ภาพยนตร์ / นพมาส แววหงส์ / FORD V FERRATI ‘ศึกชิงสนามรถแข่ง’

นพมาส แววหงส์

ภาพยนตร์/นพมาส แววหงส์

FORD V FERRATI

‘ศึกชิงสนามรถแข่ง’

 

กำกับการแสดง James Mangold

นำแสดง Matt Damon Christian Bale Jon Bernthal Caitriona BalfeJosh Lucas Noah Jupe

Tracy Letts

 

“ณ จุดหนึ่งเมื่อถึง 7,000 รอบต่อนาที ณ ที่ซึ่งทุกสิ่งทุกอย่างมลายหายไป ตัวเครื่องยนต์กลายเป็นสิ่งไร้น้ำหนัก อยู่ๆ ก็หายวับไปเสียเฉยๆ ที่เหลืออยู่คือร่างกายที่เคลื่อนผ่านกาลเวลาและอวกาศ… เจ็ดพันรอบต่อนาที…นั่นคือจุดที่คุณต้องก้าวไปถึง คุณรู้สึกได้ว่ามันกำลังจะมา มันคืบเข้ามาใกล้คุณทุกที มันตั้งคำถามให้คุณตอบ…คำถามเดียวที่เป็นเรื่องสำคัญจริงๆ…ว่าคุณคือใคร”

เสียงเล่าของแชมป์แข่งรถ แคร์รอล เชลบี (แมตต์ เดมอน) ผู้ที่ได้รับคำแนะนำของแพทย์ให้เกษียณตัวเองในขณะที่ยังทำได้ เนื่องจากมีความเสี่ยงว่าความเครียดขณะแข่งรถจะทำให้เขาหัวใจวายได้ นี่เป็นคำอธิบายให้เราเข้าใจความรู้สึกนึกคิดในใจของนักซิ่งท้ามฤตยูด้วยการก้าวล่วงผ่านขีดของความเร็วสูงสุดที่กำหนดสำหรับรถแข่ง เพื่อเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกในสนาม

คำอธิบายนี้บ่งนัยเชิงอัตถิภาวะ หรือการมีอยู่เป็นอยู่ของตัวเราในโลกนี้

และทำให้คนดูอย่างเราๆ เข้าถึงจิตวิญญาณของคนที่รักความเร็วที่พาตัวเองทยานไปข้างหน้าเหมือนจะเหินหาวหรือเหาะได้

มีอยู่ตอนหนึ่งที่นักแข่งรถเหลือบตามองดูเข็มไมล์ที่ขยับเข้าสู่ขีดแดง ณ 7,000 รอบต่อนาที แล้วผ่านเข้าสู่บริเวณอันตรายสีแดงฉานไปถึงเลข 9,000 ซึ่งเป็นขีดสูงสุด…

ข้อความข้างต้นกลับมาย้ำเตือนให้เข้าใจสภาพจิตใจของมนุษย์ที่ผงาดขึ้นท้าทายและพยายามเอาชนะสิ่งที่เป็นไม่ได้

 

นั่นคือชื่อหนังเรื่องนี้ที่ใช้สำหรับประเทศเม็กซิโก…Against the Impossible

Ford v Ferrari ยังเรียกกันด้วยอีกชื่อว่า Le Mans ’66 ในหลายๆ ประเทศส่วนใหญ่

สำหรับประเทศไทย หนังเรื่องนี้ใช้ชื่อเดียวกับที่นำออกฉายในอเมริกา

และเป็นหนังที่สนุกมากเรื่องหนึ่ง แม้แต่ในหมู่ผู้ที่ไม่ได้รักกีฬาประเภทนี้

ดูแล้วได้รู้หลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เคยรู้ และเป็นสิ่งที่ตรงกับสุภาษิตไทย “รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม”

แปลว่าความรู้ดีกว่าความไม่รู้ เพราะความรู้ไม่ได้หนักถึงขนาดต้องแบกต้องหาม

หรือเหนื่อยยากจนบ่าลู่สักหน่อย

 

