ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 20 - 26 ธันวาคม 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | จดหมาย |
เผยแพร่ |
จดหมาย
0 เขียนเปลี่ยนชีวิต
มหกรรม Write for Rights 2019
แคมเปญสิทธิมนุษยชนประจำปีที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ของแอมเนสตี้
ปีนี้มาในธีม “นักปกป้องสิทธิเยาวชน : Act For Rights, Fight For Youth”
ชวนคนไทยเข้าร่วมกิจกรรม
เพื่อส่งกำลังใจให้เยาวชนที่ติดอยู่ในวงจรของความอยุติธรรมทั่วโลก
โดยปีที่ผ่านมาได้สร้างสถิติใหม่ของกิจกรรมนี้ มี 5,562,795 ข้อความในรูปแบบต่างๆ
ถูกเขียนโดยผู้คนมากกว่า 200 ประเทศและดินแดนต่างๆ
เพื่อร่วมรณรงค์เรียกร้องความยุติธรรมและช่วยเหลือผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิ
ในเดือนธันวาคมของทุกปี
ผู้คนหลายแสนคนทั่วโลกร่วมกันเขียนจดหมายมากมายเพื่อผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน
จดหมายหลายฉบับถูกส่งถึงผู้ถูกละเมิดสิทธิโดยตรง
ขณะที่จดหมายอีกจำนวนมากก็ถูกส่งไปยังรัฐบาลของประเทศที่เกี่ยวข้องนั้นๆ
โดยในปีนี้แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย
เลือกเน้นรณรงค์มหกรรม Write for Rights 2019 ช่วยเหลือสามกรณี
ได้แก่
นาซู อับดุลลาซิซ เยาวชนชาวไนจีเรียผู้ถูกยิงขณะปกป้องบ้าน
เขาชอบเล่นฟุตบอลและปั่นจักรยาน กิจกรรมยามว่างของคนหนุ่มสาวในไนจีเรีย
แต่กลับเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ปกติขึ้นกับเขา
เพราะระหว่างเดือนพฤศจิกายน 2559 และเมษายน 2560
นาซู อับดุลลาซิซ และชุมชนของเขาในกรุงเลกอสที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้มานานกว่าร้อยปี
ถูกขับไล่ออกจากบ้านเรือนของตนเองโดยไม่มีการแจ้งเตือน
กลุ่มผู้ชายมาถึงพร้อมปืนในมือและรถไถ
พวกเขาได้ทำลายบ้านเรือนจนราบเป็นหน้ากลอง
ทำให้ชาวบ้าน 30,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัย
ทุกวันนี้ นาซู อับดุลลาซิซ และเพื่อนๆ ต่างเรียกร้องที่จะมีชีวิตอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี
ยาสมัน อารยานี นักแสดงสาวชาวอิหร่านผู้มอบดอกไม้แห่งเสรีภาพ
เธอเป็นนักแสดงที่ชื่นชอบการปีนเขา
เธอได้ตั้งคำถามต่อกฎหมายบังคับให้สวมผ้าคลุมศีรษะของอิหร่าน
โดยเธอได้แจกดอกไม้สีขาวให้กับผู้โดยสารหญิงที่นั่งอยู่ในขบวนรถไฟ
จากนั้นวิดีโอที่แสดงภาพการกระทำอันกล้าหาญและท้าทายของเธอ ได้รับการเผยแพร่อย่างกว้างขวางในเดือนมีนาคม 2562
ส่งผลให้ทางการอิหร่านจับกุมเธอทันที
ต่อมาศาลตัดสินจำคุกยาสมันสูงถึง 16 ปี
ทั้งหมดเป็นเพียงเพราะความเชื่อของเธอที่ว่าผู้หญิงควรมีเสรีภาพในการเลือกสิ่งที่ตนเองอยากสวมใส่
ยีลียาซีเจียง เรเฮมัน คุณพ่อชาวอุยกูร์ผู้ถูกพรากจากครอบครัว
เขาและไมรีนีชา อับดูไอนี นักศึกษาชาวอุยกูร์ภรรยาของเขากำลังจะมีลูกคนที่สอง
แต่ยีลียาซีเจียงกลับหายตัวไประหว่างที่ทั้งคู่กำลังศึกษาต่อที่อียิปต์ในเดือนกรกฎาคม 2560
ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลจับกุมชาวอุยกูร์ประมาณ 200 คน
โดยส่วนใหญ่เป็นชนพื้นเมืองมุสลิมจากแคว้นซินเจียงของจีนและได้บังคับส่งกลับพวกเขาไปที่จีน
ไมรีนีชาเชื่อว่าปัจจุบันสามีของเธอเป็นหนึ่งในชาวมุสลิมกว่าหนึ่งล้านคนที่ถูกจองจำในค่ายลับในประเทศจีน
และเธอกำลังพยายามทุกวิถีทางเพื่อตามหาสามี
จากการทำงานมากว่า 58 ปีที่ผ่านมาของแอมเนสตี้
พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการเขียนเปลี่ยนชีวิตคนได้จริงๆ
การเขียนจดหมาย ส่งอีเมล
การโพสต์ข้อความแสดงความเห็นออนไลน์ ทั้งทางทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก
รวมทั้งการส่งไปรษณียบัตร โปสการ์ดให้กำลังใจ รวมแล้วปีละหลายล้านข้อความ
ไม่เพียงนำไปสู่การปลดปล่อยนักโทษทางความคิดเท่านั้น
หากยังมีผลทางด้านจิตใจอย่างมากต่อผู้ได้รับกำลังใจเหล่านี้
และมีผลทางจิตใจอย่างมากต่อบุคคลอันเป็นที่รักของพวกเขาด้วย
สนใจร่วมลงชื่อกิจกรรม Write for Rights 2019
ได้ที่ https://www.amnesty.or.th/get-involved/take-action/w4r19/
ปิยนุช โคตรสาร
ผู้อำนวยการแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล
ประเทศไทย
ดูเหมือนไกลตัว
มากด้วยกลิ่นนม เนย
แต่สักวันหนึ่ง
การเขียนเปลี่ยนชีวิต
อาจย้อนกลับมีประโยชน์กับ “คนไทย” ที่ถูกละเมิด
บ้างก็ได้