แมลงวันในไร่ส้ม /เครียดรับ ‘ปีใหม่’ อีเวนต์ไล่ ‘รบ.’ คึก อนค.ระทึก-ผวา ‘ยุบ’

แมลงวันในไร่ส้ม

 

เครียดรับ ‘ปีใหม่’

อีเวนต์ไล่ ‘รบ.’ คึก

อนค.ระทึก-ผวา ‘ยุบ’

 

หลังจากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พ้นสมาชิกภาพ ส.ส. เมื่อ 20 พฤศจิกายน

ไล่ๆ กันมา 4 ธันวาคม มีการลงมติในญัตติตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบคำสั่ง คสช.และมาตรา 44 ซึ่งรัฐบาลพลาดท่าโหวตแพ้และขอนับใหม่

แต่พรรคฝ่ายค้านไม่เห็นด้วย จึงเลื่อนมาประชุมกันใหม่ในวันที่ 4 ธันวาคม

ผลการประชุม 4 ธันวาคม รัฐบาลได้ “งูเห่า” จากฝ่ายค้านมาช่วยทำให้องค์ประชุมครบขณะที่ฝ่ายค้านวอล์กเอาต์ ก่อนโหวตล้มกรรมาธิการด้วยคะแนนขาดลอย

ต้นสังกัดงูเห่าสอบเอาผิด โดยผู้ถูกสอบไม่สะดุ้งสะเทือนมากนัก เพราะรัฐธรรมนูญให้ ส.ส.หาสังกัดใหม่ได้ใน 60 วัน

วันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ประชาสัมพันธ์ได้เผยแพร่เอกสารข่าว “คณะกรรมการการเลือกตั้งมีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณายุบพรรคการเมือง”

เนื้อหาเพียง 8 บรรทัดระบุว่า ที่ประชุม กกต.ได้พิจารณาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน พร้อมทั้งความเห็นของนายทะเบียนพรรคการเมืองกรณีพรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงินจากนายธนาธรแล้ว ที่ประชุมเห็นว่าการที่พรรค อนค.กู้ยืมเงินจากนายธนาธร เป็นเงินจำนวน 191,200,000 บาท เป็นการกระทำอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 72 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 จึงมีมติด้วยคะแนนเสียงข้างมาก ให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อพิจารณายุบพรรคอนาคตใหม่ตามมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (3) ประกอบมาตรา 93 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560

มีรายงานข่าวแจ้งว่า มติเสียงข้างมากนั้นอยู่ที่ 5 ต่อ 2 จากนั้นวันที่ 13 ธันวาคม ร.อ.มนูญ วิเชียรนิตย์ ผอ.สำนักสนับสนุนการสืบสวนสอบสวน นายสมพล พรผล ผอ.สำนักกิจการพรรคการเมือง นำสำนวนคำร้องของคณะกรรมการ กกต. ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญ

คาดว่าศาลรัฐธรรมนูญอาจจะเริ่มพิจารณาเรื่องนี้ในวันที่ 18 ธันวาคม

ถือว่าเป็นรายการลุ้นระทึกอีกรายการหนึ่งของแวดวงการเมือง ก่อนถึงวันสิ้นสุดปี 2562

 

การยุบพรรคในกรณีนี้ จะมีการตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคด้วย

ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ 80 คน เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ 50 คน เป็นกรรมการบริหารพรรค 11 คน

กรรมการบริหารพรรค 15 คน ประกอบด้วย นายธนาธร, นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค, น.ส.กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ รองหัวหน้าพรรค, นายชำนาญ จันทร์เรือง รองหัวหน้าพรรค, พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรค, นายรณวิต หล่อเลิศสุนทร รองหัวหน้าพรรค, น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรค, นายไกลก้อง ไวทยาการ นายทะเบียนสมาชิกพรรค, นายนิติพัฒน์ แต้มไพโรจน์ เหรัญญิก, นายสุนทร บุญยอด กรรมการ, น.ส.เยาวลักษณ์ วงษ์ประภารัตน์ กรรมการ, นายสุรชัย ศรีสารคาม กรรมการ, นายเจนวิทย์ ไกรสินธุ์ กรรมการ, นายชัน ภักดีศรี กรรมการ และ น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ กรรมการ

หลังจากเผชิญมรสุมการเมืองหลายลูก พรรคอนาคตใหม่ประกาศจัด “แฟลชม็อบ” อันเป็นการชุมนุมอย่างรวบรัด ที่สกายวอล์ก ปทุมวัน

แฟลชม็อบของพรรคอนาคตใหม่ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ โดยมีกลุ่ม ส.ส.งูเห่าของพรรคอนาคตใหม่ออกมาร่วมโจมตีด้วย

