มุกดา สุวรรณชาติ : พรรคอนาคตใหม่ จะเดินต่ออย่างไร

มุกดา สุวรรณชาติ

ย้อนกลับไปเมื่อกลางเดือนมกราคม 2562 ก่อนการเลือกตั้ง ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้ให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยถึงอุดมการณ์ของพรรคอนาคตใหม่ และเป้าหมายของพรรค

วันเวลาผ่านไปเกือบ 1 ปี สิ่งที่พรรคอนาคตใหม่ได้รับ คือการต่อต้านและแรงกดดันจากกลุ่มอำนาจเก่า

ถึงขนาดมีข่าวว่าจะถูกยุบพรรคทีมวิเคราะห์

จึงอยากย้อนทวนคำสัมภาษณ์นั้นอีกครั้ง เพราะดูแล้วมีความหมายต่ออนาคตของพรรคมาก

ขอให้ผู้อ่านพิจารณาโดยละเอียดอีกครั้งจะพบว่าเส้นทางเข้าสู่รัฐสภาไม่ใช่เป้าหมายของพรรค

ดังนั้น ถ้ามีการยุบพรรค ก็จะเป็นอุปสรรคชิ้นหนึ่งเป็นก้อนหินที่ขวางทางรถขบวนประวัติศาสตร์ ที่ต้องรู้จักหลบหรือขจัดมันออกไป

ทีมงานได้รวบรวมสาระสำคัญของการสัมภาษณ์ครั้งนั้นและพยายามแยกเป็นหัวข้อ มีเนื้อหาสำคัญดังนี้

ขอโปรดอ่านและวิเคราะห์ตามคำพูดของผู้นำพรรค

คําถามแรกคือ “คุณคิดว่าอะไรในประเทศไทยเปลี่ยนยากที่สุด และถ้าต้องเปลี่ยนจะเริ่มจากอะไรเป็นสิ่งแรก”

1. คำตอบคือ อนาคตใหม่มีแนวนโยบายชัดเจนที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญแนะนำประเทศไทยเข้าสู่ระบอบประชาธิปไตยอีกครั้ง ซึ่งกระบวนนี้เราเชื่อว่า จะทำได้ดีที่สุดต้องผ่านระบบรัฐสภา

ถ้าทำผ่านรัฐสภาไม่ทันจะทำให้ประชาชนไม่มีทางเลือก ถ้าประชาชนเห็นว่าระบบรัฐสภาใช้การไม่ได้ ทางออกทางเดียวก็คือลงถนน ซึ่งอาจจะเกิดความรุนแรงจนนำมาสู่การเสียเลือดเสียเนื้อของประชาชน เราไม่ต้องการให้การเมืองลงสู่ถนน

ดังนั้น จะต้องเริ่มจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ การล้มล้างผลของการรัฐประหาร ปฏิรูปกองทัพ ปฏิรูปศาล ปฏิรูปองค์กรอิสระ ซึ่งเรื่องต่างๆ เหล่านี้เอามารวมกันแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่เรามีความเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ เราถึงมาตั้งพรรคการเมืองเพื่อจะยืนยันว่านี่เป็นทางออกที่ดีที่สุดของสังคมไทย

2. พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อเข้าเลือกตั้งเพื่อส่งใครไปเป็นสมาชิกสภา หรือส่งใครเป็นนายกรัฐมนตรี แต่พวกเราตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทย

นั่นคือความฝัน การเลือกตั้งจึงเป็นทางผ่าน ไม่ใช่เป้าหมายที่ตั้งไว้

 

คําถาม…ถ้าไม่นับคำว่าประชาธิปไตย อนาคตใหม่ให้ความสำคัญกับอะไร

3. พรรคอนาคตใหม่ให้ความสำคัญกับคนไทยเท่าเทียมกัน ประเทศไทยเท่าทันโลก นี่คือวิสัยทัศน์ของพรรคอนาคตใหม่

