อนาคตใหม่สุดระทึก อิลลูมินาติ-กู้เงิน 191 ล้าน สองคดีเสี่ยง “ยุบพรรค” ศาล รธน.นัดชี้ 21 ม.ค.63

ส่งท้ายปีเก่า 2562 ต้อนรับปีใหม่ 2563

ปฏิบัติการกระชับวงล้อมพรรคอนาคตใหม่ ไม้เบื่อไม้เมากับกลุ่มสืบทอดอำนาจ คสช. ที่ดำเนินการมาตลอดนับแต่หลังเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 หดแคบลงมาถึงจังหวะชี้เป็นชี้ตาย

“ยุบ-ไม่ยุบ”

ล่าสุดเพจพรรคอนาคตใหม่โพสต์ข้อความระบุ “มาแรงแซงทางโค้งอีกคดี ศาลรัฐธรรมนูญไม่ยอมให้เปิดไต่สวน เตรียมนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีอิลลูมินาติ ยุบพรรคอนาคตใหม่”

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2562 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องของนายณฐพร โตประยูร ที่ยื่นขอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ ตัดสิทธิ์ทางการเมืองผู้เกี่ยวข้องทุกคน ข้อหาล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

ส่วนหนึ่งในคำร้องระบุ เมื่อพิจารณาสัญลักษณ์พรรคอนาคตใหม่ที่มีลักษณะสามเหลี่ยมด้านเท่ากลับหัว

พบมีความเหมือนกับสมาคม “อิลลูมินาติ (Illuminati)” ซึ่งก่อตั้งที่เมืองอินกอลสตาดห์ในประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ.1776 โดยอดัม ไวส์ฮอพ ผู้ยึดปรัชญาความคิดอิสระ ไม่ยึดติดกับความเชื่อเก่าๆ ที่สั่งสอนกันมาทั้งเรื่องระบบการปกครองและศาสนา เพื่อเข้าสู่ยุคการปกครองแบบใหม่

เชื่อกันว่าสมาคมอิลลูมินาติอยู่เบื้องหลังล้มล้างการปกครองระบบกษัตริย์ของหลายประเทศในยุโรป

ข้อเท็จจริงดังกล่าว เมื่อนำมาพิจารณาพบว่า พรรคอนาคตใหม่มีแนวนโยบายยึดถือปรัชญาความคิดขององค์กรดังกล่าว

จึงเป็นพรรคการเมืองที่เป็นอันตรายต่อระบบการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

 

นอกจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่จากกรณีกู้เงินนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคตัวเอง จำนวน 191 ล้านบาท

คดีอิลลูมินาติเป็นอีกคดี ต้องจับตาลุ้นระทึก

พรรคอนาคตใหม่มองว่าการนำสัญลักษณ์ของพรรคไปเชื่อมโยงกับสมาคมอิลลูมินาติ อยู่ในหมวดหมู่ทฤษฎีสมคบคิด หรือจับแพะชนแกะ

ขณะที่โลกโซเชียลแสดงความเห็นว่าเป็นประเด็นคำร้องที่แปลกและน่าขบขัน

มีการเปิดเผยด้วยว่า หน่วยงานของรัฐอย่างเช่น สำนักงานประกันสังคม (สปส.) หรือตราโรงเรียนบางแห่ง โลโก้สินค้า ป้ายต่างๆ ตามท้องถนน ฯลฯ ก็ใช้รูปสามเหลี่ยมเป็นสัญลักษณ์

หลายคนจึงเชื่อว่าประเด็นนี้ไม่น่านำมาใช้ยุบพรรคได้

กระนั้นก็ตาม ในเอกสารคำร้องมีอีกหลายประเด็นล่อแหลมนอกเหนือจากโลโก้พรรค เช่น

การแสดงความเห็นและการให้สัมภาษณ์ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคในหลายครั้ง การเป็นนายทุนนิตยสาร “ฟ้าเดียวกัน” การแสดงความเห็นทางวิชาการของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาฯ พรรค และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค

มีการระบุว่า ในการสัมภาษณ์ของนายธนาธร เคยกล่าวถึงการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับว่า “ไม่แก้ไข แก้ไขไม่ได้ ฉีกเลย ล้ม”

ซึ่งผู้ร้องอ้างว่าเป็นการล้มการปกครอง เพราะนายธนาธรไม่เคยบอกว่าจะยกเว้นหมวดพระมหากษัตริย์ ทั้งที่ในการรัฐประหารที่ผ่านมามีการยกเลิกรัฐธรรมนูญ แต่ยังคงหมวดพระมหากษัตริย์เอาไว้

คำร้องยังกล่าวถึงกรณีนายปิยบุตรเสนอนโยบายปักธงประชาธิปไตยว่าให้มีศาลอาญาระหว่างประเทศ เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน

ผู้ร้องมองว่าการทำเช่นนี้เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของพรรคอนาคตใหม่ที่ต้องการจะลดบทบาทสถาบันเบื้องสูง คิดล้มระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขประกอบกับข้อบังคับพรรคอนาคตใหม่

ใช้ข้อความ “หลักประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ” โดยไม่มีคำว่า “อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”

