ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 6 - 12 ธันวาคม 2562 |
---|---|
คอลัมน์ | การ์ตูนที่รัก |
ผู้เขียน | นพ.ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์ |
เผยแพร่ |
การ์ตูนที่รัก/นายแพทย์ประเสริฐ ผลิตผลการพิมพ์
โรงเรียนมัธยมของฉันทั้งโรงเรียน จมลงในทะเล
จากหนังการ์ตูนอินดี้ปี 2016 My Entire High School Sinking Into the Sea โดยผู้กำกับฯ แดช ชอว์ คำเตือนบนจอหนังก่อนเริ่มดูมีว่า ให้ระวังชัก คำเตือนก่อนอ่านบทความนี้ก็เช่นกัน
แดชและอัซซาฟเป็นเพื่อนสนิทกันในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่บนหน้าผาริมทะเล สองคนรู้จักกันและรักกันมานาน หากดูตอนเปิดเรื่องจะรู้สึกได้ว่าแดชพูดมากกว่าและออกจะเป็นฝ่ายนำมากกว่าเล็กน้อย เรียกว่า dominate เช่น เขาโดมิเนตอัซซาฟไปนั่งข้างหลังรถโรงเรียน เพราะบัดนี้เขามิใช่รุ่นน้องจูเนียร์อีกแล้ว
เขามิได้ชักชวน แต่เขาชักนำ
เพื่อนรักสองคนทำหนังสือพิมพ์ที่ไม่มีใครอ่านด้วยกัน แจกฟรีก็ไม่อ่าน ขายเสียเลย จะได้เห็นค่าอย่างที่เขาว่ากันยิ่งไม่อ่าน เพื่อนๆ โยนหนังสือพิมพ์ของพวกเขาทิ้งพื้นต่อหน้าอย่างไม่ไยดี ภารโรงก็ไม่หยุดถูพื้นเพื่อหยิบอ่าน
อัซซาฟรู้จักกับเวอร์ติ เวอร์ติเป็นนักเรียนหญิงผิวคล้ำ ใส่แว่น พูดจาจริงจัง ไม่ลื่นไหลไปเรื่อยๆ เหมือนแดช เธอเป็นบรรณาธิการ เธอแนะนำให้อัซซาฟเขียนบทความเรื่องออดิทอเรียมเปิดใหม่ที่ชั้นบนสุดของโรงเรียน โดยอย่าให้แดชเข้ามายุ่ง เธอเชื่อมั่นในฝีมือของอัซซาฟซึ่งใส่แว่นเหมือนกัน
อย่างนี้ก็สวยดิ!
แดชเดือดดาล เขาเขียนเรื่องเปิดโปงจู๋ของอัซซาฟแจกจ่ายในโรงเรียนด้วยตลกต่ำช้า ครูใหญ่กริมม์เรียกสองสหายเข้าพบและบันทึกความผิดของแดชลงในประวัตินักเรียนของเขา นั่นยิ่งทำให้แดชโกรธหนักขึ้นไปอีก เขาบุกเข้าไปในห้องเอกสารของโรงเรียนเพื่อทำลายประวัติตนเอง แต่ก็ไม่รีรอที่จะขุดคุ้ยอะไรก็ได้ที่ขุดได้
แล้วเขาก็พบหลักฐานที่ครูใหญ่กริมม์ปลอมแปลงเอกสารของผู้ตรวจการณ์
แดชเล่าเรื่องนี้ให้แมรี่ เพื่อนนักเรียนที่เป็นนักยิมนาสติกและเป็นที่หมายปองของใครๆ แต่ดาว มีหรือจะใส่ใจไส้เดือน