เย็นวันที่ 14 ธันวาคม นายธนาธรปรากฏตัวพร้อมแกนนำคนอื่นๆ เช่น นายปิยบุตร นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และนางสาวพรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ สลับกันปราศรัย วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

ขณะที่ประชาชนที่มาชุมนุมตะโกนขับไล่ให้ พล.อ.ประยุทธ์ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

เวลา 18.00 น. ผู้มาชุมนุมเต็มพื้นที่ร่วมกันเคารพเพลงชาติ และเปิดไฟฉายจากกล้องโทรศัพท์มือถือแสดงพลังของประชาธิปไตย หลังเสร็จสิ้น นายธนาธรประกาศให้ประชาชนเดินทางกลับพร้อมขอบคุณที่มาร่วมกิจกรรมดังกล่าว จากนั้นแกนนำทยอยเดินทางกลับ

ตำรวจนครบาลอำนวยความสะดวกในพื้นที่ ขณะสื่อโซเชียลมีเดียของพรรคอนาคตใหม่โพสต์ภาพกิจกรรมที่จัดขึ้นพร้อมติดแฮชแท็กในทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก เช่น #ไม่ถอยไม่ทน #กลัวที่ไหน #อนาคตใหม่

16 ธันวาคม ที่ สน.ปทุมวัน นายสนธิญา สวัสดี สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเคยคัดค้านไม่ให้ กกต.รับจดทะเบียนพรรคอนาคตใหม่มาแล้ว ได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.อังกูร จรัสเมธาวิทย์ รอง สว. (สอบสวน) สน.ปทุมวัน กล่าวโทษนายธนาธร, นายปิยบุตร, น.ส.พรรณิการ์, นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ กรณีจัดชุมนุมแฟลชม็อบ

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นในวันที่ 14 ธันวาคม พ.ต.อ.พาติกรณ์ ศรชัย ผกก.สน.ปทุมวัน ได้แจ้งความนายธนาธรกับพวกในข้อหาร่วมกันชุมนุมสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการตามหน้าที่, ใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต รวม 3 ข้อหาไปก่อนแล้ว

และต่อมา วันที่ 16 ธันวาคม พรรคอนาคตใหม่จัดประชุมใหญ่วิสามัญของพรรค ประกอบด้วย กรรมการบริหารและ ส.ส. เพื่อพิจารณา การกระทำของ ส.ส.ที่เคยโหวตสวนมติพรรค รวมถึงวิพากษ์วิจารณ์กิจกรรมแฟลชม็อบ

ผลการประชุมดังกล่าว พรรคอนาคตใหม่มีมติขับ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี, พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี, น.ส.ศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ และนายจารึก ศรีอ่อน ส.ส.จันทบุรี ด้วยมติท่วมท้น 250 ต่อ 5

ขั้นตอนต่อไป ต้องนำเรื่องเข้าขอมติที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค หากมีมติ 3 ใน 4 ให้ขับออก ก็จะมีผลให้ต้องหาพรรคสังกัดใหม่ใน 60 วัน มิฉะนั้นจะสิ้นสมาชิกภาพ

และยังมีปัญหาด้วยว่า หากมติขับจากพรรคมีผล คะแนนเสียงของ 4 ส.ส.จะไปอยู่กับพรรคใหม่หรือไม่ หากไปจะทำให้พรรคที่รับ ต้องไปลดจำนวน ส.ส.บัญชีรายชื่อ หากคะแนนเสียงไม่โอนย้าย จะทำให้พรรคอนาคตใหม่มี ส.ส.เพิ่มขึ้นในส่วนของ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

 

น่าสังเกตว่าการเคลื่อนไหวของพรรคอนาคตใหม่ ทำให้แกนนำรัฐบาลมีอาการพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นนายกรัฐมนตรี ไปจนถึง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

นอกจากการเคลื่อนไหวของอนาคตใหม่แล้ว ยังมีการจัดงาน “วิ่งไล่ลุง” ดำเนินการโดย “คณะกรรมการแนวร่วมสมาพันธ์ผู้จัดงานวิ่งไล่ลุงเพื่อประโยชน์ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนแห่งประเทศไทย”

กำหนดจัดเช้าตรู่วันที่ 12 มกราคม 2563 ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

งานนี้น่าจะได้อานิสงส์จากข่าวสารการเมืองช่วงปลายปี ประกอบกับความรู้สึกต่อการบริหารงานของรัฐบาล ทำให้ตัวเลขผู้ลงทะเบียนพุ่งสูงมาก

ข่าวสารต่างๆ ในระยะนี้ ทั้งก่อให้เกิด และสะท้อนกระแสไม่พอใจการใช้อำนาจและการบริหารงาน “รัฐบาล” อย่างเห็นได้ชัด

รัฐบาลและกลุ่มอำนาจจะแก้เกมนี้อย่างไร วงการเมืองกำลังจับตาดูอยู่