เป็นการแสดงออกถึงการไม่ยอมรับแนวทางการปกครองดังกล่าว

 

ศาลรัฐธรรมนูญมีหนังสือแจ้งพรรคอนาคตใหม่เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2562 ว่า ศาลจะไม่เปิดไต่สวนคดี “อิลลูมินาติ”

กองโฆษกพรรคอนาคตใหม่เผยแพร่เอกสารของศาลรัฐธรรมนูญที่ส่งถึงพรรค ในฐานะผู้ถูกร้องที่ 1 นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ถูกร้องที่ 2 นายปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้ถูกร้องที่ 3 และคณะกรรมการบริหารพรรค ผู้ถูกร้องที่ 4

เนื้อหาตอนหนึ่งระบุ ผู้ถูกร้องทั้ง 4 ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนพยานและคำร้องขอยื่นบัญชีระบุพยาน ลงวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562

ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาเห็นว่า คดีนี้มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้โดยไม่จำเป็นต้องทำการไต่สวน ทั้งนี้ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง

จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องขอทั้งสองฉบับ

ในช่วงเวลาใกล้กัน 24 ธันวาคม ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางมีคำสั่งยกฟ้องคดีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ยื่นฟ้อง 7 กกต. ในความผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง มาตรา 69 และเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 83, 89

กรณีกล่าวหานายธนาธรถือหุ้นสื่อ โดยแสวงหาข้อเท็จจริงยังไม่สิ้นกระแสความ แต่กลับเร่งรัดการลงมติและยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ

เนื่องจากศาลเห็นว่าคำร้องโจทก์ เป็นคำร้องเดียวกับที่ยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งศาลได้มีคำวินิจฉัยไปแล้วว่าเป็นอำนาจของ กกต. จึงเห็นว่าซ้ำซ้อนกับการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ พิพากษายกฟ้อง

แกนนำพรรคอนาคตใหม่กล่าวถึงคดีอิลลูมินาติในชั้นศาลรัฐธรรมนูญว่า ไม่ต้องเตรียมตัวอะไร หากศาลเปิดให้ไต่สวนเราจึงต้องเตรียมตัว เพราะต้องมีการเรียกพยานและหลักฐาน แต่เมื่อไม่มีการเปิดไต่สวน จึงต้องรอคำตัดสินเท่านั้น

แล้วห้วงเวลาแห่งการลุ้นระทึกก็ถูกกำหนดชัดเจน มีการเปิดเผยหลังประชุมตุลาการศาลรัฐธรรมนูญวันที่ 25 ธันวาคมที่ผ่านมาว่า ศาลรับพิจารณาคำร้องที่นายณฐพร โตประยูร ยื่นร้องขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49

ว่าการกระทำของพรรคอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยบุตร แสงกนกกุล และคณะกรรมการบริหารพรรค ผู้ถูกร้อง 1-4 ใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หรือไม่

ศาลพิจารณาแล้วเห็นว่า คดีนี้มีพยานหลักฐานเพียงพอพิจารณาวินิจฉัยได้โดยไม่จำต้องไต่สวน ทั้งนี้ ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง ศาลได้อภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัย และ

นัดอ่านคำวินิจฉัย 21 มกราคม 2563

นอกจากนี้ ศาลยังมีคำสั่งรับคำร้อง

ตามที่ กกต.ยื่นขอให้พิจารณาวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) ประกอบมาตรา 72 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560 กรณีกระทำการฝ่าฝืนมาตรา 72 พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560

ที่ห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมืองรับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรจะรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

โดยจะแจ้งให้ กกต.ทราบ และส่งสำเนาคำร้องให้กับพรรคอนาคตใหม่ชี้แจงข้อกล่าวหาภายใน 15 วันนับแต่วันได้รับสำเนาคำร้อง

เท่ากับว่าคดียุบพรรคอนาคตใหม่ทั้ง 2 คดีจะเข้าสู่กระบวนการตัดสินชี้ขาดตั้งแต่เดือนแรกปี 2563

น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่กล่าวว่า เรื่อง “ยุบพรรค” ไม่อยู่ในวิสัยที่เราจะตอบได้ เป็นอำนาจวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ

วันนี้สิ่งที่ทำได้คือทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ต้องทำทุกอย่างเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส.ส.ไปอยู่พรรคใหม่ สมาชิกไปสมัครพรรคใหม่ ทำให้เหมือนว่าพรรคอนาคตใหม่ยังคงอยู่ เพื่อให้ผู้มีอำนาจเห็นว่าการยุบพรรคไม่มีความหมาย

เพราะอนาคตใหม่ไม่ใช่แค่พรรคที่มีผลทางกฎหมาย แต่คือคนทุกคนที่รวมตัวกันด้วยอุดมการณ์

ผลตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาอย่างไร รอดทั้ง 2 คดี หรือถูก “ยุบพรรค” ด้วยคดีใดคดีหนึ่ง เป็นเรื่องต้องจับตาลุ้นระทึกกันต่อไป

ด้วยเหตุนี้พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้ฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อย่างสบายใจแน่นอน