เวลาพูดถึงความเท่าเทียมกัน อนาคตใหม่หมายถึงความเท่าเทียมกันใน 3 มิติ

เศรษฐกิจ สังคม การเมือง

ความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ หมายถึงการลดความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยกับคนจน ที่ช่องว่างวันนี้มันใหญ่มหาศาล ถ้าวัดกันด้วยทรัพย์สินของคน 1% ในโลก ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจมากที่สุดในโลก เราเห็นกฎหมายผูกขาดทางการค้า เรามีสัมปทานที่เอื้อให้กลุ่มทุนที่ผูกขาดไม่กี่กลุ่มสร้างตัวมีความมั่งคั่งเป็นแสนล้านได้ในเวลาเพียง 10-20 ปี ในขณะที่คนจนไม่มีโอกาสทางเศรษฐกิจ ไม่มีโอกาสที่จะเติบโต ไม่มีโอกาสที่จะสร้างตัวในช่วงชีวิตของตัวเอง

ในด้านสังคมมีความไม่เท่าเทียมกันในการเข้าสู่ความยุติธรรม ความยุติธรรมในประเทศนี้มีไว้สำหรับคนรวยและคนมีอำนาจ คนจนไม่ได้รับความยุติธรรม จุดที่สุดของคนจนและคนไร้อำนาจ จะอยู่ในคุกในตะราง การปฏิบัติยังไม่เสมอภาคกันต่อหน้ากฎหมายคือความเหลื่อมล้ำทางสังคมที่สำคัญที่สุด

สุดท้าย ความเหลื่อมล้ำทางด้านการเมือง เราเห็นชัดประเทศนี้ไม่ได้มองว่าคนทุกคนมี 1 สิทธิ์ 1 เสียงเท่ากัน เสียงของคนไม่มีความหมายเท่ากัน เสียงของคนจนไม่ถูกได้ยิน เสียงของประชาชนไม่ได้รับการเคารพ

เมื่อไหร่ก็ตามที่ชนชั้นนำหรืออภิสิทธิ์ชนรู้สึกว่าถูกสั่นคลอนก็จะใช้กลไกรัฐประหารมายึดอำนาจกลับคืนสู่ตัวเขาเอง ไม่ยอมแบ่งปันอำนาจซึ่งเป็นของประชาชนให้กับประชาชน

ดังนั้น เวลาเราพูดถึงคนเท่าเทียมกัน เราหมายถึง 3 มิตินี้

คำถามที่ธนาธรไม่อยากตอบ คือไม่อยากเปรียบเทียบตัวเองกับนักการเมืองคนอื่น เมื่อถามว่าอะไรในตัวธนาธรที่นักการเมืองคนอื่นไม่มี ตัวอย่างนักการเมือง 2 ท่านคือ จาตุรนต์ ฉายแสง แห่งไทยรักษาชาติ และชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จากเพื่อไทย

 

คําถามที่ว่าอยากเป็นผู้นำแบบไหน

ธนาธรตอบว่า ผมเป็นผู้นำแบบตรงไปตรงมา ไม่มีกลเกมการเมืองอะไรเยอะแยะ ทำไม่ค่อยเป็น ไม่คิดเกมการเมือง 3-4 ชั้น เดินตรงๆ คิดยังไงพูดอย่างนั้น เมื่อมีอำนาจก็ทำอย่างนั้น พูดในสิ่งที่ตนเองเชื่อ ไม่พูดในสิ่งที่ไม่เชื่อ แล้วก็ทำในสิ่งที่พูดให้ได้ การเมืองใหม่หน้าตาเป็นแบบนี้

4. ส่วนเรื่องผู้นำประเทศ มีความเห็นว่าในเวลานี้เรามีความจำเป็นจริงๆ ที่ต้องมีผู้นำประเทศที่กล้าชนกับปัญหาที่ต้นตอ การมีนโยบายที่จะแก้ปัญหาแต่ละจุด ไม่พอต่อการแก้ไขปัญหาของประเทศ เพราะปัญหาของประเทศต้องแก้ที่โครงสร้าง ไม่ใช่นโยบายใดนโยบายหนึ่ง แต่คนไม่กล้าพูด มันอยู่ในโครงสร้างอุปถัมภ์เกือบทั้งสิ้น

