คนของโลก : เจ้าชายแอนดรูว์ สมาชิกราชวงศ์อังกฤษสุดอื้อฉาว

เจ้าชายแอนดรูว์ มักจะทรงถูกกล่าวถึงในฐานะ “พระโอรสองค์โปรด” ที่สุดของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ

แต่ในอีกแง่หนึ่งก็ทรงมีภาพลักษณ์เป็นอดีตทหารผ่านศึกที่มีแต่เรื่องอื้อฉาวรอบตัวพระองค์

ในปี 1982 ขณะนั้นทรงมีพระชันษา 22 พรรษา พระองค์ทรงได้รับการยกย่องในฐานะนักบินเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพอังกฤษ เข้าร่วมรบในสมรภูมิเกาะฟอล์กแลนด์ ในช่วงสุดท้ายของยุคอาณานิคมอังกฤษ หลังจากกองทัพอาร์เจนตินาบุกโจมตีเกาะ

อย่างไรก็ตาม นั่นขัดแย้งกับภาพลักษณ์ของพระองค์ในเวลานี้ที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเจฟฟรีย์ เอปสตีน มหาเศรษฐีผู้ล่วงลับ ผู้ถูกดำเนินคดีในข้อหาทางเพศและการค้ามนุษย์ สถานการณ์ที่เวลานี้กลายเป็นวิกฤตการณ์ด้านภาพลักษณ์ที่สะเทือนไปถึงราชวงศ์อังกฤษ

การออกมาปฏิเสธข่าวของพระองค์ในช่วงที่ผ่านมาถูกมองว่าพระองค์ทรงหยิ่งทะนง และขาดซึ่งความเห็นอกเห็นใจต่อเหยื่อกามของเอปสตีน

ส่งผลให้ผู้ประกอบการและองค์กรต่างๆ วางตัวออกห่างโครงการต่างๆ ของพระองค์

และล่าสุดพระองค์ทรงถูกร้องขอให้ถอนตัวออกจากกิจกรรมสาธารณะทั้งหมดเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของราชวงศ์เพิ่มขึ้น

 

พระองค์ประสูติในฐานะเจ้าชายแอนดรูว์ อัลเบิร์ต คริสเตียน เอ็ดเวิร์ด ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 1960 ที่พระราชวังบักกิ้งแฮม พระองค์เป็นพระโอรสองค์ที่ 3 ต่อจากเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และพระเชษฐภคินีอย่างเจ้าหญิงแอนน์ ขณะที่เจ้าชายเอ็ดเวิร์ดมีพระชันษาน้อยกว่าพระองค์ 4 พรรษา

เจ้าชายแอนดรูว์ในช่วงวัยหนุ่มทรงเป็นชายโสดที่เป็นที่จับตามองมากที่สุด และมีข่าวเชื่อมโยงกับหญิงสาวหลายรายก่อนที่พระองค์จะเสกสมรสกับซาราห์ เฟอร์กูสัน ในปี 1986

ทั้งสองพระองค์ที่ทรงมีตำแหน่งเป็นดยุคและดัชเชสแห่งยอร์ก มีพระธิดาด้วยกันสองพระองค์คือเบียทริซ ที่ประสูติในปี 1988 และยูจีน ประสูติในอีกสองปีต่อจากนั้น อย่างไรก็ตาม ชีวิตคู่ของพระองค์และเฟอร์กูสันต้องสิ้นสุดลง

หลังพระองค์ทรงแยกทางกัน ในปี 1992 เฟอร์กูสัน หรือ “เฟอร์กี้” ถูกถ่ายภาพเปลือยอกข้างสระว่ายน้ำกับนักธุรกิจชาวอเมริกันรายหนึ่งในเมืองตอนใต้ของฝรั่งเศส

พระองค์หย่าร้างกับเฟอร์กูสันอย่างเป็นทางการในปี 1996 แต่ทั้งสองยังคงมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันจนมีข่าวลือว่า ทั้งสองอาจกลับมาเสกสมรสกันอีกเป็นครั้งที่ 2

และมีรายงานด้วยว่าดัชเชสแห่งยอร์ก ยังคงอาศัยอยู่ในพระราชวังวินเซอร์กับอดีตสามี

 

หลังการหย่างร้าง เจ้าชายแอนดรูว์ถูกถ่ายภาพกำลังอาบแดดกับหญิงสาวเปลือยอกบนเรือยอชต์ ที่จังหวัดภูเก็ต รวมถึงเคยมีข่าวว่าทรงเข้าร่วมปาร์ตี้ที่มีชื่อว่า “ฮุกเกอร์สแอนด์พิมป์” หรือในความหมายว่า “โสเภณีและแมงดา” ในนครนิวยอร์ก กับไฮโซชื่อดังอย่างกิสเลน แมกซ์เวลล์