หนังพาเรากลับไปสู่ทศวรรษ 1960 โดยนำไปสู่เหตุการณ์สำคัญคือการแข่งรถที่ถือว่ายิ่งใหญ่ที่สุดในโลก คือ 24 Hours of Le Mans ใน ค.ศ.1966 ในฝรั่งเศส

ในการแข่งรถเลอมังส์อย่างทรหดตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงนี้ รถแข่งที่เข้าเส้นชัยชนะเลิศปีแล้วปีเล่าคือ รถเฟอร์รารี่ ของบริษัทรถอิตาลี

บริษัทรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของอเมริกา คือฟอร์ด ขณะนั้นบริหารโดย เฮนรี่ ฟอร์ดที่สอง ผู้เป็นหลานปู่ของเฮนรี่ ฟอร์ด ผู้ก่อตั้ง กำลังประสบปัญหาถึงขั้นขู่จะปิดกิจการ

เฮนรี่ ฟอร์ด ให้โจทย์สำหรับทีมผู้บริหารและพนักงานไปหาคำตอบ เพื่อระดมความคิดในการปรับปรุงกิจการ

คำตอบหนึ่งที่ได้รับกลับมาคือการเข้าสู่สนามแข่งรถเพื่อสร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้แบรนด์

เฟอร์รารี่เป็นผู้นำในสนามแข่งอยู่ขณะนั้น แต่ก็เป็นกิจการเล็กๆ ในครอบครัว ที่ผลิตเครื่องยนต์และชิ้นส่วนทั้งหมดด้วยมือ และมีส่วนแบ่งในตลาดรถยนต์เป็นเพียงเศษเสี้ยวเดียว หรือที่เรียกว่า niche market

เอนโซ เฟอร์รารี่ เจ้าของกิจการ สนใจอยู่แต่กับการพัฒนาและผลิตรถแข่งออกขายเท่านั้น และกำลังประสบปัญหาในเรื่องเงินทุน

ฟอร์ดส่งคนไปยื่นข้อเสนอการรวมกิจการ ด้วยจำนวนเงินที่ฟอร์ดเห็นว่าเป็นธรรมที่สุด

แต่เอนโซ เฟอร์รารี่ ก็ปฏิเสธอย่างไม่ไยดี

แถมฝากคำตอบกลับมาให้เฮนรี่ ฟอร์ด ว่า เขาไม่ใช่เฮนรี่ ฟอร์ด ตัวจริง

เป็นแค่ “เฮนรี่ ฟอร์ด ที่สอง”

คำว่า “ที่สอง” ถือเป็นคำสบประมาทอย่างแรง เพราะหมายความว่า ไม่ใช่ผู้ชนะเลิศ แต่ได้ครองแค่ตำแหน่งที่สอง เป็นรองมาตลอด

และนั่นทำให้เฮนรี่ ฟอร์ด โกรธจนลมออกหู จนประกาศสู้แบบหัวชนฝา โดยสร้างทีมพัฒนารถแข่งใต้แบรนด์ฟอร์ด ด้วยการทุ่มทุนแบบไม่จำกัดวงเงิน พัฒนารถแข่งที่น้ำหนักเบาที่สุด และวิ่งได้เร็วที่สุดที่จะเข้าเส้นชัยได้ก่อนคนอื่นในสนามแข่งรถ

 

แคร์รอล เชลบี (แมตต์ เดมอน) นักแข่งรถอเมริกันคนเดียวที่เคยเข้าเส้นชัยบนสนามแข่งเลอมังส์ซึ่งเป็นนักแข่งคนเดียวที่เขาเชื่อมั่นว่าจะนำพาฟอร์ดเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกได้

