มาดามหลูหลี / Rookie Historian Goo Hae-Ryung : อาลักษณ์มือใหม่ใจสู้

มาดามหลูหลี[email protected]

ผู้หญิงในยุคโบราณถูกขนบธรรมเนียมและประเพณีต่างๆ กดชีวิตของพวกเธอเอาไว้ ไม่อาจทำสิ่งใดได้อย่างอิสระ แม้แต่จะคิด มีชีวิตอยู่ภายใต้บุรุษ เมื่อเป็นเด็กอยู่ภายใต้การดูแลของพ่อ เมื่อเติบโตเป็นสาวและแต่งงานอยู่ภายใต้การดูแลของสามี และในวัยชราก็อยู่ภายใต้การดูแลของลูกชาย (ถ้ามี)

แต่กูแฮรยอง (ชินเซคยอง) หญิงสาวในยุคโชซอนไม่ได้คิดเช่นนั้น นางเป็นน้องสาวของกูแจคยอง (กงจองฮวา) ขุนนางในราชสำนัก มีอายุมากถึง 26 ปีแล้วยังไม่แต่งงาน ซึ่งในสมัยโชซอนถือว่าอายุมากเกิน เพราะหญิงสาวจะแต่งงานตั้งแต่อายุ 14-15 ปี

ในยุคนั้นกูแฮรยองนับว่ามีชีวิตที่ค่อนข้างอิสระ ถูกพี่ชายตามใจ ทั้งไม่เข้มงวดกับชีวิตนาง ในช่วงนั้นเป็นยุคโชซอนตอนปลาย เริ่มมีชาวต่างชาติและบาทหลวงเดินทางมาเผยแผ่ศาสนา จึงมีหนังสือที่ให้ความรู้วิทยาการแปลกใหม่ให้หาอ่านได้

กูแฮรยองวัย 26 ปี เรียกตัวเองว่า “สาวทึนทึกแห่งซาจิกดง” ด้วยใจยอมรับทั้งยังไม่รู้สึกเดือดร้อน นางชื่นชอบการอ่านหนังสือและแสวงหาความรู้ใหม่ๆ หาเงินด้วยการอ่านหนังสือให้หญิงสาวในชนชั้นสูงซึ่งมักต้องอยู่แต่ในบ้านฟัง

เป็นยุคที่หนังสือหาอ่านได้ยาก หากมีหนังสือใหม่ๆ ออกมา ผู้คนที่หิวกระหายหนังสือยินดีซื้อหา แต่หนังสือต้องใช้ลายมือคัดทีละเล่ม ไม่อาจพิมพ์เป็นร้อยเล่มพันเล่มในครั้งเดียว คนไม่รู้หนังสือจึงต้องให้คนรู้หนังสืออ่านให้ฟัง

เป็นกิจกรรมที่มีทั้งในที่ชุมชน หรือที่ส่วนตัว

 

องค์ชายอีริม (ชาอึนอู สมาชิกวางบอยแบนด์ Astro) ชื่นชอบการเขียนหนังสือ เป็นการใช้เวลาทดแทนชีวิตน่าเบื่อในวัง องค์ชายใช้นามปากกาว่า “แมฮวา” เขียนนิยายประโลมโลกจนเป็นที่นิยมของสาวๆ ทุกชนชั้น

องค์ชายอีริมแอบออกจากพระราชวัง เพื่อดูว่าหนังสือนิยายของพระองค์มีผลตอบรับแค่ไหน องค์ชายจึงได้พบกับกูแฮรยอง นักเขียนมาเจอนักอ่าน แต่มีเรื่องให้เข้าใจกันผิด

หากองค์ชายรู้สึกชื่นชมกูแฮรยองที่มีความคิดก้าวหน้าและตรงไปตรงมา ไม่เหมือนหญิงสาวทั่วไป ละครสร้างให้องค์ชาย 20 ชันษาในวัยละอ่อนมาพบกับหญิงสาวที่มีอายุมากกว่า 6 ปี

ดังนั้น ในวันสำคัญ วันแต่งงานของกูแฮรยองๆ จึงแอบหนีพี่ชายไปสอบเป็นอาลักษณ์หญิง ซึ่งเปิดรับผู้หญิงเป็นครั้งแรกในโชซอน

 

ซีรี่ส์เกาหลีย้อนยุคหลายๆ เรื่อง มักเล่าเรื่องตำแหน่งงานในพระราชวัง ซึ่งเหมือนอาชีพต่างๆ ปัจจุบัน เช่น หมอหญิง, ศิลปินหญิง ฯลฯ เพียงแต่ในยุคโบราณ การจ้างงานที่มีเงินเดือนคงมีแต่ในวังที่ทำได้

มีผู้หญิงจำนวนมากมาเข้าสอบเป็นอาลักษณ์หญิง หรือผู้บันทึกประวัติศาสตร์ แต่ตำแหน่งรับมีเพียง 4 คนที่ได้ถูกเลือกโดยองค์รัชทายาทอีจิน (พัคกีอุง)