เราต้องทำให้สังคมเชื่อว่าการจัดการโครงสร้างที่ไม่เป็นธรรมเป็นภารกิจอันดับ 1 การเลือกตั้งครั้งนี้คือโอกาสในการปักธงความคิดนี้ให้ได้ การไปแยก แก้ปัญหาย่อยๆ ทีละส่วนไม่ช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้จริงในประเทศไทย

 

ธนาธรและกลุ่มนำ
รู้ทั้งสาเหตุและปัญหาที่จะเกิด…
แต่ก็เลือกที่จะทำ

ทีมวิเคราะห์มองว่า คนหนุ่มอย่างธนาธรที่เคยสนใจการเมืองตั้งแต่เป็นนักศึกษา มีความเข้าใจปัญหาการเมืองในประเทศไทย และลักษณะสังคมไทย ปัญหาที่สะสมมาอย่างยาวนานในระบบอุปถัมภ์

วันนี้เมื่อเขาออกไปต่างประเทศและประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจ ธนาธรรู้แล้วว่าโลกเปลี่ยนเร็วมากและมีทิศทางไปทางใด ประเทศใดที่ปรับตัวช้าจะได้รับความเสียหาย ประชาชนจะได้รับความทุกข์ยาก คนยิ่งจนจะยิ่งลำบากที่สุด

สิ่งนั้นปรากฏเป็นจริงในรอบ 4-5 ปีนี้ ไม่เพียงคนจน แต่คนที่มีธุรกิจเป็นเจ้าของกิจการ ก็ล้มด้วย

ดังนั้น เราจะเห็นคนฆ่าตัวตายตั้งแต่คนทำการเกษตร เจ้าของอู่รถ คนชั้นล่าง คนชั้นกลาง ต้องปรับตัวและอดทนให้เพียงพอ เพราะคลื่นของความยากลำบากลูกนี้มาต่อเนื่องยาวนาน วันนี้คนทำมาหากินทุกอาชีพรู้สึกได้

แต่กลุ่มทุนขนาดใหญ่กลับรวยขึ้น

กลุ่มนำของอนาคตใหม่รู้ทุกอย่าง แต่ก็เลือกจะทำแบบนี้ แบบที่บางคนเรียกว่า อยู่ไม่เป็น แกว่งเท้าหาเสี้ยน แต่สำหรับคนหนุ่มสาวที่มีอุดมการณ์ แต่ละยุค นี่คือการเสียสละ แม้เป็นการผจญภัยบ้างก็เพราะเรื่องประเทศชาติ ผลประโยชน์มีมูลค่ามหาศาล คนที่คอยตักตวง ต้องต่อต้าน

แต่จะปล่อยให้คนทั้งประเทศถูกกด ถูกโกงตลอดไปได้อย่างไร

 

อนาคตใหม่…
ตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศไทย
พวกกลุ่มอำนาจเก่า ไม่ยอมเด็ดขาด

ขณะที่อนาคตใหม่ อาจมีความหวังว่าจะเปลี่ยนประเทศไทยให้ทันโลก ทีมงานเราบางคนมองว่า ช้าไปแล้ว หลังรัฐประหาร 2549 เราก็หยุดการพัฒนา สิ่งที่เปลี่ยนไปดูเหมือนทันสมัย เป็นเพราะแรงผลักดันทางการค้า การหากำไรจากการขายเทคโนโลยี ซึ่งรัฐควบคุมไม่ได้

ที่ธนาธรบอกว่าต้องแก้ที่โครงสร้าง เพราะนอกจากการเมืองที่ถอยหลัง …เราจะพบว่าประเทศเรามีปัญหาทุกด้าน ทั้งคนที่ทำอาชีพเกษตร และอุตสาหกรรมวันนี้ก็อาการหนัก กลุ่ม SMEs ล้มเป็นแถว

ด้านสิ่งแวดล้อมก็เลวร้ายลงทั้งอากาศและน้ำ ปีนี้ภัยแล้งน่าจะหนักกว่าปีอื่นๆ ซึ่งเราจะพบว่ายังไม่มีการเตรียมการอย่างเป็นระบบ น้ำในแม่น้ำโขงยังต้องขึ้นอยู่กับจีนว่าจะปล่อยน้ำจากเขื่อนลงมาหรือไม่ และก็ยังไม่มีนโยบายในการแก้ปัญหาของรัฐบาล