แดชเล่าเรื่องสัมพันธภาพระหว่างเขากับอัซซาฟให้แมรี่ฟัง ด้วยคาดหวังว่าเธอจะซึ้ง ครั้งหนึ่งระหว่างไปเข้าค่ายลูกเสือ แดชให้อัซซาฟยืมถุงเท้า ก่อนที่อัซซาฟจะพบภายหลังว่าแดชเองใช้กางเกงในแทนถุงเท้ามาตลอด คิดดูเถอะว่าความเป็นเพื่อนนั้นยิ่งใหญ่กว่าถุงเท้าและกางเกงใน
เล่าเรื่องกางเกงในสกปรกด้วยขี้โคลนที่ย่ำไปมาตลอดการเข้าค่ายลูกเสือให้สาวฟังเป็นได้ดูไม่จืดแน่ๆ แล้วแมรี่ก็ขัดคอว่า เธอเองมีเพื่อนเยอะแยะ นำไปสู่การโต้เถียงเรื่อง อย่างไรจึงเรียกว่าเพื่อนในยุคสมัยที่ใครๆ ก็มีเฟรนด์เป็นพัน บทสนทนาตอนนี้สนุก อย่างใดจึงเรียกว่าเพื่อน
คุยกันนานกว่าจะถึงเรื่องสำคัญ คือแดชไปค้นพบว่าโรงเรียนของพวกเขาตั้งอยู่บนรอยเลื่อนแผ่นดินไหว และการก่อสร้างออดิทอเรียมครั้งนี้ทำให้โครงสร้างของโรงเรียนรับน้ำหนักเกินกว่าจะรับไหว
แดชพยายามเตือนใครก็ไม่ฟัง ไม่ต้องพูดถึงอัซซาฟและเวอร์ติที่คิดว่าเขาสติแตกเพราะอิจฉาเพื่อนมากกว่าอย่างอื่น
แล้วหน้าผาก็ถล่ม โรงเรียนพลิกลงทะเล!
หนังสร้างด้วยเทคนิคโรโตสโคปแบบการ์ตูนเมื่อห้าสิบปีก่อน คือวาดรูปบนกระดาษแล้วเอามาวางซ้อนกันเป็นชั้นๆ จากนั้นจึงถ่ายหนังอีกที วิธีนี้ทำให้ได้ภาพแอนิเมชั่นแบบเด็กๆ และประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก ไม่นับการลงสีแบบไซเคดิลิกหลอนๆ และปล่อยแสงกะพริบวูบวาบยามเคลื่อนหรือหมุนภาพด้วยโรโตสโคป จึงมีคำเตือนมิให้ผู้ป่วยลมบ้าหมูดู
มิใช่แอนิเมชั่นดาษดื่น มันกระตุก
หนังมิได้สนุกที่เนื้อเรื่องหรือลายเส้นขั้นสุดยอด เป็นการ์ตูนอินดี้ที่สนุกตรงบทพูด เนื้อหา และเทคนิคการสร้างมากกว่าอย่างอื่น หนังมีบทสนทนาเจ็บๆ ตอดเล็กตอดน้อยแพรวพราว ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของระบบการศึกษา สภาพสังคม และเรื่องการใช้ชีวิต
หนังขึ้นต้นด้วยคำว่า School is suck โรงเรียนมันห่วย ตั้งแต่นาทีแรก
เมื่อโรงเรียนจมทะเล ครึ่งหนึ่งของโรงเรียนยังพ้นน้ำ นักเรียนจำนวนมากร่วงหล่นจากที่สูงลงที่ต่ำกระแทกนั่นนี่เลือดสาดตายไปส่วนหนึ่ง บางส่วนถูกฝูงฉลามไล่กัดกินแยกเป็นชิ้นๆ ดูน่าขัน ทั้งที่น้ำทะเลแดงฉาน ระหว่างที่หนังฉายไปจะมีเด็กนักเรียนตายเพิ่มเรื่อยๆ โดยเฉพาะพวกโง่ๆ หลงตนเองหรือคอยแต่จะทำตามกติกา ทำตามรุ่นพี่ หรือทำตามครู
ถึงว่าโรงเรียนมันห่วย และมันฆ่าเด็กๆ