หญิงสาวทั้งสี่ที่มาเป็นอาลักษณ์ ได้รับการทดสอบหลายอย่าง และถูกดูแคลนทั้งจากพวกอาลักษณ์ผู้ชายและกลุ่มคนอื่นๆ ในราชสำนัก ละครทำให้ดูน่าเห็นใจและตลกน่ารัก

อาลักษณ์มีหน้าที่บันทึกประวัติศาสตร์ ซึ่งส่วนใหญ่คือบันทึกเรื่องราวของราชวงศ์ เพื่อให้ผู้สืบทอดรุ่นต่อไปได้รับรู้ ทุกครั้งที่มีข้าราชบริพารเข้าเฝ้าราชวงศ์ จะต้องมีอาลักษณ์อยู่ด้วย เพื่อบันทึกการสนทนานั้น ไม่เว้นแม้แต่องค์พระกษัตริย์

หน้าที่ของอาลักษณ์คือการฟัง ไม่มีหน้าที่พูด ไม่ควรออกความเห็น เป็นเพียงผู้บันทึกตามที่ได้ยิน ไม่ใช่บันทึกตามความคิดเห็นของตนเอง

 

Rookie Historian Goo Hae-Ryung เรื่องราวที่เริ่มต้นด้วยความสนุกสดใส แต่กลับมีเรื่องราวปิดลับเบื้องหลังมากมาย ทั้งเรื่องชาติกำเนิดขององค์ชายอีริมและกูแฮรยอง เรื่องบันทึกลับ “บันทึกของโฮดัม” หนังสือที่ถูกตามกวาดล้าง ไม่ให้ถูกเผยแพร่

ความสัมพันธ์อันบาดหมางของกษัตริย์อีแท (คิมมินซัง) กับพระพันปี (คิมยอจิน) ซึ่งอาจไม่ใช่พระมารดาที่แท้จริงเป็นเพียงตำแหน่งพระพันปีที่เคยเป็นอดีตพระมเหสีของกษัตริย์พระองค์ก่อน ทั้งคู่จึงต่างจ้องจับดูการเคลื่อนไหวของแต่ละฝ่าย โดยต่างมิอาจลงมือกระทำการใดๆ ได้

อีกทั้งมีขุนนางอย่างมินอิคพยอง (ชเวด๊อกมูน) พระสหายที่คอยสนับสนุนกษัตริย์อีแท เป็นมือเปื้อนเลือดแทนองค์กษัตริย์ จนบางครั้งการกระทำถึงขั้นเกินเลยและล้ำเส้น

เรื่องราวในราชวงศ์และราชสำนัก มักมีความลับมากมาย เพราะเป็นสถานที่แห่งอำนาจขั้นสูงสุดของแผ่นดิน ผู้ที่แข็งแกร่งกว่า ฉลาดกว่า มีเล่ห์เหลี่ยมที่เหี้ยมโหดกว่า จึงจะเป็นผู้ชนะ

Rookie Historian Goo Hae-Ryung เรื่องราวของอาลักษณ์หญิงในช่วงเปลี่ยนผ่านของประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของโชซอน บ้านเมืองที่ต้องก้าวสู่ยุคใหม่

อาลักษณ์หญิงจึงเป็นเสมือนตัวแทนของความล้ำยุค ความคิดแปลกใหม่ที่เริ่มยอมรับผู้หญิง ซึ่งในประวัติศาสตร์อาจจะมีหรือไม่มี เพียงแต่ตำแหน่งงานเล็กๆ นี้เป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนแปลง

นอกจากความสนุกของละครแล้ว มีฉากสวยๆ ให้เห็นเกือบทุกตอน นอกจากนางเอกสวย พระเอกหล่อ ที่เวลายิ้มตาเหมือนมีพระจันทร์ยิ้มอยู่บนหน้าสองเสี้ยว นักแสดงอื่นๆ ก็น่าชื่นชม

ชอบพัคกีอุงที่รับบทองค์รัชทายาทแสนดีรักองค์ชายอีริม เรื่องนี้ทำให้เขาโดดเด่น และซงซาฮีที่รับบทพัคจีฮยอนซึ่งต้องการเป็นอาลักษณ์หญิง แม้นางจะเป็นถึงบุตรีของขุนนาง หากนางเป็นผู้หญิงที่ต้องการมีชีวิตที่พึ่งพาตัวเอง ไม่ใช่รอการเลือกคู่แต่งงานและอยู่ภายใต้การดูแลของสามีที่อาจมีอนุภรรยามากมาย

แม้เป็นเพียงอาลักษณ์หญิง ทำงานบันทึกทุกคำพูด หากทำหน้าที่อย่างภาคภูมิ ไม่หวั่นไหวหรือหวาดกลัวต่ออำนาจ