นโยบายโปรยทานผ่านออนไลน์แจกเงินทีละเล็กละน้อยเหมือนการหาเสียง แบบตกเขียวกับคนจน ทำมาก่อนเลือกตั้ง และยังทำอยู่ ซึ่งไม่สามารถยับยั้งการล้มลงของคนที่ประกอบอาชีพต่างๆ ได้ แต่ประชาชนไม่มีโอกาสเลือกผู้นำที่มีความสามารถเข้ามาบริหารประเทศได้

เพราะขณะนี้รัฐธรรมนูญกลายเป็นกฎเกณฑ์ที่ผูกขาดว่ามีบางคนบางกลุ่มเท่านั้นที่จะเข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี ถึงบริหารประเทศไม่เป็น แต่ก็อยากเป็นนายกฯ อยากเป็นรัฐมนตรี

นับตั้งแต่ 2557-2562 พวกเขากำลังหามหมู อนาคตใหม่เอาคานเข้ามาสอด จึงต้องโดนเล่นงานหลายคดี แต่คดีอิลลูมินาติ เขาไม่เปิดไต่สวนหรอก ขืนเปิดก็เจอ ด่าสวนกลับถ่ายทอดไปทั่วประเทศ เขาคงผ่านอันนี้เพื่อเล่นคดีอื่น

 

อนาคตใหม่จะปรับยุทธศาสตร์อย่างไร?

ถูกกดดันมาถึงวันนี้…ธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ได้ประเมินถูกต้อง ธนาธรรู้ว่าจะต้องถูกกำจัด อ.ปิยบุตร แสงกนกกุล รู้ว่าจะมี lawfare ที่ใช้กฎหมายมากำจัดพรรค และสิ่งนั้นเกิดขึ้นกับพวกเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อกลุ่มอำนาจเก่าพบว่าแนวทางนโยบายของพรรคอนาคตใหม่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของพวกเขา แต่เมื่อเป็นแค่ฝ่ายค้านก็ยังไม่ถึงขั้นรัฐประหาร

ทีมวิเคราะห์คาดว่า พวกเขาจะลุยต่อไปตามช่องทางที่เปิดให้แบบไม่มีทางเลือก

1. ในเมื่อทางยุทธศาสตร์เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่การเข้าไปในสภาผู้แทนฯ อย่างนั้นระบบรัฐสภาและ ส.ส.จึงเป็นเส้นทางการต่อสู้เส้นทางหนึ่ง การมี ส.ส.ลดลงบ้าง ไม่ใช่ปัญหาทางยุทธศาสตร์

ยุทธศาสตร์คือจะต้องดำรงแนวทางการต่อสู้ทางรัฐสภาไว้ รักษาอุดมการณ์ของอนาคตใหม่ไว้ รวบรวมและส่งเสริมความก้าวหน้าของเยาวชนที่เลือกพรรคอนาคตใหม่ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา 2.5 ล้านคน สร้างความมั่นใจให้กับคนทำงานที่ประกอบอาชีพต่างๆ รอคอยความหวังอีกหลายล้าน

ดังนั้น พรรคหดได้ ขยายได้ แต่อุดมการณ์คงเดิม ทำงานในสภาได้ การเป็นฝ่ายค้าน ไม่ต้องใช้เสียง ส.ส.จำนวนมาก แต่เน้นคุณภาพ และร่วมกับฝ่ายค้านอื่นๆ

2. ถ้ามีการยุบพรรคอนาคตใหม่จริงๆ ตามที่หลายคนคาดไว้ ก็สามารถก่อตั้งพรรคใหม่ รวมกำลังกันในชื่อใหม่ บทเรียนของพรรคไทยรักไทยจนถึงเพื่อไทยก็มีมาแล้ว

ส่วนกรรมการพรรคถ้าถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง ทำงานในระบบสภาไม่ได้ก็มีการเมืองภาคประชาชน ซึ่งขณะนี้มีขนาดใหญ่กว่าการเมืองในสภาเยอะ สามารถมีเวทีให้เล่นมากมาย

