ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 6 - 12 ธันวาคม 2562 |
---|---|
เผยแพร่ |
การศึกษา
เปิดปมร้าวศึก ‘กรุงเทพคริสเตียน’
กับดราม่า แต่งดำ Save BCC
กลายเป็นดราม่ายาว สำหรับปมร้าวภายในโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัยที่เคลียร์กันไม่ลงตัว
ถึงขั้นนายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (กช.) สั่งตั้งคณะกรรมการควบคุมเข้าบริหารโรงเรียนแทนมูลนิธิแห่งสภาคริสตจักรในประเทศไทย…
โดยเชิญผู้ทรงคุณวุฒิที่มีชื่อเสียงของประเทศร่วมเป็นคณะกรรมการควบคุม ไม่ว่าจะเป็นนายเรวัต ฉ่ำเฉลิม อดีตอัยการสูงสุด เป็นประธาน ร่วมด้วยกรรมการอย่างนายเทียนฉาย กีระนันทน์ อดีตอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายวันชัย ศิริชนะ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง นายพรชัย มาตังคสมบัติ อดีตอธิบการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล เป็นต้น
เหตุผลหลักเพราะเห็นว่าเหตุการณ์ส่อจะบานปลาย กระทบกับคุณภาพการศึกษา
โดยเฉพาะครั้งล่าสุดที่คณะกรรมการบริหารโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนฯ ประกาศสั่งหยุดเรียนในวันที่ 28 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
ไล่เรียงเหตุการณ์ย้อนหลังกลับไป 4 เดือนก่อน คณะกรรมการบริหารโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนฯ และสภาคริสตจักรในประเทศไทยสั่งพักงานนายศุภกิจ จิตคล่องทรัพย์ ผู้อำนวยการ และให้นายวัชรพงษ์ อภิญญานุรังสี ผู้จัดการโรงเรียนพ้นจากหน้าที่ แต่งตั้งนายบรรจง ชมพูวงศ์ เป็นรองผู้อำนวยการโรงเรียนและรักษาการแทนผู้อำนวยการโรงเรียน
สาเหตุมาจากการใช้งบประมาณกว่า 70 ล้านบาทจัดซื้อโรงเรียนบึงกาฬพิทักษ์ศึกษาที่ไม่เป็นไปตามระเบียบ ซึ่งอดีตผู้อำนวยการโรงเรียน และอดีตผู้จัดการโรงเรียนมองว่าการถูกพักงานและให้ออกจากตำแหน่งครั้งนี้ไม่ได้รับความเป็นธรรม
ขณะที่ศิษย์เก่ามองว่าปัญหาที่เกิดขึ้น เนื่องจากสภาคริสตจักรในประเทศไทยเข้ามาแทรกแซงการบริหารจัดการโรงเรียน เป็นสภาพ่อ-ลูก
เหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น เมื่อกลุ่มศิษย์เก่า ครู ผู้ปกครอง และนักเรียนรวมตัวกันภายใต้ชื่อกลุ่ม ‘Save BCC’ นัดแต่งดำประท้วง ขอคืนตำแหน่งให้นายศุภกิจและนายวัชรพงษ์ รวมถึงทบทวนการแต่งตั้งผู้อำนวยการโรงเรียนคนใหม่ เพราะอาจไม่เป็นไปตามระเบียบ
กลุ่ม Save BCC ออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องความเป็นธรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งยื่นหนังสือถึง สช. เสนอให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) การปกครอง สภาผู้แทนราษฎร ตรวจสอบปัญหาทุจริตของผู้รับใบอนุญาตจัดตั้ง 5 เรื่อง ได้แก่
- คดีโรงเรียนเคนเน็ตแมคเคนซี จังหวัดลำปาง
- คดีค่าคอมมิชชั่นบึงกาฬ
- คดีจัดซื้อเครื่องซักผ้าโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน
- คดีล้มประมูลแบบก่อสร้างโรงพยาบาลกรุงเทพคริสเตียน
และ 5. คดีปล่อยเช่าที่ดินชะอำ 180 ล้านบาท
ส่วนตัวนายศุภกิจเองพยายามเรียกร้องให้มีมูลนิธิ ตั้งกรรมการที่เป็นกลางเข้ามาสอบสวนเรื่องดังกล่าว แต่ทางมูลนิธิกลับตั้งนายวิศาล มหชวโรจน์ ประธานกรรมการบริหารโรงเรียน ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ตัดสินใจออกคำสั่งปลดมาเป็นประธานสอบ
ทำให้เกิดข้อกังขาว่ามีการตั้งธงไว้แล้ว
