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาลปิดปาก งดประเพณีตั้งฉายารัฐบาล

มีอำนาจ ม.44 มีสภานิติบัญญัติเป็นของตัวเอง

จะทำอะไรก็ทำได้

จะผ่านงบประมาณก็ใช้เวลาพิจารณาแป๊บเดียว

แต่พอเข้าระบอบประชาธิปไตย มีสภาผู้แทนราษฎรตรวจสอบ

อะไรที่เคยง่ายก็ไม่ง่าย

เช่นเดียวกับการตั้งฉายานายกรัฐมนตรีและรัฐบาลของสื่อมวลชนทำเนียบรัฐบาล

รัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งยิ้มรับได้สบายๆ

ถือเป็นสิทธิ์ของสื่อในการวิพากษ์วิจารณ์

แต่ “บิ๊กตู่” ไม่ชิน

“ข้อดี” ของ พล.อ.ประยุทธ์ เรื่องหนึ่งคือ เป็นคนที่ชัดเจน

โกรธก็โกรธ

ชอบก็ชอบ

แสดงออกให้เห็นชัดเจน

อะไรที่อยู่ในใจ สักพักหนึ่งก็หลุดออกมาทางวาจา

ส่วน “ข้อเสีย” ก็คือ ทั้งหมดของ “ข้อดี”

เก็บอาการไม่อยู่

ไม่แปลกที่วันนั้น พล.อ.ประยุทธ์จะออกอาการเคืองสื่อ

เดินเร็วๆ หน้าเครียด ไม่ยอมให้สัมภาษณ์

ขึ้นเวทีปาฐกถาเรื่องอะไรก็ไม่รู้

แต่สุดท้ายก็วกมาเรื่องนี้

แสดงความไม่พอใจอย่างเปิดเผย

เพราะความหมายคำว่า “อิเหนา” นั้นเสียดแทง “ใจดำ” ของ “ลุงตู่” อย่างยิ่ง

อะไรที่เคยว่าคนอื่นตอนยึดอำนาจ

ตอนนี้ทำหมดทุกอย่าง

ประชานิยมก็หนักยิ่งกว่าเดิม

ว่า “นักการเมือง” เรื่องไหน

มองในพรรคพลังประชารัฐจะเห็น “ตัวอย่าง” เต็มไปหมด

แต่มีคนบอกว่า “ลุงตู่” ไม่ชอบให้เรียกว่า “อิเหนา”

ควรมีทางเลือกให้ลุงบ้าง

มีคนหนึ่งเสนอคำว่า “เสิ่นเจิ้น”

เมืองแห่งการลอกเลียนแบบ

แต่มีคนแย้งว่า ตอนนี้ “เสิ่นเจิ้น” พัฒนาแล้ว

กลายเป็นแหล่งนวัตกรรมของเมืองจีน

…ไม่เหมาะ

และเสนอว่า เมื่อ “ลุงตู่” ชอบร้องเพลง

ก็ควรจะอิงกับชื่อ “ไมเคิล ตั๋ง”

ราชาก๊อบปี้โชว์เมืองไทย

“ไมเคิล ตู่”

ฟังดูอินเตอร์มากกว่า “อิเหนา”