เคน ไมลส์ (คริสเตียน เบล) เป็นนักแข่งมือฉมังที่เข้าใจเรื่องเครื่องยนต์กลไกเป็นอย่างดี และถึงพร้อมซึ่งจิตวิญญาณของผู้ชนะบนสนามแข่งรถ

ข้อเสียที่ยากจะก้าวข้ามไปได้ของเขาคือ เขาเป็นคนเลือดร้อน หัวแข็ง ไม่ยอมใคร และไม่มีใครควบคุมได้

ความ “นอกคอก” (beatnik) ของเขา ไม่ใช่ภาพลักษณ์ของแบรนด์ฟอร์ดที่บริษัทต้องการ

เชลบีต้องงัดกลยุทธ์ทุกรูปแบบมาเพื่อหาทางให้ไมลส์ขับรถแข่งในนามฟอร์ดให้ได้

บุคคลสำคัญที่จะกลายเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการรถยนต์ต่อมา ที่ดูเหมือนจะอยู่ข้างเดียวกับเขา คือ ลี อิอาคอคคา (จอน เบิร์นธัล) แต่ผู้บริหารที่ขัดขวางเขาทุกทางที่ทำได้ คือ เลโอ บีบี (จอช ลูคัส)

ทำให้ทีมรถแข่งของฟอร์ด ไม่เพียงแต่มีคู่แข่งภายนอก คือ เฟอร์รารี่ เท่านั้น แต่ยังเป็นอริ งัดข้อ และวางหมากขัดขากันเองจากภายในบริษัทด้วย

 

หนังวางพล็อตให้มีความหลากหลายในประเด็นต่างๆ ที่ไม่ได้เป็นแค่เรื่องการแข่งขันระหว่างฟอร์ดกับเฟอร์รารี่ หรือการแข่งรถในสนามเท่านั้น แต่ยังมีการแข่งขันภายในองค์กรเดียวกัน ความขัดแย้งในหมู่เพื่อนฝูง รวมทั้งเรื่องราวดรามาภายในครอบครัว

คริสเตียน เบล เล่นบทได้ยอดเยี่ยมเช่นเคย ในบทของคนขี้โมโหที่ปึงปังเป็นฟืนเป็นไฟได้กับทุกเรื่อง แต่ก็มีครอบครัวที่อบอุ่นและน่ารัก มีลูกชาย (โนอาห์ จูเป) ที่รักและเทิดทูนพ่ออย่างยิ่ง มีภรรยา (ไคทริโอนา บัลเฟ) ที่เข้าอกเข้าใจและรู้ทันสามีเป็นที่สุด

บทบาทของนักแสดงชายฝีมือเยี่ยมสองคนที่กลายเป็นเพื่อนเกลอหรือสหายคู่ใจกัน ก็ได้ใจคนดูไปมาก

เป็นหนังที่ทั้งสนุก ตื่นเต้น มีคอเมดี้ มีดราม่า เนื้อหาดี นักแสดงดี แฝงด้วยสิ่งที่น่าคิดหลายอย่าง และขยายประสบการณ์ให้ได้เข้าใจในสิ่งที่ไม่เคยเข้าใจมาก่อน

โดยเฉพาะในเรื่องของความเร็ว

มีฉากที่น่าจดจำและตลกมากอยู่ฉากหนึ่ง ตอนที่เชลบีลักพาตัวเฮนรี่ ฟอร์ด ไปนั่งทดสอบรถแข่งที่เพิ่งพัฒนา เพื่อให้เข้าใจและเข้าถึงจิตวิญญาณของการแข่งรถ

ยักษ์ใหญ่เจ้าของกิจการรถยนต์ สารภาพเป็นทำนองว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขาเข้าใจในงานที่เขากำลังทำอยู่

ไม่ลองไม่รู้ค่ะ

ถึงแม้ว่าชื่อหนังจะไม่ชวนให้อยากดูในทีแรก แต่ก็กลับกลายเป็นหนังดีที่สุดเรื่องหนึ่งที่ได้ดูในปีนี้ค่ะ