กรองกระแส / 4 เดือน รัฐบาล พลังประชารัฐ แข็งกร้าว ต่อพรรคร่วมรัฐบาล

กรองกระแส

 

4 เดือน รัฐบาล

พลังประชารัฐ แข็งกร้าว

ต่อพรรคร่วมรัฐบาล

 

ไม่ว่าเมื่อมองไปยังข้อขัดแย้งเกี่ยวกับตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560

ไม่ว่าเมื่อมองไปยังข้อขัดแย้งเกี่ยวกับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

ไม่ว่าเมื่อมองไปยังข้อขัดแย้งเกี่ยวกับการถือครองที่ดินอันเป็นของ ส.ป.ก.4-01 และป่าเสื่อมโทรมจำนวนกว่า 1,700 ไร่

มิได้เป็นปัญหาอันเนื่องมาจาก “ฝ่ายค้าน”

มิได้เป็นปัญหาอันเนื่องจากนายทักษิณ ชินวัตร หรือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือแม้กระทั่งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

เด่นชัดยิ่งว่าเป็นปัญหาอันมาจากพรรคพลังประชารัฐ

กรณีตำแหน่งประธานรัฐธรรมนูญเป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิปัตย์ กรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคภูมิใจไทย กรณีอันเกี่ยวกับการรุกที่ดินกว่า 1,700 ไร่เป็นปัญหาของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐที่อาจจะไปสัมพันธ์กับความรับผิดชอบของพรรคชาติไทยพัฒนา

เท่ากับว่าพรรคพลังประชารัฐกำลังจะมีปัญหากับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา อันเป็นพรรคร่วมรัฐบาล

 

เป้าหมายพลังประชารัฐ

ต้องการอำนาจเบ็ดเสร็จ

 

หากถามว่าทำไมพรรคพลังประชารัฐต้องการเป็นประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560

เพราะต้องการการนำที่เหนือกว่าพรรคประชาธิปัตย์

เพราะว่าพรรคประชาธิปัตย์เสนอนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ พรรคพลังประชารัฐไม่เพียงแต่ไม่ต้องการให้คนของพรรคประชาธิปัตย์มีอำนาจนำในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากเป้าหมายอย่างแท้จริงคือ พรรคพลังประชารัฐต้องการกำกับเส้นทางของรัฐธรรมนูญ

เป้าหมายอย่างแท้จริงคือ ไม่ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะกลไกของรัฐธรรมนูญเป็นคุณต่อการสืบทอดอำนาจของพรรคพลังประชารัฐ

ขณะที่ต่อกรณีของพรรคภูมิใจไทย ที่มีการขุดคุ้ยและโจมตีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมอย่างเป็นระบบ เป็นเพราะพรรคพลังประชารัฐต้องการทวงคืนกระทรวงคมนาคมและต้องการให้คนของตนไปดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรี

เป้าหมายแท้จริงก็คือ ต้องการการกุมอำนาจอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด กำหนดทิศทางของรัฐบาลโดยพรรคพลังประชารัฐอย่างแท้จริง

 

ทิศทางพลังประชารัฐ

กับ ประยุทธ์ จันทร์โอชา

 

ปฏิกิริยาของพรรคประชาธิปัตย์ต่อตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญเพราะไม่พอใจที่พรรคพลังประชารัฐไม่ต้องการแบ่งปันบทบาทให้กับพรรคประชาธิปัตย์

ปฏิกิริยาของพรรคภูมิใจไทยต่อการขุดคุ้ยโจมตีกระทรวงคมนาคมยิ่งรุนแรงหนักหน่วง

คำแถลงยาวเหยียดของพรรคภูมิใจไทย ไม่เพียงแต่มองเป้าหมายของพรรคพลังประชารัฐอย่างทะลุปรุโปร่ง หากแต่ยังทะลวงไปยังเครือข่ายของพรรคพลังประชารัฐที่ใช้สื่อของตนเพื่อต้องการด้อยค่าพรรคภูมิใจไทยและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม

ปฏิกิริยาของพรรคประชาธิปัตย์ ปฏิกิริยาของพรรคภูมิใจไทย จึงสะท้อนให้เห็นความรู้สึกของพรรคร่วมรัฐบาลที่ต้องการบทบาทของตนเอง

เป็นปฏิกิริยาโดยตรงไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นปฏิกิริยาโดยตรงไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีที่ดำรงอยู่ในฐานะประธานยุทธศาสตร์ พรรคพลังประชารัฐ

เหมือนกับเป็นคำถามว่า 2 ท่านนี้ต้องการเช่นนั้นหรือ

 

4 เดือนของรัฐบาล

รอยร้าว ยิ่งร้าวลึก

 

ปฏิกิริยาที่ต้องการรวบอำนาจของพรรคพลังประชารัฐ และปฏิกิริยาอันสะท้อนกลับมาจากพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และอาจจะเป็นจากพรรคชาติไทยพัฒนา

ไม่เพียงสะท้อน 4 เดือนของการร่วมรัฐบาล หากแต่ที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือ การแสดงให้เห็นบทบาทและความหมายของ 53 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 52 ส.ส.พรรคภูมิใจไทย และ 11 ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา

เป็นไปไม่ได้ที่ 116 ส.ส.พรรคพลังประชารัฐจะดำรงอยู่ได้อย่างโดดๆ

แม้ว่าจะมี 250 ส.ว.เป็นฐานรองแห่งอำนาจ แต่หากขาด 53 ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ 52 ส.ส.พรรคภูมิใจไทย 11 ส.ส.พรรคชาติไทยพัฒนา

การก้าวเดินของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็จะมากด้วยอุปสรรค