ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต/ขับชิลๆ กับ ‘แคปติวา’ ใหม่ นั่งสบาย-เด่นที่ความเงียบ

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

ขับชิลๆ กับ ‘แคปติวา’ ใหม่

นั่งสบาย-เด่นที่ความเงียบ

 

เปิดพื้นที่ให้กับรถใหม่มาหลายฉบับแล้ว

ถึงเวลากลับเข้าสู่โหมด “ทดสอบ” กันสักที

ฉบับนี้ไปลองของใหญ่ “เชฟโรเลต แคปติวา” ใหม่ ที่ได้มาขับอยู่หลายวัน เป็นตัวท็อป “Premier”

ส่วนอีก 2 รุ่นที่เหลือคือ LS (5 ที่นั่ง) แต่สามารถอัพเกรดเป็น 7 ที่นั่งได้ และ LT 7 ที่นั่ง

ภาพแรกที่เห็นคือความใหญ่โต และความเฟี้ยวด้านหน้าซึ่งออกแบบได้ทันสมัยและให้อารมณ์สปอร์ตพอสมควร

รุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจการออกแบบจากเครื่องบิน “สเทลธ์”

ยิ่งหากมองจากด้านหน้าบอกเลยว่าสวยจริงสวยจัง

โดยเฉพาะไฟส่องสว่างขณะขับขี่กลางวันแบบ LED และเป็นไฟเลี้ยวในตัว ออกแบบเป็นเส้นโค้งตามแนวฝากระโปรง ที่หากมองเผินๆ คิดว่าเป็นไฟหน้า

ส่วนไฟหน้าของจริงอยู่ต่ำลงมาแบบโปรเจ็กเตอร์ LED ดีไซน์ใหม่ ปรับระดับสูงต่ำได้พร้อมระบบไฟนําทาง Walk Me Home

ต่ำลงมาเป็นไฟตัดหมอก มีไฟหรี่อยู่ด้านล่าง

ไฟท้ายเป็นแบบเส้นเดียวแนวขวางแปะอยู่กับประตูที่ 5 แบบเต็มบาน ซึ่งถือว่าต่างจากรถเซกเมนต์เดียวกันที่จะแยกโคมเป็น 2 ชุด อยู่ที่ฝาประตูท้ายและตัวถัง

เพื่อที่เวลาเปิดประตูที่ 5 ยังสามารถส่องสว่างให้รถที่แล่นตามหลังมองเห็นได้

แต่ไม่ต้องกังวล เพราะหากเปิดประตูขึ้นทั้งบานแล้ว ตำแหน่งไฟจะสลับมาสว่างอยู่บริเวณชายล่างที่ติดตั้งไฟท้ายไว้อีกชุด

มีราวหลังคาพร้อมเสาอากาศแบบครีบฉลาม ล้อแม็ก 17 นิ้วลายสวย ดิสก์เบรก 4 ล้อ

 

ประตูคู่หน้าบานใหญ่เปิดออกมาแล้ว แม้จะใช้สีดำเป็นหลักและคาดสีขาวบริเวณกลางคอนโซล สลับกับสีดำเปียโนแบล็ก แต่ดูกว้างขวาง ไม่ใช่เพียงมิติที่ใหญ่เท่านั้น หากแต่พาโนรามิกซันรูฟที่อยู่ด้านบนช่วยได้ค่อนข้างเยอะ

เด่นขึ้นมาเลยไม่พ้นหน้าจอแนวตั้งขนาดใหญ่ 10.4 นิ้ว แบบทัชสกรีนให้อารมณ์คล้ายๆ ไอแพด เป็นตัวควบคุมทั้งเครื่องเสียง แอร์ พร้อมระบบเชื่อมต่อการสื่อสาร และความบันเทิง Chevrolet Link ใช้ได้ทั้งแอปเปิล คาร์เพลย์ และแอนดรอยด์

ช่องแอร์ขนาดใหญ่ และมีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารแถว 2 และ 3 พร้อมสวิตช์ควบคุมความแรงลมแบบแยก 3 จุด

ช่องยูเอสบีให้กับที่นั่งทุกแถวรวม 4 จุด

พวงมาลัยขนาดใหญ่แบบท้ายตัด จับกระชับมือ เรือนไมล์ทรงสปอร์ตแบบ 3 วงกลม ตรงกลางเป็นจอแสดงผลข้อมูลการขับขี่แบบดิจิตอล TFT ขนาด 7 นิ้ว

คอนโซลกลางติดตั้งคันเกียร์ขนาดกระชับมือ ใกล้กันเป็นเบรกมือไฟฟ้า ปุ่มระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ (Auto Vehicle Hold) ปุ่มเปิด-ล็อกประตู

ตอนแรกบอกว่าสับสนอยู่หน่อย เพราะปุ่มเปิด-ล็อกประตูมักจะอยู่ที่บริเวณประตูด้านคนขับ หรือคอนโซลหน้ามากกว่า

แต่ใช้ไปสักพักก็ชิน

เบาะนั่งหนังนุ่มเดินด้ายขาวดูเก๋ไปอีกแบบ นั่งแล้วไม่ยวบมากนัก เป็นข้อดีเวลาเดินทางไกลๆ จะไม่เมื่อยมาก

ภาพรวมดูทันสมัย พื้นที่เหนือศีรษะที่สูงมากกว่าเดิม ทำให้ดูโปร่งมากขึ้น

 

กดปุ่มสตาร์ต เครื่องยนต์เดินเงียบและนิ่งมากๆ อันดับแรกสุดคือเชื่อมต่อสมาร์ตโฟนเข้ากับหน้าจอขนาดใหญ่