โดยนายวิศาลชี้แจงว่า มาเป็นประธานสอบเรื่องดังกล่าวโดยตำแหน่ง ซึ่งคำสั่งไล่ออกและพักงาน เกิดจากการไม่ปฏิบัติตามระเบียบ และยังมีอีกหลายเรื่องอยู่ระหว่างการสอบสวน ทั้งนี้ หลังมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการควบคุม ทางมูลนิธิเตรียมยื่นอุทธรณ์
ซึ่งสาเหตุที่สั่งหยุดเรียนในวันที่ 28 พฤศจิกายน เพราะมีข่าวว่ากลุ่มศิษย์เก่าเตรียมนำนักเรียนมาประท้วง แต่วันเดียวกันก็ยังมีนักเรียนกลุ่มหนึ่งเข้ามาในโรงเรียน และมีคนของ สช.มาด้วย มีภาพทำลายห้องผู้อำนวยการโรงเรียน ขณะที่ สช.มีเอกสาร และเตรียมคนเป็นคณะกรรมการควบคุมพร้อม เหมือนเตรียมการกันไว้ก่อน ซึ่งผิดปกติ
ล่าสุดคณะกรรมการควบคุม ที่มีนายเรวัตเป็นประธาน ประชุมนัดแรกเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน ใช้เวลานานกว่า 7 ชั่วโมง เพื่อดูรายละเอียด สภาพปัญหา กำหนดกรอบแนวทางการทำงาน และการบริหารงานบุคคล โดยมีมติสำคัญให้ปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ของบุคคล และให้บุคคลพ้นจากการปฏิบัติหน้าที่
ดังนี้
- นายยอด วิจักษณ์โยธิน พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการโรงเรียน และให้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่คณะกรรมการควบคุมมอบหมาย
- นางวราภรณ์ ทรัพย์สมบูรณ์ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการและมาตรฐานคุณภาพ และให้ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการโรงเรียน
- นางชูชีวี ม่วงวิโรจน์ พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการ และให้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่คณะกรรมการควบคุมมอบหมาย
- นางจินตนา ปรีชาจารย์ รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักเรียน และให้ปฏิบัติหน้าที่ผู้จัดการอีกหน้าที่หนึ่ง
- นายบรรจง ชมพูวงศ์ พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการพิเศษ และให้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่คณะกรรมการควบคุมมอบหมาย
- นายสุรินทร์ อนุชิราชีวะ ให้พ้นจากการปฏิบัติหน้าที่รองผู้อำนวยการฝายบริการ และให้ปฏิบัติหน้าที่ตามที่คณะกรรมการควบคุมมอบหมาย
รวมถึงตั้งคณะอนุกรรมการขึ้น 2 ชุด คือ คณะอนุกรรมการด้านบัญชี และคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายและอรรถคดี
“คณะกรรมการควบคุมไม่กังวล เพราะได้เชิญบุคคลที่มีเกียรติและมีชื่อเสียงระดับประเทศมาช่วยกันดูแลแก้ปัญหา ตั้งใจว่าเรื่องนี้ต้องทำให้เร็ว ช้าไม่ได้ ส่วนที่มีผู้ระบุว่ามีการพานักเรียนออกมาประท้วงนั้น ผมคิดว่าไม่ใช่การเอาเด็กมาเป็นตัวประกัน เด็กยุคนี้ทันสมัย ไม่ใช่ใครจะสั่งการได้ โดยเฉพาะเด็กกรุงเทพคริสเตียนฯ มีความเป็นผู้นำสูง การแสดงออกต่างๆ มาจากจิตสำนึก เชื่อว่าเมื่อมีคณะกรรมการควบคุมเข้ามาดูแลจะทำให้เกิดความมั่นใจมากขึ้น และคิดว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก” นายเรวัตกล่าว
ปิดท้ายด้วย นายศุภกิจ อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียนฯ บอกว่า เห็นด้วยที่ให้โรงเรียนอยู่ในการควบคุมของ สช.
ส่วนตัวมีจุดยืนชัดเจน ไม่ได้ต้องการให้คณะกรรมการควบคุมมาช่วยให้พ้นผิด ขอแค่ให้ตรวจสอบอย่างเป็นกลาง เป็นทางออกที่ดีกับทุกฝ่าย แม้ผลจะออกมาว่าตนมีความผิดจริงก็พร้อมจะยอมรับ…
งานนี้ก็ไม่รู้ว่าใครผิดหรือถูกอย่างไร ต้องจับตาดูกันต่อไป
แต่ที่สำคัญ ขอให้ทุกฝ่ายนึกถึงประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นกับเด็กเป็นสำคัญ
อย่าให้เรื่องผลประโยชน์มากระทบกับการเรียนของเด็ก