รายงานพิเศษ / จับสัญญาณ ‘นิ่ง’ ของ ‘บิ๊กแดง’ กับสัญญาณสีเขียวต่อปฏิบัติการ ‘ธนาธร’ และข่าวลือที่ทัพภาค 1 ส่องทัพขุนพลใต้ ‘เดฟ-เกรียง-ต้น’ ทีมเวิร์กดับไฟใต้

รายงานพิเศษ

 

จับสัญญาณ ‘นิ่ง’ ของ ‘บิ๊กแดง’

กับสัญญาณสีเขียวต่อปฏิบัติการ ‘ธนาธร’

และข่าวลือที่ทัพภาค 1

ส่องทัพขุนพลใต้

‘เดฟ-เกรียง-ต้น’ ทีมเวิร์กดับไฟใต้

 

ท่ามกลางการถูกจับตามองในทุกฝีก้าว หลังความเคลื่อนไหวของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่พุ่งเป้าโจมตีมาที่กองทัพ

แต่บิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ก็ยังไม่แสดงออกใดๆ

ผิดความคาดหวังของผู้ชมที่เฝ้ารอว่าเมื่อโดนนายธนาธร เป้าหมายหมายเลข 1 กระหน่ำโจมตีทั้งเรื่องงบประมาณ หม้อข้าวกองทัพ และการเกณฑ์ทหาร

แม้จะมีโอกาสในการให้โอวาทนักศึกษาวิชาทหาร (นศท.) ในพิธีสวนสนามและปฏิญาณตนเมื่อ 6 ธันวาคมที่ผ่านมา ในการตอบโต้นายธนาธร ที่ต่อต้านการเกณฑ์ทหารก็ตาม

แต่ พล.อ.อภิรัชต์ก็พูดแค่เบาะๆ ว่า แม้การเป็นนักศึกษาวิชาทหารจะได้รับการยกเว้นไม่ต้องเป็นทหารกองประจำการ

“แต่ในขณะที่สถานการณ์ปัจจุบันทั่วโลกกลับมาให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างกำลังทหารและกำลังสำรองให้พร้อมเผชิญหน้ากับภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆ และการขยายอิทธิพลของประเทศมหาอำนาจต่างๆ ที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้ง”

อันเป็นเพียงแค่ส่งสัญญาณไปว่า ที่นายธนาธรระบุว่า ไม่มีภัยคุกคาม ไม่มีสงครามการสู้รบเกิดขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์มากมาย และไม่จำเป็นต้องเกณฑ์ทหาร

แต่กระนั้นก็เป็นการพูดแบบยั้งๆ ไม่ได้ตอบโต้ ในเชิงสร้างความขัดแย้ง

 

ที่สำคัญ และเป็นการกลับตรงกันข้ามก็คือ นอกจาก พล.อ.อภิรัชต์จะอดทนไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นใดๆ ตอบโต้แล้ว

ซ้ำกลับยังช่วยสยบข่าวลือเรื่องเอกสารเกณฑ์ทหารของนายธนาธรปลอมให้อีก ด้วยการออกมาชี้แจงด้วยตนเองว่า นายธนาธรเข้ารับการตรวจเลือกทหารในปี 2544 อย่างถูกต้องตามขั้นตอน ตามกฎหมาย เพราะได้รับเอกสารใบ สด.43 ของทางราชการที่ถูกต้อง เป็นเอกสารจริง ไม่ใช่เอกสารปลอมอย่างที่มีการสร้างข่าวปลอมกันเกิดขึ้น

“มีคนหวังผล สร้างความขัดแย้ง ไปปล่อยข่าวว่าเขาได้เอกสารปลอม ทบ.เราจึงต้องรีบตรวจสอบและชี้แจง ไม่ให้เกิดปัญหาบานปลาย” บิ๊กแดงระบุ

“ทบ.ไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับคุณธนาธร หรือกับนักการเมืองคนไหน อย่าเอา ทบ.ไปสร้างความขัดแย้ง” พล.อ.อภิรัชต์กล่าว

ท่ามกลางความแปลกใจที่ พล.อ.อภิรัชต์ออกมาช่วยนายธนาธรสยบข่าวลือ แถมระบุชัดด้วยว่าเป็นข่าวปลอม

นอกจากให้สัมภาษณ์สื่อเองสั้นๆ แล้ว พล.อ.อภิรัชต์ยังสั่งการให้ทีมโฆษก ทบ.แถลงข่าวชี้แจงทันที

แต่บางกลุ่มเกิดกังขาว่า เพราะเหตุใด ทบ.จึงตรวจสอบเรื่องนี้ได้อย่างรวดเร็วภายในวันเดียวที่เกิดกระแสข่าวเรื่องนี้ขึ้น

 

ท่ามกลางกระแสข่าวที่ว่า ทบ.ได้มีการตรวจสอบเรื่องการเกณฑ์ทหารของนายธนาธรมาก่อนหน้านี้แล้ว ในช่วงที่มีการเดินสายปลุกระดมการยกเลิกเกณฑ์ทหาร

