ที่มา | มติชนสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 29 พฤศจิกายน - 5 ธันวาคม 2562 |
---|---|
ผู้เขียน | เสถียร จันทิมาธร |
เผยแพร่ |
วิถีแห่งกลยุทธ์ เหมยฉางซู/เสถียร จันทิมาธร
ราชโองการ เหมยฉางซู เข้าวัง (21)
การประลองยุทธ์เพื่อชิงตำแหน่งคู่ครองให้กับหนีหวงจวิ้นจู่ได้เข้าสู่จุดรุนแรง แหลมคม คือความโดดเด่นขึ้นมาของจอมยุทธ์ชาวเป่ยเอี้ยน
สามารถโค่นจอมยุทธ์ต้าเหลียงได้ภายใน 1 กระบวนท่า
“วันนี้ จู่ๆ ก็สำแดงฤทธิ์ออกมา ดูท่าไม่ใช่แค่อยากเอาชนะ แต่ยังถือโอกาสนี้ข่มขวัญคู่ต่อสู้หลายคนที่เหลือด้วย”
ข้อสังเกตจากเซียวจึ่งรุ่ยสมควรล้างหูน้อมรับฟังอย่างเป็นพิเศษ
“พลังฝีมือของไป่หลี่ฉี (พิสดารร้อยลี้) สูงล้ำจริงๆ หากคนผู้นี้ประมือกับองครักษ์เหมิงซึ่งมีพลังภายในลึกล้ำเช่นกันก็ยังไม่แน่ว่าจะครองความได้เปรียบ”
คำพูดตรงนี้สะท้อนความหมายลึกล้ำอย่างยิ่ง
หนีหวงจวิ้นจู่แม้เป็นยอดฝีมือหญิงหนึ่งเดียวที่ติดอันดับรายชื่อยอดฝีมือของทำเนียบหลางหยา พลังฝีมือเหนือกว่าคำว่าล้ำเลิศ แต่อย่างไรก็เป็นสตรีเพศ อาศัยทักษะเป็นตัวหลัก พลังเป็นตัวเสริม หากปะทะกับพลังฝีมือแข็งแกร่งชนิดนี้นับว่าเสียเปรียบที่สุด
หากพลาดพลั้งเสียท่า นั่นต้องกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตแน่นอน ประเด็นก็คือ จะปล่อยให้ไป่หลี่ฉีจากเป่ยเอี้ยนเข้ามาประฝีมือกับหนีหวงจวิ้นจู่ไม่ได้เป็นอันขาด จำเป็นต้องดำเนินกลยุทธ์อย่างแยบยล
นั่นก็คือ ให้ระหว่างกลางมีอะไรมาแทรกจึงจะถูก
และแล้วตัวเบียดแทรกระหว่างกลางก็ค่อยปรากฏเป็นห้วงๆ อย่างนอกหนือความคาดหมาย ประการแรกสุดก็คือ มีราชโองการเข้ามายังจวนหนิงโหว
“องค์จักรพรรดิทรงมีพระดำรัสให้ซูเจ๋อเข้าเฝ้าหลังเสร็จสิ้นการประชุมเช้า”
หนุ่มๆ ทั้งหลายพอสันนิษฐานได้ว่า เป็นหนีหวงจวิ้นจู่กราบทูลรายงานต่อองค์จักรพรรดิ จึงไม่รู้สึกประหลาดใจแต่อย่างใด
รุ่งเช้าวันถัดมา มีรถม้าของจวนมู่หวังมาจอดรอรับ ยิ่งเป็นการยืนยันข้อสันนิษฐานของทุกคน
เมื่อผ่านประตูเจิ้งอี่ตรงไปยังตำหนักอู่อิง ไม่เพียงแต่หนีหวงจวิ้นจู่พามู่เสี่ยวหวังเยมาแนะนำตัวและน้อมคารวะ
ยังประสบเข้ากับจิ้งหวัง
