โล่เงิน | “บิ๊กแป๊ะ” จัดทัพ “นักสืบสีกากี” วาง “มือดี” ลงพื้นที่ทั่วประเทศ เปิดยุทธการดับ “ดาวโจร”

คําสั่งแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ ระดับ สว.-รอง ผบก. วาระปี 2562 เฉพาะตำแหน่ง ผกก.-รอง ผบก. คลอดออกมากลางดึกวันพุธที่ 27 พฤศจิกายน 4 คำสั่ง จำนวน 2,429 ตำแหน่ง ลงนามโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.

ลักษณะคำสั่งผิดแปลกไปจากหลายปีที่ผ่านมา ดูง่ายขึ้น มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย

แบ่งคำสั่งออกเป็น 4 กลุ่ม คือ กลุ่มรอง ผบก.หมุนเวียน, ผกก.เลื่อนเป็น รอง ผบก., ผกก.หมุนเวียน และรอง ผกก. เลื่อนเป็น ผกก.

ไล่เรียงตามอักษร ก-ฮ แม้มีบัญชีคำสั่งเก็บตกเพิ่มเติมอีก 2 คำสั่ง จำนวน 18 ตำแหน่ง ที่ว่ากันว่าส่งบัญชีคำสั่งกันในคืนสุดท้าย

แต่ภาพรวมถือว่ายังอยู่ในกรอบระยะเวลาการแต่งตั้งที่กำหนด คือ 30 พฤศจิกายน

เรียกได้ว่า “รุก รบ จบ เร็ว” บรรดาเหล่าสีกากีไม่ต้องถ่างตาคอยลุ้นข้ามปีเหมือนเช่นที่ผ่านมา

28 พฤศจิกายน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวภายหลังนั่งหัวโต๊ะประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. ครั้งที่ 11/2562 ว่า ถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่การแต่งตั้งเป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่ ก.ตร.กำหนด คือ 30 พฤศจิกายนทุกปี

ที่ผ่านมาก็เลื่อนไปถึงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์มาโดยตลอด ทำให้เกิดปัญหาการแต่งตั้งมาโดยตลอด

“ผมไว้ใจ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และคณะกรรมการต่างๆ ทั้งนี้ การแต่งตั้งก็ดูหลายอย่าง อาทิ ความเหมาะสม มีการเยียวยาให้ความเป็นธรรมแก่ข้าราชการตำรวจที่ถูกโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรมไปไกลจากภูมิลำเนา และการแต่งตั้งผิดฝาผิดตัว ไม่ตรงกับความรู้ความสามารถ พร้อมให้โอกาสผู้ที่ได้อาวุโส 33% ได้ดำรงตำแหน่งหลักด้วย” พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

และว่า ได้กำชับว่าหลังการแต่งตั้ง 6 เดือน จะมีการประเมินประสิทธิภาพการทำงาน หากไม่มีประสิทธิภาพสามารถย้ายได้อีก ไม่ดีก็ต้องย้ายกันทุกๆ 6 เดือน ความรับผิดชอบของผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นคือการดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาให้อยู่ในกรอบการปฏิบัติโดยสุจริต แม้เงินเดือนจะน้อย แต่เมื่อเราสมัครมาเป็นตำรวจแล้ว เป็นตำรวจทั้งใจและกาย

และสิ่งที่สำคัญคือการมีทัศนวิสัยที่ดีต่อประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

เมื่อไล่เรียงบัญชีคำสั่งในการแต่งตั้งครั้งนี้ นายตำรวจที่มีความใกล้ชิดและเป็นเพื่อนร่วมรุ่น นรต.47 “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษสำนักนายกรัฐมนตรี โยกย้ายพ้นตำแหน่งสำคัญ

อาทิ พ.ต.อ.กุลเชษฐ์ บางพราน รอง ผบก.จร. เป็นรอง ผบก.สบส., พ.ต.อ.ชูศักดิ์ ขนาดนิล รอง ผบก.ปอศ. เป็นรอง ผบก.กต.8, พ.ต.อ.พันธุ์ศักดิ์ ค้าดี ผกก.1 บก.ตม.1 เป็น ผกก.กันทรอม จ.ศรีสะเกษ, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง ผกก.สส.บก.น.4 เป็น ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.ประมวล ยิ้มจันทร์ ผกก.สภ.เมืองสุโขทัย เป็น ผกก.ฝอ.ภ.จว.สุโขทัย, พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.ตม.4 เป็นรอง ผบก.อก.ภ.6, พ.ต.อ.พิชัย กิระวานิช รอง ผบก.สส.ภ.9 เป็นรอง ผบก.สส.จชต., พ.ต.อ.สำเริง อำพรรทอง ผกก.สภ.บางขุนนนท์ เป็น ผกก. (สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.ป., พ.ต.อ.โกเมน สุภาพ ผกก.ตม.เชียงใหม่ เป็น ผกก.(สอบสวน) ภ.จว.มุกดาหาร, พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู รอง ผบก.น.4 เป็นรอง ผบก.อคฝ.