มันใหญ่จริงๆ ไม่ต่างจากวาง “ไอแพด” เอาไว้เลย

ภาพคมชัดมาก แม้การปรับแอร์ หรืออื่นๆ อาจจะต้องกดหน้าจอตรงนี้ บางคนอาจไม่คุ้นชิน แต่ไม่มีปัญหามากนัก เพราะระบบเหล่านี้เราไม่ได้มาปรับตั้งกันตลอดเวลา

เครื่องยนต์เบนซิน DOHC แถวเรียง 4 สูบ 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ (DVVT) และระบบเทอร์โบชาร์จเจอร์ ขนาด 1,451 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้า แรงบิด 250 นิวตัน-เมตร

ระบบเกียร์ซีวีที 8 สปีด

แม้ความจุกระบอกสูบอาจจะดูน้อย แต่หากดูแรงม้าจะเห็นว่าเกินตัวพอสมควร

อย่างไรก็ตาม ด้วยขนาดตัวใหญ่ที่บิ๊กเบิ้ม ทำให้การออกตัวไม่ได้ปรู๊ดปร๊าด แต่ก็ไม่ได้ช้าจนเสียอารมณ์

แต่ไม่แน่ใจว่าหากนั่งเต็มความจุ การออกตัวจะเป็นอย่างไร

เพราะการทดสอบหนนี้ผมขับคนเดียวเป็นหลัก

ช่วงตีนต้นถือว่าไหลมาได้เรื่อยๆ พอเข้าช่วงกลางมาเร็วขึ้น ก่อนจะค่อยๆ ช้าเมื่อความเร็วไปแตะช่วงปลาย

อารมณ์การขับขี่ผมไม่ได้ติดใจเท่าไหร่ เพราะจากการทำตลาดของเชฟโรเลต ไม่ได้เน้นเรื่องความแรงของรถรุ่นนี้อยู่แล้ว

แต่ให้น้ำหนักกับความคุ้มค่า และความสะดวกสบายมากกว่า

 

ช่วงล่างหายห่วงสำหรับค่ายนี้เพราะขึ้นชื่อและผมประทับใจมาตั้งแต่เก๋ง “ออพตร้า” ที่เข้ามาทำตลาดเป็นรุ่นแรกๆ

ช่วงล่างด้านหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังมัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง

การทดสอบทริปนี้ผมไม่ได้เข้าโค้งหนักๆ มากนัก เพราะตัวรถที่ค่อนข้างสูง

อีกทั้งมองว่าแคปติวาออกแบบมาเป็นกึ่งๆ รถครอบครัว ไม่ได้เน้นลุยป่าฝ่าดงมากนัก

จุดเด่นอีกหนึ่งไม่พ้น “ความเงียบ” ที่ยังทำได้ดีไม่แพ้รุ่นอื่นๆ ความเร็วต่ำกว่า 140 กิโลเมตร/ชั่วโมง แทบไม่ได้ยินเสียงเครื่อง-เสียงลม

ยิ่งหากเปิดเพลงจากลำโพง Infinity by Harman เครื่องเสียงระดับไฮเอนด์ ที่จัดลำโพง 6 ตัว ทวีตเตอร์ 2 ตัว และซับวูฟเฟอร์ 1 ตัว เรียกว่าแทบจะตัดขาดจากโลกภายนอกเลย

กระจกบานใหญ่ทำให้ทัศนวิสัยเห็นได้ชัดเจน

การควบคุมรถเบามือด้วยระบบพวงมาลัยไฟฟ้า เข้าไปหาที่จอดในห้างถึงเป็นคุณผู้หญิงก็หมุนได้สบายมือ

เด็ดอีกอย่างคือภาพรอบคันที่ส่งมาบริเวณหน้าจอขนาดใหญ่ โดยจะแบ่งเป็น 3 ช่องหลักๆ คือมุมด้านบน มุมหลัง และด้านข้าง ทำให้เวลาถอยจอดหรือขับถอยยาวๆ ปลอดภัยมากขึ้น

 

ด้วยความที่ผมทดสอบเพียงลำพัง จึงไม่มีโอกาสไปลองนั่งด้านหลังขณะที่รถวิ่ง

แต่ตอนเข้าไปนั่งตอนรถจอดถือว่ากว้างขวางทีเดียว เบาะแถว 2 ขยับขึ้นหน้า-ถอยหลังได้ระดับหนึ่ง

หากไม่มีผู้โดยสารนั่งแถวที่ 3 ขยับที่นั่งถอยไปสุดนั่งได้สบายมากๆ

ส่วนที่นั่งแถว 3 อาจไม่เหมาะกับคนตัวใหญ่ๆ หากเป็นเด็กหรือคุณผู้หญิงพอไหวอยู่ แต่ต้องขยับเบาะแถว 2 ขึ้นหน้าไปสักหน่อย

เบาะแถว 2-3 สามารถพับได้เกือบราบ เพิ่มพื้นที่บรรทุก

ช่องแอร์เจาะมาให้ครบทุกที่นั่ง

ผ่านบททดสอบคร่าวๆ ผมว่า “เชฟโรเลต แคปติวา” ใหม่ ถือว่าขับได้เพลินๆ พอตัว โดยเฉพาะกับครอบครัวที่ชอบไปด้วยกันหลายๆ คน

ที่สำคัญราคาตั้งมาได้เร้าใจเหลือเกิน

รุ่นท็อป Premier อยู่ที่ 1,199,000 บาท

LS (5 ที่นั่ง) 999,000 บาท (เพิ่ม 30,000 บาท สำหรับรุ่น 7 ที่นั่ง)

และ LT 1,099,000 บาท

หากดูจากสเปกและความครบๆ ที่ให้มาแล้ว รุ่นท็อปคุ้มสุดแล้วครับ