เซียวจิ่งเหยียนกำลังสาวเท้าก้าวใหญ่ตรงมาจริงๆ จิ้งหวังประสานสายตากับเหมยฉางซูวูบหนึ่งก่อนเคลื่อนออกรวดเร็ว
“เพื่อศักดิ์ศรีต่ำต้อยของหนีหวง ทำให้จิ้งหวังต้องเสียเวลาแล้ว”
“ไห่เยี่ยน” บรรยายฉากสำคัญต่อจากนี้อย่างแหลมคมเป็นพิเศษ หลังหนีหวงจวิ้นจู่รำพึง “ทั้ง 2 ท่านปฏิบัติการพร้อมเพรียงดีจริง”
เหมยฉางซูไม่ต้องหันกลับไปก็รู้ว่านางหมายถึงใคร
จริงดังคาด แค่ชั่วอึดใจก็ได้ยินเสียงหัวเราะร่าของรัชทายาทและอวี้หวังตรงเข้ามาทักทายทุกคนที่เชิงบันไดอย่างเป็นกันเอง คล้ายต้องการแสดงถึงความเป็นคนเปิดเผยใจกว้าง
เหมยฉางซูทางหนึ่งสนทนากับทั้ง 2 ทางหนึ่งหันไปดูหนีหวงจวิ้นจู่กับมู่ซิง
ขณะที่ทางด้านเซียวจิ่งเหยียนนั้นเล่า ยืนมองรัชทายาทและอวี้หวังอย่างเย็นชา สายตาทอประกายชิงชัง
นี่คือความจริงใจของเซียวจิ่งเหยียน
สภาพระหว่างรอคอยดำเนินไปอย่างไร รัชทายาทและอวี้หวังเพื่อเอาหน้าใครก็ไม่ยอมให้อีกฝ่ายอยู่กับเหมยฉางซูตามลำพัง ดังนั้น ทั้ง 3 จึงยืนอยู่ด้วยกัน
มู่ซิงเลื่อมใสศรัทธาในผลงานการรบของจิ้งหวังมาตลอด บวกกับรู้สึกว่าบุรุษสมควรสนทนาเรื่องศึกสงคราม ดังนั้น จึงขอคำชี้แนะด้านพิชัยยุทธ์กับเซียวจิ่งเหยียน หนีหวงจวิ้นจู่ประเดี๋ยวฟังทางนั้น ประเดี๋ยวคุยกับทางนี้ ท่าทีผ่อนคลายมากกว่าใคร
ประมาณ 1 เค่อ (15 นาที) ผ่านไป ได้ยินเสียงเคาะดังขึ้นที่นอกตำหนัก เจ้าหน้าที่ขานเสียงยาวเหยียด
“ฝ่าบาทเสด็จ”
ภายในตำหนักเงียบกริบทันที ทุกคนยืนสงบเสงี่ยมเป็นระเบียบ เหมยฉางซูถอยไปยังมุมหนึ่ง รอกระทั่งเงาร่างในฉลองพระองค์สีเหลืองประทับนั่งบนบัลลังก์ค่อยคุดเข่าถวายบังคมพร้อมกับคนอื่นๆ
องค์จักรพรรดิแห่งต้าเหลียงล่วงเลยวัยกลางคน พระเกศา 2 ด้านขมับเป็นสีขาวประปราย พระพักตร์ปรากฏรอยย่น แต่พระอิริยาบถยังคงไว้ซึ่งความสง่างาม
สายพระเนตรพุ่งตรงมาที่ร่างเหมยฉางซู
สำหรับองค์จักรพรรดิผู้ทรงเกียรติศักดิ์สูงสุด จะประมุขพรรคบูรพานทีหรือพรรคใหญ่สุดในแผ่นดินอะไรก็ตาม ล้วนเป็นเรื่องห่างไกลจากราชสำนักทั้งสิ้น เหตุที่พระองค์สนพระทัยในตัวเหมยฉางซู นั่นก็เพราะว่าทรงเข้าพระทัยเช่นเดียวกับมู่ซิง
ทรงคิดว่าเขาคือผู้ที่หนีหวงจวิ้นจู่เลือกไว้แล้วในใจ