โดย ศิริวิไล คชนาค
www.facebook.com/matichontv 

ในมุมมองของคนทั่วไป กีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสม หรือ “มิกซ์ มาร์เชียล อาร์ตส์” (MMA) ซึ่งผู้ชมชาวไทยนิยมเรียกกันว่า “มวยกรง” นั้น ดูจะถูกผูกโยงอยู่กับ “ความรุนแรง”

ประเภท “หวาดเสียว ชกจริง เจ็บจริง”

แต่สิ่งที่หลายคนยังไม่ทราบ ก็คือ เร็วๆ นี้ จะมีนักกีฬา MMA หญิงสายเลือดไทย ได้ขึ้นสังเวียนใหญ่ระดับเอเชีย

เธอคนนี้มีชื่อว่า “ริกะ อิชิเกะ” ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น วัย 27 ปี สตาร์ดวงใหม่ของแวดวง MMA ที่น่าจับตาทั้งในเรื่องความสามารถเชิงการต่อสู้ ด้วยดีกรีครูสอนมวยไทย-MMA และบุคลิกหน้าตาอันสะสวยโดดเด่นสุดๆ ประดุจดารา-นางแบบ

จนไม่น่าแปลกใจกับฉายา “ยิ้มสังหาร” (Smiling Assassin) ที่เธอได้รับ

นักกีฬาสาวสวยที่มีรอยยิ้มอันทรงเสน่ห์อย่าง “ริกะ อิชิเกะ” ชื่นชอบศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก

ผ่านการฝึกฝนทั้งไอคิโด คาราเต้ เทควันโด มวยไทย และบราซิลเลี่ยนยูยิตสู จนได้แชมป์มาหลายรายการ

รวมถึงยังได้รับแรงบันดาลใจจากคุณพ่อชาวญี่ปุ่นที่เป็นครูสอนยูโด

ทั้งหมดนี้คือจุดเริ่มต้นของความฝันที่ต้องการจะเป็นนักกีฬา MMA

แม้กีฬาชนิดนี้จะถูกมองว่าเต็มไปด้วย “ความรุนแรง”

“รู้จักกับ MMA มาตั้งแต่สมัย ม.ต้นค่ะ ก็คือได้ดูจากเคเบิลทีวีที่เขาเอามาฉาย ก็รู้สึกว่าเป็นกีฬาที่เท่ดี แล้วก็วันนึง คิดว่าอยากเข้าไปสู้อยู่ในกรงเหมือนกันค่ะ ก็เลยมาเริ่มฝึกจริงจังประมาณช่วง 2-3 ปีนี้

“สำหรับ MMA นะคะ หลายๆ คนอาจจะมองว่าเป็นกีฬาที่ป่าเถื่อน เป็นกีฬาที่ใช้ความรุนแรง แต่จริงๆ แล้วมันเป็นกีฬาต่อสู้ชนิดนึงเหมือนกัน คล้ายๆ กับเทควันโด คาราเต้ แล้วเราคิดว่ามันสามารถป้องกันตัวได้ดี ได้ดีมาก อาจจะเรียกว่าที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ”

ริกะพูดถึงที่มาซึ่งทำให้เธอสนใจกีฬาชนิดนี้และแง่มุมด้านบวกของมัน ขณะเดียวกัน เธอยังอธิบายคร่าวๆ เกี่ยวกับคุณสมบัติเบื้องต้นของนักกีฬา MMA และลำดับขั้น-กระบวนการฝึกซ้อม

“จากการฝึกซ้อมนะคะ จริงๆ ถ้าเกิดบุคคลทั่วไปเนี่ย อย่างน้อยควรจะมีศิลปะการต่อสู้ที่ถนัดซักอย่างหนึ่งก่อน ก็จะง่ายขึ้น อย่างเช่น มวยไทย คาราเต้ เทควันโด หรือจะเป็นนักมวยปล้ำมาก่อน

“แล้วหลังจากนั้น พอเข้ามาฝึก เราก็จะต้องฝึกทั้งการยืนต่อยเตะ ฝึกการทุ่มทำให้คู่ต่อสู้ล้ม แล้วก็ฝึกการล็อกกับพื้น หรือที่เรียกว่าบราซิลเลี่ยนยูยิตสูค่ะ”

จากความหลงใหลในกีฬามวยกรงบวกกับการฝึกซ้อมอย่างจริงจัง ริกะเตรียมขึ้นสังเวียนอาชีพครั้งแรกในศึก “วันแชมเปี้ยนชิพ” (วันเอฟซี) เดือนมีนาคมนี้