เห็นรายชื่อคนสนิทเพื่อนร่วมรุ่น “บิ๊กโจ๊ก” ที่ถูกมรสุมลูกเดียวกันพัดกระจัดกระจายระเนระนาด จนคนในวงการเหล่าสีกากีพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “มาทางไหน กลับไปทางนั้น”

ด้านเพื่อนร่วมรุ่นและคนสนิท “บิ๊กแป๊ะ” ได้ตำแหน่งสำคัญทำเลทอง อาทิ พ.ต.อ.ชัยณรงค์ สมเพราะ รอง ผบก.รฟ. นรต.36 เป็นรอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา, พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.ฝ่ายสนธิสัญญาและกฎหมาย ตท. นรต.56 อดีตนายเวร ผบ.ตร. เป็น ผกก.ตม.จว.ชลบุรี บก.ตม.3, พ.ต.อ.อาทิตย์ ซิ้มเจริญ ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา นรต.46 เป็น ผกก.สภ.สำโรงเหนือ, พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ ภิญโญ ผกก.สส.บก.น.9 เป็น ผกก.สน.โคกคราม, พ.ต.อ.ศักดิ์ศรี แก้วเอี่ยม ผกก.สภ.นครชัยศรี จว.นครปฐม นรต.36 เป็น ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร

พ.ต.อ.ธวัชโชช วังพฤกษ์ ผกก.สภ.โพธิ์ทอง จว.อ่างทอง นรต.36 เป็น ผกก.สภ.มวกเหล็ก จว.สระบุรี

ทั้งนี้ ผบ.ตร.ยังเน้นการจัดวางตำแหน่ง ผกก.-รอง ผบก. กองสืบสวน ทั้งภูธรภาค ภูธรจังหวัด และนครบาล เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาเกิดคดีสำคัญหลายๆ คดี บางแห่งบางพื้นที่ไม่สามารถติดตามจับกุมคนร้ายได้ เนื่องจากตำรวจในพื้นที่ไม่ได้เชี่ยวชาญงานสืบสวนอย่างแท้จริง

รอบนี้ ผบ.ตร.จึงส่ง “มือสืบสวน” ที่ไว้วางใจไปนั่งในพื้นที่ต่างๆ อาทิ พ.ต.อ.ชยานนท์ มีสติ รอง ผบก.ภ.จว.อ่างทอง เป็นรอง ผบก.สส.ภ.1, พ.ต.อ.พัฒนา ปรีชานันท์ รอง ผบก.ภ.จว.ระยอง เป็นรอง ผบก.สส.ภ.2, พ.ต.อ.เดชพล เปรมศิริ รอง ผบก.ภ.จว.หนองคาย เป็นรอง ผบก.สส.ภ.3, พ.ต.อ.วสันต์ เกศะรักษ์ รอง ผบก.ปส.2 เป็นรอง ผบก.สส.ภ.4, พ.ต.อ.ไชยา สุนทรกิจ รอง ผบก.วตร. เป็นรอง ผบก.สส.ภ.6, พ.ต.อ.วิทยา วังส์ด่าน รอง ผบก.ผค. เป็นรอง ผบก.สส.ภ.8, พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ ผกก.สส.4 บก.สส.ภ.9 เป็นรอง ผบก.สส.ภ.9

พ.ต.อ.ธานินทร์ ผิวละเอียด ผกก.สภ.นครหลวง จว.พระนครศรีอยุธยา เป็น ผกก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา

ส่วนนครบาล ซึ่งเป็นเมืองหลวงและเกิดอาชญากรรมบ่อยครั้ง มีมือสืบสวนอย่าง พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ รอง ผบก.ป. เป็นรอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.นิวัฒน์ พึ่งอุทัย ผกก.ควบคุมฝูงชน 2 บก.อคฝ. เป็น ผกก.สส.บก.น.1, พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.ภ.1 เป็น ผกก.สส.บก.น.4, พ.ต.ท.ปิโยรส กันหะศิริ รอง ผกก.สส.สน.บุคคโล นรต.48 เป็น ผกก.สส.บก.น.5, พ.ต.อ.ศาสตรา อ่อนรัศมี ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ เป็น ผกก.สส.บก.น.6, พ.ต.อ.ปนาถพล ปุณศรี ผกก.สส.บก.น.5 เป็น ผกก.สส.บก.น.8, พ.ต.ท.ณกฤช บุญศักดิ์ รอง ผกก.สส.บก.น.6 เป็นรอง ผกก.สส.บก.น.9

แม้การแต่งตั้งตำรวจจะเป็นเก้าอี้ดนตรี สมบัติผลัดกันชม ไม่มีอะไรอยู่ยั่งยืนตลอดไป

แต่เป็นปีสุดท้ายของ ผบ.ตร. ที่ได้ทำบัญชีแต่งตั้งเอง โดยปราศจากเงาใครบางคนเข้ามาเอี่ยว