เผยแพร่ |
---|
วงศ์เมืองพิมาย (ไทย) กับวงศ์เมืองพระนคร (กัมพูชา)
ความสัมพันธ์ทางการเมืองในจารึกวัดจงกอ
อ. ด่านขุนทด จ. นครราชสีมา
รุ่งโรจน์ ภิรมย์อนุกูล
อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์
คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
จารึกที่วัดจงกอ ตำบลบ้านเก่า อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา ตามประวัติระบุว่า เมื่อ พ.ศ. 2548 นายสุรศักดิ์ ศรีสำอาง ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 12 ได้ทำเรื่องแจ้งเข้าในสำนักหอสมุดแห่งชาติว่าพบจารึกหลักใหม่ที่วัดจงกอ ต่อมา นางสาวก่องแก้ว วีระประจักษ์และนางสาวเอมอร เชาวน์สวน ได้ทำการอ่านและตีพิมพ์ในวารสารศิลปากร ปีที่ 49 ฉบับที่ 2 (มีนาคม-เมษายน 2549)
จากข้อมูลประวัติการค้นพบระบุว่าจารึกหลักนี้พบอยู่ในบริเวณวัดแห่งนี้นานแล้วและปัจจุบันยังปักอยู่ที่ฐานชุกชีบริเวณขวามือของพระพุทธรูปในพระอุโบสถ
จารึกมี 2 ด้าน เนื้อหาโดยสรุปกล่าวว่า พ.ศ. 1551 พระเจ้าชัยวีรวรรมันทรงออกโองการให้ขุนนางทั้งหลายไปปักที่ดินกัลปนาแก่พระกมรเตงวิมาย ทั้งนี้เพื่อให้พระกุศลแก่พระองค์
ความสำคัญของศิลาจารึกหลักนี้ เมื่อพระเจ้าชัยวรรมันที่ 5 สิ้นพระชนม์ (ครองราชย์สมบัติ พ.ศ. 1511–1545) เกิดมีการชิงราชบัลลังก์ในเมืองพระนคร ระหว่างพระเจ้าอุทัยทิตยวรรมันที่ 1 พระเจ้าชัยวีรวรรมันและพระเจ้าสูรยวรรมันที่ 1 เมื่อแรกพระเจ้าชัยวีรวรรมันสามารถขึ้นครองบัลลังก์ที่เมืองพระนครได้ จอร์ช เซแดส และ ลอเรนซ์ ปาลเมอร์ บริคส์ ได้เสนอว่า พระเจ้าชัยวีรวรรมันเสวยราชสมบัติจนถึงต้น พ.ศ. 1549 ต่อมาในปลาย พ.ศ. 1549 พระเจ้าสูรยวรรัมนที่ 1 จึงสามารถขึ้นครองบัลลังก์ที่เมืองพระนครได้สำเร็จ ส่วนพระชัยวีรวรรมันก็ได้หายไปจากหน้าประวัติศาสตร์
แต่จากข้อความในจารึกวัดจงกอนี้ทำให้ไขปริศนาเกี่ยวกับประวัติเขมรโบราณช่วงดังกล่าวได้ดังต่อไปนี้
1. เมื่อพระเจ้าสูรยวรรมันที่ 1 เสวยราชสมบัติที่เมืองพระนครแล้ว พระเจ้าชัยวีรวรรมันได้เสด็จขึ้นประทับอยู่ที่บริเวณต้นแม่น้ำมูล ดังนั้นจึงตีความน่าจะเป็นไปได้ว่า ฐานอำนาจเดิมของพระองค์อยู่ที่ต้นแม่น้ำมูล
2. การที่พระองค์ทรงกัลป์ปานาที่ดินอุทิศถวายพระกมรเตงอัญวิมาย แสดงว่าพระองค์ทรงมีความผูกพันกับพระกมรเตงอัญวิมาย จึงทำให้คิดได้ว่าศูนย์กลาง
อำนาจของพระองค์อยู่ที่เมืองพิมาย และที่สำคัญคือจารึกหลักนี้เป็นจารึกที่เก่าที่สุด
ที่กล่าวถึงพิมาย
3. พระนามของพระเจ้าชัยวีรวรรมันที่ปรากฏในจารึกคือ ธุลีพระบาทกมรเตงกำตวนอัญศรีชยวีรวรมันเทวะ ซึ่งคำว่า “กำตวน” นอกจากจะปรากฏในพระนามขององค์แล้ว ยังปรากฏในพระนามของพระเจ้าสูรยวรรมันที่ด้วย ซึ่ง จอร์ช เซแดส เสนอว่ากำตวนมาจากคำว่า โตน ที่แปลว่าย่า , ยาย การที่พระเจ้าสูรยวรรมันที่ 1 ปรากฏคำว่า กำตวน เพราะอ้างสิทธิธรรมในราชบังลังก์ทางข้างบรรพสตรี ดังนั้นการที่พระเจ้าชัยวีรวรรมันปรากฏคำว่า “กำตวน” ในพระนาม ก็น่าตีความพระองค์ อ้างสิทธิธรรมข้างบรรพสตรีเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้จึงสามารถตีความได้ต่อว่า เชื้อวงศ์ข้างเมืองพิมายได้ดองญาติกับเชื้อวงศ์ในเมืองพระนคร และพระญาติวงศ์ของพระเจ้าชัยวีรวรรมันซึ่งเป็นวงศ์ข้างพิมายคงจะไปอภิเษกสมรสกับพระราชาในเมืองพระนคร ซึ่งสะท้อนความสัมพันธ์ของเชื้อวงศ์ทั้ง 2 ที่จะต้องมีมายาวนานก่อนหน้านี้