จนมีการสงสัยว่า นายธนาธรผ่านการตรวจเลือกทหาร หรือเกณฑ์ทหาร หรือไม่ อย่างไร

เพราะในช่วงนั้น มีสื่อสอบถามนายธนาธรอย่างไม่เป็นทางการถึงเรื่องการเกณฑ์ทหารมาก่อนแล้ว

ที่ทำให้นายธนาธรพอรู้ตัวล่วงหน้าว่าเป็นเป้าหมายถูกตรวจสอบในเรื่องการเกณฑ์ทหาร

แต่เขาก็มั่นใจในความถูกต้องของเอกสาร สด.43 จึงไม่แปลกที่นายธนาธรจะตอบโต้ข่าวลือว่า ไปรับการตรวจเลือก และรอจับใบดำใบแดงด้วยตนเอง

แต่ทว่า เมื่อถึงเวลา ก็พบว่ามีผู้สมัครใจเต็มจำนวน จึงไม่ต้องเกณฑ์ ไม่ต้องลุ้น

ไม่แค่นั้น นายธนาธรยังถือโอกาสแฉว่า มีขบวนการทุจริตในการเกณฑ์ทหารเกิดขึ้น

ทั้งนี้ จากที่บิ๊กแดงสั่งให้ ทบ.ตรวจสอบ ยืนยันว่านายธนาธรโดยสละสิทธิ์การผ่อนผันการเรียนต่างประเทศและมารับการตรวจเลือกการเป็นทหารจริงในปี 2544 แต่ในเขตประเวศนั้นมีผู้สมัครใจเป็นทหารเต็มจำนวน

จึงทำให้นายธนาธรไม่ต้องจับใบดำใบแดง และได้ใบ สด.43 ที่ถูกต้องกลับบ้านไป

 

ท่าทีของ พล.อ.อภิรัชต์ที่เป็นผลบวกกับนายธนาธร ในการออกมายืนยันว่าเอกสาร สด.43 จริง และผ่านการตรวจเลือกทหารที่ถูกต้องนั้น กำลังเป็นที่จับตามองว่าเป็นสัญญาณใดหรือไม่

เพราะการที่ พล.อ.อภิรัชต์เก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ค่อยออกสื่อและไม่ให้สัมภาษณ์นั้น มีข่าวสะพัดใน ทบ.ว่า มีสัญญาณให้ พล.อ.อภิรัชต์ลดบทบาทในช่วงนี้ หลังจากที่มีการขึ้นเวทีบรรยายพิเศษ “แผ่นดินของเราฯ”

โดยจะออกมาพูดเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม และเมื่อถึงสถานการณ์หนึ่งเท่านั้น

 

ไม่ใช่แค่ข่าวลือในทางการเมืองเท่านั้น แต่ในกองทัพก็มีข่าวลือ เพราะหมดเดือนธันวาคม ข้ามปีใหม่ก็เข้าสู่ฤดูกาลแต่งตั้งโยกย้ายทหารแล้ว

โดยเฉพาะกระแสข่าวที่ว่าจะมีการขยับแม่ทัพภาคที่ 1 กันใหม่ โดยดันบิ๊กหนุ่ย พล.ท.ธรรมนูญ วิถี ขึ้นเป็นพลเอก เพื่อเปิดทางให้นายทหารคอแดงในหน่วยเฉพาะกิจทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์ (ฉก.ทม.รอ.904) ได้เติบโตขึ้นมา ทันการขยายโครงสร้างของ ฉก.ทม.รอ.904 ที่ยังมีกำลังพลไม่พอ

ทั้งนี้เพราะมีทั้งบิ๊กต่อ พล.ท.เจริญชัย หินเธาว์ แม่ทัพน้อยที่ 1 ต่อคิวอยู่ รวมทั้งบิ๊กอ๊อบ พล.ต.ทรงวิทย์ หนุนภักดี รองแม่ทัพภาคที่ 1 และ ผบ.เนี้ยว พล.ต.ทรงพล สาดเสาเงิน ผบ.พล.1 รอ. ที่ถูกจับตามองว่าจะต่อคิวขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 1 ต่อเนื่องกัน

เพื่อเตรียมที่จะวางตัวสำหรับการขึ้นเป็น ผบ.ทบ.ในอนาคต

แต่ พล.อ.อภิรัชต์ ซึ่งเป็น ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ได้สยบข่าวลือนี้ว่า ยังไม่มีแนวคิดนี้

ดังนั้น จึงคาดกันว่า พล.ท.ธรรมนูญก็ยังคงนั่งแม่ทัพภาคที่ 1 ต่อไปจนครบ 1 ปี ในโยกย้าย 2563 แล้วขยับขึ้น 5 เสือ ทบ.

