ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต/เจาะสเป๊ก ‘มาสด้า ซีเอ็กซ์-8’ พรีเมียมครอสโอเวอร์ ‘6-7 ที่นั่ง’

สันติ จิรพรพนิต

ยานยนต์ สุดสัปดาห์/สันติ จิรพรพนิต [email protected]

เจาะสเป๊ก ‘มาสด้า ซีเอ็กซ์-8’

พรีเมียมครอสโอเวอร์ ‘6-7 ที่นั่ง’

 

ต้องบอกว่ารอกันมายาวนานเหลือเกินกับรถครอสโอเวอร์อเนกประสงค์เอสยูวี “มาสด้า ซีเอ็กซ์-8”

เพราะโหมโรงกันมานานพอสมควร

ผมเองมีโอกาสไปทดลองขับรถรุ่นนี้ที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อกลางปีที่แล้ว ช่วงเดินทางไปงาน “Mazda Pan Pacific Forum 2018” ที่เมืองฮิโรชิม่า บ้านเกิดของมาสด้า

แต่ช่วงนั้นไม่ได้นำเสนอข้อมูลใดๆ เนื่องจากเป็นสเป๊กญี่ปุ่น ซึ่งปกติแตกต่างจากที่ขายในเมืองไทยอยู่แล้ว

ทว่าที่ชอบคือความแรงของเครื่องยนต์ ความกว้างขวางและสะดวกสบาย

เพราะแม้รูปลักษณ์เป็นรถครอบครัวขนาดใหญ่ แต่การขับก็คล่องตัวพอสมควร

ตอนแรกเข้าใจว่าคนไทยคงมีโอกาสสัมผัสรถรุ่นนี้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่มาสด้า ประเทศไทย เพิ่งนำมาทำตลาดในช่วงปลายปี

เอาเป็นว่าถึงมาช้าดีกว่าไม่มา

ที่สำคัญ มาสด้าตั้งราคามาฟัดกับรถพีพีวี หรือปิกอัพดัดแปลงได้น่าสนใจ

พร้อมวางตำแหน่งเป็น “New Era of 3-Row Crossover SUV” ครอสโอเวอร์อเนกประสงค์ระดับพรีเมียมแบบ 3 แถว ที่ดีที่สุดในตลาด

 

มาสด้า ซีเอ็กซ์-8 พัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของรถยนต์นั่ง

ลักษณะภายนอกตามเทรนด์การออกแบบของมาสด้า เน้นความเรียบง่าย แต่ให้อารมณ์สปอร์ตในที

ไฟหน้าแอลอีดี พร้อมระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ เปิดไฟสูงอัตโนมัติ ไฟตัดหมอกที่ชายล่าง

ไฟท้ายแบบแอลอีดีเช่นกัน

โดยทั้งไฟหน้าและไฟท้ายออกแบบคล้ายดวงตา เอกลักษณ์ของค่าย

ด้านบนมีสปอยเลอร์พร้อมไฟเบรกดวงที่ 3

ประตูบานที่ 5 เปิดด้วยระบบไฟฟ้า

ท่อไอเสียคู่แยกซ้ายขวา เพิ่มความสปอร์ตมากขึ้น

ล้อแม็กซ์ขนาด 19 นิ้ว

 

ภายในเน้นความเรียบง่ายเช่นกัน ซึ่งจะเป็นเอกลักษณ์ของรถรุ่นใหม่ของมาสด้าในอนาคตเช่นกัน จากคอนเซ็ปต์ “Less is More” ลดทอนสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป เหลือแต่ความสง่างาม

การตกแต่งภายในห้องโดยสารเลือกใช้สีโทนเข้ม วัสดุตกแต่ง Real Wood ผสมผสานกับสีเงินซาตินโครม มาพร้อมเบาะหนัง Nappa สีแดง Deep Red ตัดเย็บอย่างประณีตด้วยเส้นด้ายสีน้ำตาลเข้ม

ภายในมี 2 แบบคือ 6 ที่นั่ง และ 7 ที่นั่ง

โดยแบบ 6 ที่นั่งถือเป็นรุ่นท็อป เน้นนั่งกันสบายๆ ด้วยเบาะแบบ Exclusive Captain Seat 2 ที่นั่ง แยกซ้าย-ขวา ทั้ง 2 แถวหลัง

อัดแน่นไปด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกกับคอนโซลกลางที่เป็นทั้งกล่องเก็บของ ที่วางแก้วน้ำ ช่อง USB สำหรับชาร์จไฟ 2 ช่อง และม่านบังแดดที่ประตูคู่หลัง