ขณะที่แมกซ์เวลล์ซึ่งเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีเจ้าของสื่ออย่างโรเบิร์ต แมกซ์เวลล์ เองก็ถูกกล่าวหาด้วยว่าเป็นผู้จัดหาเด็กสาวอายุน้อยให้กับวงจรค้ากามของเอปสตีน ข้อหาที่แมกซ์เวลล์ปฏิเสธมาโดยตลอด

เจ้าชายแอนดรูว์ทรงออกจากกองทัพในปี 2001 และทรงผันตัวไปเป็นตัวแทนเจรจาการค้าให้กับรัฐบาลอังกฤษ ในช่วงที่ทรงได้รับฉายา “แอนดี้ผู้สะสมไมล์” เนื่องจากทรงบินไปทั่วโลกด้วยภาษีของชาวอังกฤษ

นอกจากนี้ พระองค์ทรงยังถูกตั้งคำถามถึงวิจารณญาณส่วนพระองค์ ที่ทรงคบค้าสมาคมกับลูกเขยของอดีตประธานาธิบดีตูนิเซียที่ถูกปลดจากตำแหน่ง

นอกจากนี้ ทรงยังรู้จักกับซาริฟ ลูกชายของผู้นำเผด็จการลิเบียโมอัมมาร์ กัดดาฟี รวมไปถึงมหาเศรษฐีในคาซัคสถานรายหนึ่งด้วย

เรื่องอื้อฉาวก่อนหน้านี้ทั้งหมดเวลานี้กลับถูกแทนที่ด้วยความเชื่อมโยงระหว่างพระองค์กับเอปสตีน ผู้ที่เคยถูกจำคุกในปี 2008 ฐานจ่ายเงินซื้อบริการนวดให้เด็กสาวอายุต่ำกว่ากำหนด

ก่อนที่เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เอปสตีนจะถูกพบเป็นศพในห้องขังหลังจากถูกจับกุมในข้อหาค้ามนุษย์ฐานจัดหาบริการทางเพศ

เรื่องอื้อฉาวของนายเอปสตีนกลับมาโด่งดังอีกครั้งเมื่อปี 2011 เมื่อมีภาพหลุดของเจ้าชายแอนดรูว์ถ่ายภาพคู่กับ “เวอร์จิเนีย โรเบิร์ต” หนึ่งในเหยื่อวงจรค้ากามของเอปสตีนที่เวลานั้นมีอายุแค่ 17 ปี และอ้างว่ามีความสัมพันธ์ทางเพศกับเจ้าชายแอนดรูว์ ถึง 3 ครั้งด้วยกัน

ด้านเจ้าชายแอนดรูว์ปฏิเสธมาโดยตลอดและยืนยันว่าภาพดังกล่าวถูกตัดต่อขึ้นมา

นอกจากนี้ ยังมีภาพหลุดอีกภาพที่แสดงให้เห็นเจ้าชายเดินอยู่กับเอปสตีนที่สวนสาธารณะเซ็นทรัลปาร์ก ในนครนิวยอร์ก หลังจากเอปสตีนพ้นคุกออกมาได้เพียง 1 ปีเมื่อปี 2010 ด้วย

 

เจ้าชายแอนดรูว์กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นวงกว้างอีกครั้ง หลังจากพระองค์ทรงออกมาประทานสัมภาษณ์กับสื่อครั้งล่าสุด โดยพระองค์ยอมรับว่า การคบหากับเอปสตีนนั้น สร้างความผิดหวังให้กับสมาชิกราชวงศ์ แต่ก็ระบุว่า พระองค์พยายามแสดงออกอย่างมีเกียรติที่สุด

พระองค์ทรงปฏิเสธที่จะกล่าวประณามเอปสตีนอย่างตรงไปตรงมา โดยระบุว่า บ้านของเอปสตีนในนครนิวยอร์กนั้นยังเป็นที่ที่ “น่าอยู่” และทรงระบุถึงพฤติกรรมของเอปสตีนเพียงว่า “ไม่เหมาะสม”

ทรงยืนยันกับพิธีกรผู้สัมภาษณ์ที่ระบุกับพระองค์ว่า เอปสตีนเป็นผู้กระทำผิดในคดีทางเพศ ว่าพระองค์เพียงพยายามที่จะ “สุภาพ” ให้มากที่สุด

แต่นั่นกลับกลายเป็นเหมือนการเติมเชื่อไฟจุดกระแสโลกออนไลน์รวมไปถึงสื่อแขนงต่างๆ ให้กล่าวถึงเรื่องราวของพระองค์ในอดีตมากยิ่งขึ้น