จากนั้นบรรดานายทหารคอแดงที่มีชื่อเป็นแคนดิเดตแม่ทัพภาคที่ 1 ที่คาดกันว่าจะเป็น พล.ท.เจริญชัย นายทหารเสือราชินี น้องรักบิ๊กตู่ ขยับขึ้นมาตามลำดับ

แต่ก็ต้องไม่มองข้าม พล.ต.ทรงวิทย์ ที่แม้จะเทียบเป็นเตรียมทหาร 24 แต่ก็อาจเบียดชิง พล.ท.เจริญชัย รุ่นพี่ ตท.23 ก็เป็นได้

พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์

ขณะที่ชายแดนภาคใต้ที่ยังคงร้อนเพราะสถานการณ์ความรุนแรงที่ยังคงมีอยู่

จึงทำให้แม่ทัพเดฟ พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ที่กำลังจะเกษียณในปลายปีหน้า เตรียมวางตัวนายทหารมือดีที่จะมาดูแลชายแดนใต้ต่อ

โดยมีการคาดการณ์กันว่า พล.ท.พรศักดิ์สนับสนุน “K.K.” บิ๊กเกรียง พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่ เพราะเป็นนายทหารที่เติบโตในชายแดนภาคใต้มาตลอด

ที่สำคัญยังเป็นน้องรักของ พล.ท.พรศักดิ์ ที่เป็นชาวสุราษฎร์ธานีด้วยเช่นกัน

พล.ต.เกรียงไกร ศรีรักษ์

และยังได้รับความไว้วางใจเป็นเลขานุการคณะกรรมการพูดคุยสันติสุข จ.ชายแดนใต้ จากชุดของบิ๊กเมา พล.อ.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ มาเป็นชุดของ พล.อ.วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะปัจจุบัน

แต่จับตามองกันว่าในการโยกย้ายเมษายน ที่จะมีการจัดทำกันในช่วงกุมภาพันธ์ปีหน้านั้น พล.ท.พรศักดิ์เลือกที่จะเกษียณคาตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 4 หรือจะขยับขึ้นเป็นพลเอก ก่อนจะเกษียณในปลายปีหน้า

แล้วให้ พล.ต.เกรียงไกร ขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคที่ 4 คนใหม่แทนเลย

พล.ต.ศานติ ศกุนตนาค

ไม่แค่นั้น มีการมองข้ามช็อตในการเตรียมดัน เสธ.ต้น พล.ต.ศานติ ศกุนตนาค ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 ที่ก็เป็นน้องรักของ พล.ท.พรศักดิ์ ให้เข้าไลน์เป็นแม่ทัพภาคที่ 4 ในอนาคตด้วย

พล.ต.ศานติ (เตรียมทหารรุ่น 26) เป็นอดีตผู้บังคับการกรมทหารราบ 25 และผู้การกรมทหารพรานที่ 43 ทำงานกับ พล.ท.พรศักดิ์มายาวนาน และก่อนที่จะขึ้นมาเป็น ผบ. พล.ร.5 นั้นก็เป็นนายทหารฝ่ายเสธ.ติดตามใกล้ชิด พล.ท.พรศักดิ์เลยทีเดียว

เพราะ พล.ท.พรศักดิ์ยังถือว่ามีเพาเวอร์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และที่สำคัญเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเตรียมทหาร 20 ของบิ๊กแดง พล.อ.อภิรัชต์ ที่ก็ให้อำนาจหน้าที่แม่ทัพเดฟในการดูแลชายแดนใต้มาตลอด

รวมทั้งการเลือกจัดวางตัวขุนพลแม่ทัพนายกองชายแดนใต้ในทุกระดับ ตั้งแต่ ผบ.ร้อย จนถึง ผบ.พัน ผู้การกรม

 

เรียกได้ว่า พล.อ.อภิรัชต์ ซึ่งเป็น ผบ.ทบ.เป็นปีที่ 2 ยังคงมีเพาเวอร์ แม้ว่าจะเกษียณกันยายน 2563

แต่ก็คาดกันว่า พล.อ.อภิรัชต์อาจจะไม่ได้เกษียณตัวเอง แม้จะเกษียณจาก ผบ.ทบ. ก็ตาม แต่ก็มีตำแหน่งสำคัญรองรับ และอาจเป็นตำแหน่งสำคัญ

จึงยังทำให้ พล.อ.อภิรัชต์มีพลังอำนาจอยู่ในตัว มากกว่า ผบ.ทบ.ทั่วไป

อีกทั้งยังมีการวางตัวบิ๊กบี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผช.ผบ.ทบ. นายทหารคอแดง และรอง ผบ.ฉก.ทม.รอ.904 ไว้เป็น ผบ.ทบ.ดูแล ทบ.ต่อไปจนถึงปี 2566 เลยทีเดียว

พล.อ.อภิรัชต์จึงไม่ต้องพะวงหลังในเรื่องกองทัพบก แม้ว่าในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าจะเกษียณก็ตามที

เพราะกองทัพยังจะต้องเป็นกำลังหลักในการดูแลรัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ ให้อยู่ตลอดรอดฝั่งให้นานที่สุด ไม่ว่าบิ๊กแดงจะยังเป็น ผบ.ทบ. หรือเกษียณไปแล้วก็ตาม

            เรียกได้ว่ารอสัญญาณเท่านั้น