ส่วนห้องโดยสารแบบ 3 แถว 7 ที่นั่ง มาพร้อมกับเบาะที่นั่งแถวสองแบบ 3 ที่นั่ง สามารถปรับพับแยกได้แบบ 60:40 พร้อมพนักวางแขน ที่วางแก้วน้ำ และช่อง USB สำหรับชาร์จไฟ 2 ช่อง ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับครอบครัวได้เป็นอย่างดี

เบาะที่นั่งแถวสามของทั้ง 2 แบบ รองรับผู้โดยสารที่มีความสูงได้ถึง 170 ซม. และสามารถปรับพับแยกได้อย่างแบนราบแบบ 50:50 เพื่อมอบพื้นที่ในการวางสัมภาระ

เบาะนั่งในตำแหน่งคนขับปรับไฟฟ้าได้ 8 ทิศทาง มาพร้อมระบบปรับเบาะดันหลังไฟฟ้า และระบบบันทึกตำแหน่งของเบาะ 2 ตำแหน่ง

ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแบบ Tri Zone พร้อมแผงควบคุมบริเวณเบาะนั่งแถวที่สอง

ระบบเสียงคุณภาพ Bose รอบทิศทาง พร้อมลำโพง 10 ตำแหน่ง รองรับการเชื่อมต่อแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ตโฟนผ่านระบบ Mazda Connect มาพร้อม Apple CarPlay โดยแสดงข้อมูลผ่าน Center Display จอสีแบบสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว ที่ควบคุมด้วยปุ่มควบคุมอัจฉริยะ Center Commander

 

ขุมพลังในให้เลือก 2 บล็อก

เครื่องยนต์สกายแอคทีฟคลีนดีเซล 2.2 ลิตร (SKYAVTIV-D 2.2) ปรับปรุงพัฒนาใหม่ พร้อมระบบวาล์วไอเสียแปรผันอัจฉริยะ VVT และระบบเทอร์โบแปรผัน 2 ชั้น ให้การตอบสนองที่รวดเร็วและแม่นยำยิ่งกว่าเดิมในทุกรอบความเร็ว

กำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 4,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ต่อ 2,000 รอบต่อนาที

เครื่องบล็อกนี้มีรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ อัตโนมัติ i-ACTIV AWD ที่ช่วยปรับระบบการขับขี่ให้เหมาะสมกับสภาพถนนมาให้เลือกด้วย (รุ่นท็อป)

ประหยัดน้ำมันสูงถึง 17.5 กิโลเมตรต่อลิตร

ส่วนอีกขุมพลังเป็นเครื่องยนต์สกายแอคทีฟเบนซิน 2.5 ลิตร (SKYACTIV-G 2.5) ที่ได้รับการปรับปรุงพัฒนาใหม่ พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT

ให้กำลังสูงสุด 194 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดถึง 258 นิวตัน-เมตร ต่อ 4,000 รอบต่อนาที

มีระบบควบคุมสมรรถนะการขับขี่อัจฉริยะ G-Vectoring Control หรือ GVC ที่ช่วยให้การควบคุมขับขี่ทำได้อย่างแม่นยำและสมดุล ขับขี่ได้อย่างมั่นใจ ผู้โดยสารสะดวกสบายมากขึ้น และประหยัดน้ำมันสูงถึง 13.5 กิโลเมตรต่อลิตร

 

อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำ “i-Activsense” รอบคัน ที่จะช่วยคาดการณ์และส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ให้เพิ่มความระมัดระวังยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันและลดการเกิดอุบัติเหตุ

ระบบความปลอดภัยที่มีการติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น อาทิ

ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน (Advanced Blind Spot Monitoring)

ระบบเตือนเมื่อมีรถในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (Rear Cross Traffic Alert)

ระบบแสดงภาพ 360 องศา รอบทิศทาง (360 View Monitor)

ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Mazda Radar Cruise Control)

ระบบเตือนการชนด้านหน้าและช่วยเบรกอัตโนมัติ (Smart Brake Support)

ระบบช่วยหยุดรถอัตโนมัติแบบ Advance (Advanced Smart City Brake Support) ที่ได้เพิ่มขีดความสามารถในการตรวจจับคนเดินถนน เพิ่มความปลอดภัยให้ทั้งผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงผู้ใช้ถนน ฯลฯ

“มาสด้า ซีเอ็กซ์-8” มีให้เลือก 4 รุ่นย่อย

2.5 S SKYACTIV-G ราคา 1,599,000 บาท

2.5 SP SKYACTIV-G ราคา 1,699,000 บาท

XDL SKYACTIV-D 2.2 1,899,000 บาท

และ XDL EXCLUSIVE SKYACTIV-D 2.2 ราคา 2,069,000 บาท (6 ที่นั่ง)