แดชและแมรี่ อัซซาฟและเวอร์ติ ด้วยความช่วยเหลือของลอเรนตักอาหารกลางวัน หรือลันช์เลดี้ลอเรน (Lunch Lady Lorraine) ห้าชีวิตดิ้นรนหาทางไปที่ส่วนของโรงเรียนที่ยังอยู่พ้นผิวน้ำ ในขณะที่เด็กๆ ส่วนใหญ่ รุ่นพี่ และพวกครูขออยู่กับที่ เพื่อรอความช่วยเหลือ แดชพยายามบอกใครๆ ว่าออดิทอเรียมเป็นส่วนที่ไม่ปลอดภัย และโรงเรียนต้องจมทั้งหมดในเวลาไม่นาน แต่ไม่มีใครเชื่อ
จะเห็นว่าแดชมิได้โดมิเนตอัซซาฟโดยตั้งใจ ที่แท้เขาโปรแอกทีฟ (proactive) เขารู้คิดและคาดการณ์ไปข้างหน้า กระตือรือร้นที่จะทำนั่นนี่เพื่อการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เด็กแบบนี้โรงเรียนไม่ต้องการ เพราะมันน่ารำคาญ และบางทีก็ดูเหมือนสมาธิสั้น
หนังจะมีบรรยากาศเหมือน The Poseidon Adventure ปี 1972 ชื่อไทยว่า “เรือนรก” เป็นหนังดังมากในอดีต เล่าเรื่องคนกลุ่มหนึ่งเดินทางจากส่วนดาดฟ้าเรือที่พลิกคว่ำกลางทะเลเพื่อไปให้ถึงท้องเรือที่โผล่พ้นน้ำ ระหว่างทางจะพบคนตาย และจะมีคนตายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
คนที่ตายคือคนที่อยู่กับที่ แล้วฝันลมๆ แล้งๆ ว่าจะมีคนมาช่วย จนกระทั่งน้ำทะเลทะลักเข้าเรือครั้งใหญ่ตายเรียบ
เราเรียกการฝันลมๆ แล้งๆ ว่าแฟนตาซี (fantasy) เป็นกลไกทางจิตที่ไม่ดีนัก เพราะช่วยให้คนเรามีความสุขโดยไม่ทำอะไร
บุคลิกของลันช์เลดี้ลอเรนก็โดดเด่นจนน่าขำ บทนี้ให้เสียงโดยซูซาน ซาแรนดอน เป็นส่วนที่สนุกมากที่สุดของหนัง เธอเป็นสาวแก่ กล้ามเป็นมัด มีกังฟูเตะต่อยป็นเลิศ เทคนิคกังฟูสู้เด็กเกเรตอนกลางเรื่องน่าดูมาก ขำกลิ้ง เธอเก่งสารพัดจนแดชอดสัมภาษณ์ไม่ได้ว่าทำไมเธอรู้ไปหมด
เธอเล่าว่า เธอและสามีเป็นนักผจญภัยท่องไปเจ็ดย่านน้ำ ไปทุกที่ กินทุกอย่าง
“แล้วไง” แดชสัมภาษณ์
“ผัวตายเพราะแพ้อาหาร” ลันช์เลดี้ลอเรนตอบ เธอเลยมาเป็นคนตักอาหารไง
ระหว่างการเดินทางเพื่อเอาชีวิตรอด แดชและอัซซาฟตั้งใจจะเขียนหนังสือเล่าเรื่องการผจญภัยในครั้งนี้ด้วย เราจึงจะได้เห็นการสัมภาษณ์เวอร์ติ แมรี่ ครูใหญ่กริมม์ และเก็บคำคมมากมายไประหว่างทางอีกต่างหาก ด้วยคาดหวังว่ารอดตายจะได้ดังในคราวนี้
พวกเขาเดินทางผ่านทีละชั้นๆ ของอาคารโรงเรียน จากชั้นจูเนียร์ไปจนถึงชั้นซีเนียร์ พวกเขาพบภาวะหลงตนเองครั้งใหญ่ของพวกซีเนียร์ ก่อนที่ทั้งหมดนั้นจะจมน้ำตาย
กว่าจะเรียนจบ ตายเป็นเบือ น่าจะเป็นสาระของหนังเรื่องนี้
ซึ่งจริงมาก