ส่งผลให้เธอกลายเป็นนักกีฬา MMA หญิงไทยคนแรกที่ได้เข้าแข่งขันรายการดังกล่าว ส่วนคู่ต่อสู้ด่านแรกของริกะในรุ่น “อะตอมเวต” คือ “ออเดรย์ ลอร่า โบนิเฟซ” จากประเทศมาเลเซีย

“รู้สึกว่าดีใจ แล้วก็เป็นเกียรติอย่างมากนะคะ เพราะว่ารายการนี้เป็นรายการที่ใหญ่อันดับหนึ่งของเอเชีย เรียกว่าเป็นอันดับสองของโลกรองจากยูเอฟซีเลยค่ะ ได้เข้าไปอยู่ตรงนี้ ก็รู้สึกเป็นเกียรติ แล้วก็ดีใจมากๆ ค่ะ อยากให้ทุกคนร่วมเป็นกำลังใจให้ด้วยค่ะ

“MMA เนี่ยมันก็จะมีการแบ่งรุ่นน้ำหนัก คล้ายๆ กับมวยไทย มวยสากล หรือว่ากีฬาการต่อสู้อย่างอื่น ซึ่งก็อาจจะไม่มีการได้เปรียบเสียเปรียบซักเท่าไหร่นัก ส่วนเรื่องการต่อสู้เนี่ย เราก็ต้องศึกษาทุกอย่างอยู่แล้วแหละ เราก็คิดว่าเราไม่แพ้ประเทศอื่นเหมือนกันค่ะ” ริกะแสดงความมั่นใจเต็มเปี่ยม

นอกจากนี้ ริกะได้แสดงมุมมองว่า ณ ปัจจุบัน ผู้หญิงให้ความสนใจกับกีฬาการต่อสู้ MMA เพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเรียนเพื่อป้องกันตัว หรือเพื่อการแข่งขัน

“จากแต่ก่อนนะคะ ที่แบบอาจจะเรียกได้ว่าไม่มีผู้หญิงเลยค่ะ แต่ตอนนี้ก็เริ่มมีผู้หญิงที่ให้ความสนใจในกีฬาชนิดนี้มากขึ้น จะด้วยการเอาไว้สำหรับป้องกันตัว หรือสนใจในการแข่งขันมากยิ่งขึ้น

“เพราะว่าอาจจะเห็นได้จากไอดอลหลายๆ คน ที่เป็นนักกีฬามิกซ์ มาร์เชียล อาร์ตส์ ระดับโลก ที่เป็นผู้หญิงน่ะค่ะ ทั้งในรายการยูเอฟซี วันเอฟซี ถือว่าตรงนั้นก็สามารถเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆ คนอยากเริ่ม แล้วก็ลงแข่งขันค่ะ”

สําหรับเป้าหมายในการเป็นนักกีฬา MMA นั้น เจ้าของฉายา “ยิ้มสังหาร” เผยว่ายังไม่มองไกลไปถึงการชิงแชมป์ในการลงแข่งขันระดับอาชีพ ณ เวลานี้

แต่สิ่งสำคัญคือเธออยากให้ทุกคนหันมาเปิดใจยอมรับกีฬาชนิดนี้ กีฬาที่น่าจะมีความเหมาะสมกับชาวไทยอยู่ไม่น้อย

“เป้าหมายในอนาคตนะคะ คือ ตอนนี้เราอาจจะไม่ได้มองถึงขั้นจะต้องไปชิงแชมป์หรืออะไรนะคะ แต่ว่าเราอยากจะทำให้ทุกคนหันมายอมรับ แล้วก็เปิดใจกับกีฬา MMA ว่าจริงๆ แล้ว มันไม่ได้อันตราย รุนแรง หรือว่าน่ากลัวอะไรเลยน่ะค่ะ

“แล้วนักกีฬาไทยหลายๆ คน จากหลายๆ กีฬา อย่างเช่น เทควันโด คาราเต้ หรือมวยไทย ก็สามารถเข้าไปสู่ MMA ได้ค่ะ คิดว่าคนไทยน่าจะทำได้ดีไม่แพ้ต่างชาติด้วยค่ะ”

จากทุกคำพูดที่เปล่งออกมา บ่งบอกถึงตัวตนและความรักอย่างแท้จริงต่อกีฬาศิลปะการต่อสู้แบบผสมของ “ริกะ อิชิเกะ” ดาวรุ่งดวงใหม่แห่งวงการ MMA จากประเทศไทย

และเชื่อว่าด้วยรูปโฉมตลอดจนความมุ่งมั่นตั้งใจ จะทำให้เธอสามารถก้าวขึ้นมาเป็นขวัญใจของแฟนกีฬาไทยทุกคนได้ไม่ยาก