การเล่นเกมนี้ไม่สามารถเล่นแบบซื่อๆ ตรงๆ แต่ต้องรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมฝ่ายตรงข้ามและคอยหลบหลีกให้ดี แต่ไม่จำเป็นต้องไปทำสิ่งชั่วร้ายตามเขา

เรื่องงูเห่าและลิงที่อยากกินกล้วยไม่ถึงกับเป็นเรื่องคอขาดบาดตาย แต่งูเห่าและลิงจะต้องตายในอนาคตแน่นอนเพราะในทางการเมืองที่พัฒนาต่อไป การด่าประณามอย่างมีเหตุผลที่จะทำให้พวกเขาไม่ได้เกิดทางการเมืองอีก แม้แต่การเลือกตั้งท้องถิ่นก็ยังยากที่จะเกิด

นี่เป็นโอกาสที่จะขยายพรรค คัดเลือกคน อย่างมีคุณภาพ มีโอกาสลงสู่ท้องถิ่นต่างๆ

3. ถึงเวลาเล่นการเมืองแบบ 2 ขา คือทั้งในสภาและนอกสภา

คำว่านอกสภามีความหมายกว้างกว่าลงถนน

เพราะไม่ได้หมายความว่าต้องลงมาเดินบนถนน มากินมานอนชุมนุมอยู่เหมือนเก่า อาจมาเป็นครั้งคราวเมื่อมีประเด็นสำคัญ แต่การเปิดโปงนโยบายการกระทำที่ไม่ถูกต้องจะกลายเป็นภารกิจหลัก มีคนที่มีเวลาว่างมากมาย มาช่วยกันค้นคว้าเจาะลึกเพราะว่าแกนนำและสมาชิกจำนวนหนึ่งว่างงานในสภาอยู่แล้ว ที่สำคัญไม่มีกฎหมายที่ไหนห้ามประชาชนมาออกรายการโทรทัศน์หรือพูดผ่านสื่อ

ประชาชนที่เดือดร้อน กำลังทุกข์ยาก พวกเขาก็มองหาว่าเพราะอะไร? ใครเป็นคนทำให้เกิดเรื่องแบบนี้

คาดว่าจะมีการสร้างกลุ่มย่อยของประชาชนที่อยู่นอกกฎเกณฑ์ สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก เพราะทั้งองค์กรอิสระ ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่สามารถเข้ามาตัดสินได้ ตัวอย่างเช่น วีระ สมความคิด การเข้ามาผูกพันอยู่ในระบบโดยเป็นนักการเมืองหรือข้าราชการ มีรัฐธรรมนูญ มีกฎหมายมาตราต่างๆ ควบคุม ซึ่งร่างมาอย่างละเอียด ก็เหมือนหลุมพรางซึ่งจะทำให้คนเข้ามาสู่วงการเมืองต้องตกลงไปตายหรืออย่างน้อยก็บาดเจ็บ ทำให้คนตั้งใจดี คนขยัน ไม่กล้าเข้า

กลายเป็นโอกาสของพวกโกงบ้านกินเมือง ด้านได้ อายอด

 

พรรคอนาคตใหม่เองแม้จะไม่สามารถควบคุมกลุ่มอิสระที่เคลื่อนไหวได้ แต่สามารถเลือกเกมที่จะเล่น จะเจาะลึกเข้าไปตรงไหนก็ได้ ทุกฝ่าย ทั้งนิติบัญญัติ บริหาร ตุลาการ องค์กรไหนก็ได้ กระทรวงไหนก็ได้

การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น เป็นสิทธิอันชอบธรรมที่ประชาชนจะขุดคุ้ยเปิดโปงและแจ้งความดำเนินคดีได้

เมื่อเครือข่ายประชาชนกว้างขวางขึ้นด้วยระบบสื่อสารสมัยใหม่ที่ผ่านโซเชียลมีเดีย จะไม่มีใครปกปิดความผิดไว้ได้ตลอดไป

เรื่องแบบนี้ทีใครทีมัน ทุกอย่างมีทางออกโดยธรรมชาติ

การเคลื่อนไหวของฝ่ายประชาชนจะเป็นปัจจัยหลักในการชี้ขาดเกมนี้ ทั้งการแก้รัฐธรรมนูญ และการต่อต้านการโกง